กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงใยสุขภาพของประชาชนเน้นย้ำมาตรการ 3 ด้าน ป้องกันการระบาดของโรคโควิด 19 เพิ่ม ถึงแม้ยังไม่พบการระบาดเป็นวงกว้าง แนะประชาชนดูแลสุขอนามัยตนเองและครอบครัว ลดเสี่ยงโรค
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูลรายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมควบคุมโรค พบว่า มีจำนวนผู้ป่วยปัจจุบัน 41,197 ราย เสียชีวิต 15 ราย ซึ่งมีแนวโน้มลดลง และต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2567 ที่มีผู้ป่วยมากถึง 777,730 ราย เสียชีวิต 222 ราย โดยปัจจุบันไม่พบการระบาดแบบกลุ่มก้อน เมื่อเทียบกับผู้ป่วยปีก่อน ๆ ถึงแม้ว่าโรคโควิด 19 ปัจจุบันจะมีความรุนแรงน้อยลง แต่ก็ยังสามารถทำให้เกิดการระบาดและส่งผลต่อสุขภาพประชาชนได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่โรคประจำตัว เป็นต้น ยังคงต้องเฝ้าระวัง และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด เว้นระยะห่างและหลีกเลี่ยงเข้าไปยังชุมชนหรือพื้นที่แออัด สำหรับสถานประกอบกิจการ ตลาด ร้านจำหน่ายอาหาร ศาสนสถาน สถานศึกษา และสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ควรมีการกำหนดมาตรการในการป้องกันโรคด้านการจัดการสุขาภิบาล สุขอนามัย และอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานที่อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงสุขภาพ ด้วยมาตรการหลัก 3 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม เน้นการทำความสะอาดจุดเสี่ยง/จุดสัมผัสร่วม เพิ่มการระบายอากาศที่ดี จัดให้มีอุปกรณ์ล้างมืออย่างเพียงพอ 2) ด้านพนักงานและผู้ปฏิบัติงาน ส่งเสริมให้มีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี คัดกรองอาการป่วยของพนักงาน หากป่วยควรหยุดปฏิบัติงาน สำหรับสถานที่จำหน่ายอาหาร ให้พนักงานสวมหน้ากากขณะให้บริการ และผ่านการอบรมมาตรฐานของผู้สัมผัสอาหาร และ 3) ด้านประชาชนที่เข้ารับบริการ แนะนำให้สวมหน้ากากเมื่อเข้าไปในสถานที่ที่ผู้คนแออัด หรือพื้นที่ปิด อากาศไม่ถ่ายเท ล้างมือบ่อย ๆ เมื่อมีการสัมผัสอุปกรณ์สิ่งของหรือจุดเสี่ยง
"นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากังวล คือ ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เปิดเทอม เด็กจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดการระบาดเพิ่มได้ กรมอนามัย ห่วงใยสุขภาพของประชาชน จึงขอแนะนำให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัวอย่างใกล้ชิด ด้วย 5 วิธี คือ 1) กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สะอาด และปลอดภัย 2) ใช้ช้อนกลางหรือช้อนส่วนตัวในการตักอาหารจากส่วนกลาง 3) ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดเป็นประจำ ด้วย 7 ขั้นตอน อย่างน้อย 20 วินาที หลังสัมผัสสิ่งสกปรก ก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำห้องส้วม และหลังสัมผัสผู้ป่วย หรือการทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ 4) เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย1-2 เมตร โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการไอ จาม หรือป่วย และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหากไม่จำเป็น 5) สวมหน้ากากอนามัย เมื่อจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่แออัดหรือที่มีคนจำนวนมาก สังเกตอาการตนเอง หากมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก หรือสูญเสียการรับรสหรือกลิ่น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
กรมอนามัย เตือนฝุ่นและก๊าซรอบกองขยะหลังน้ำลดในพื้นที่หาดใหญ่ แนะผู้ปฏิบัติงาน-ประชาชน ป้องกันตนเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
สธ.-มหาเถรสมาคม เดินหน้าพัฒนาศักยภาพพระธรรมนิเทศด้านสุขภาวะ ยกระดับ "พระแข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเป็นสุข"
กรมอนามัย ปั้นนักจัดการสุขภาพครอบครัว ทั่วไทยรอบรู้ ลดเสี่ยง NCDs
กรมอนามัย ร่วมส่งน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม พร้อมเป็นหนึ่งช่องทางรับสิ่งของช่วยเหลือ
กรมอนามัย ระดมทีม SEhRT ลงพื้นที่ฟื้นฟูการจัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้
กรมอนามัย เตรียมพร้อมสนับสนุนชุดจัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ภาคใต้
กระทรวงสาธารณสุขประกาศ ไทยก้าวสู่สุขอนามัยยั่งยืน "วันส้วมโลก 2568" ชูมาตรฐาน HAS ทั่วประเทศ พร้อมก้าวสู่สากล
กรมอนามัย เตรียมทีมปฏิบัติการตรวจเฝ้าระวังสุขอนามัย รับเจ้าภาพซีเกมส์ อาเซียนพาราเกมส์ 2025
สธ. ชูนโยบาย 3 ด้าน ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จับมือ มูลนิธินมแม่ฯ - สสส. ร่วมผลักดันสังคมนมแม่ยั่งยืน หนุนไทยก้าวข้ามวิกฤติเด็กเกิดน้อย