ปัจจุบันทั้งสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรีหลายคนอาจมองว่าการ “ศัลยกรรมเสริมความงาม” เป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้ในการใช้ชีวิตภายใต้ยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สภาพสังคมและค่านิยมที่เปลี่ยนไปทำให้การทำศัลยกรรมเสริมความงามเป็นที่นิยมมากขึ้นโดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งปัจจัยหลักในการทำศัลยกรรมเสริมความงามของสุภาพสตรีเกิดจากการขาดความมั่นใจ ขาดความพึงพอใจในรูปลักษณ์ของตน เพื่อสร้างรายได้จากอาชีพ จนนำไปสู่การจะเปลี่ยนแปลงให้รูปร่างหน้าตาดูดียิ่งขึ้น หลายคนมักจะหมกมุ่นกับเรื่องความงามและรูปร่างหน้าตาเป็นสำคัญ
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรม สบส. ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการศัลยกรรมเสริมความงามโดยสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน ยิ่งปัจจุบันค่านิยมว่าการทำศัลยกรรมเพื่อแก้ไขรูปลักษณ์ให้โดดเด่น สวยงามอาจส่งผลต่อความสำเร็จทั้งในด้านการงาน และด้านสังคม บางคนถึงกับเกิดความคลั่งไคล้ใช้เวลากับการทำศัลยกรรมหลายต่อหลายครั้งจนในที่สุดก็เกิดเป็นปัญหา "การเสพติดศัลยกรรม" อาการของ "การเสพติดศัลยกรรม" คือ การรู้สึกไม่พอใจกับรูปร่าง หน้าตาของตนเองและต้องการศัลยกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนแก้ไขให้ได้อย่าใจต้องการอย่างไม่รู้จบ สาเหตุของอาการโดยส่วนใหญ่มาจากการที่มีความหมกมุ่นเกี่ยวกับร่างกายของตัวเองมากเกินไป และเกิดความไม่พึงพอใจในตนเอง นำมาซึ่งการแก้ไขปัญหา ด้วยการศัลยกรรม โดยมิได้คำนึงว่าการทำศัลยกรรมเสริมความงามนับเป็นดาบสองคม มิใช่ว่าทุกรายเมื่อเข้าสู่กระบวนการทำศัลยกรรมเสริมความงามแล้วออกมาดูดี สวยงาม ดั่งที่หวังเหมือนกันหมด ผู้โชคร้ายบางรายที่ประสบปัญหาจากการศัลยกรรมจนพบกับความเจ็บปวด ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก บางรายถึงขั้นฆ่าตัวตายและเสียชีวิตจากการศัลยกรรมความงามโดยสถานพยาบาลที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและ รับอนุญาตก็มีให้พบเห็นบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้มีมาตรการคุมเข้มในการตรวจสถานเสริมความงามเพื่อความปลอดภัย เน้นย้ำให้ผู้ตัดสินใจพิจารณาศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจทำศัลยกรรมดังกล่าว
สำหรับผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบว่าสถานพยาบาลหรือคลินิก มีการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินความจริง มีความผิดตาม มาตรา 58 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 68 ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท นับแต่วันที่ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะระงับการโฆษณาดังกล่าว ผู้ที่ต้องการเช้ารับบริการศัลยกรรมเสริมความงาม ควรศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในด้านของแพทย์ผู้ให้บริการต้องแจ้งกับผู้รับบริการทั้งผลดีและผลเสียที่ตามมา ก่อนการตัดสินใจการรับบริการ หากพบข้อผิดสังเกตหรือข้อสงสัย กับสถานพยาบาลและแพทย์ผู้ให้บริการศัลยกรรมเสริมความงาม สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากสภาวิชาชีพ และสามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน สบส.02-193-7999 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Facebook: มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน
สบส. ส่ง ทีมเอ็มเสิร์ท ลงพื้นที่ด่วน! ฟื้นฟู รพ.สต.พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ หลังน้ำท่วมถล่ม
สบส. เผยผลสำรวจพฤติกรรมการถูกกลั่นแกล้ง พบเด็กไทยเสี่ยงทำร้ายตัวเองมากกว่า 1 ใน 4
สบส. เผยผลสำรวจพฤติกรรมสูบบุหรี่ไฟฟ้า พบนักสูบรายใหม่อายุต่ำสุดเพียง 6 ปี - สาเหตุหลักเพื่อนชวน
สบส. เปิดเวทีวิชาการประจำปี 2568 ชู "ระบบสุขภาพกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ"
สบส.จับมือภาคเอกชน พัฒนา Web Application ยกระดับระบบสื่อสารสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ทั่วประเทศ
สบส. จัดประชุมเสริมศักยภาพคณะกรรมการชมรม อสม. แห่งประเทศไทย ปี 2568
กรมอนามัย ปรับมาตรฐานการเพิ่มน้ำหนักขณะตั้งครรภ์ของประเทศไทย ลดเสี่ยงโรค-ภาวะแทรกซ้อน
สบส. ย้ำ! เปิดสอนนวดต้องผ่านการรับรองหลักสูตรจากกรมก่อน - ผู้เรียนยื่นขึ้นทะเบียนเป็น ผู้ให้บริการได้ฟรี