จุฬาฯ นำร่อง Generative AI ในการเรียนการสอน แนะยุทธศาสตร์ชาติ ส่งเสริม AI Literacyให้คนเข้าใจและใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพงาน ย้ำมนุษย์ต้องเพิ่มศักยภาพและสมรรถนะตัวเอง ก่อนถูก AI ทดแทนและทิ้งไว้ข้างหลัง
เทคโนโลยี AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดตัว Open AI อย่าง ChatGPT หุ่นยนต์แช็ตบ็อต (Al Chatbot) ที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ -- เรื่องนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับหลายคน ที่เห็นโอกาสในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี แต่ก็อาจสร้างความตื่นตระหนกให้กับหลายคนด้วยเช่นกันว่าความสามารถของ AI ในระดับนี้จะเป็นการคุกคามหรือริดรอนมนุษย์ในด้านใดบ้าง อย่างที่มักได้ยินคำถามว่า "AI จะแย่งงานมนุษย์?" "AI เก่งกว่าคน?" "AI ดูดข้อมูล?"
ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือโลกเข้าสู่ยุค AI แล้ว! ประเทศไทยพร้อมรับมือไหม? เป็นคำถามและชื่อของหนึ่งในสองงานเสวนาวิชาการที่จุฬาฯ จัดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ ส่วนอีกงานหนึ่งชื่อ "จุดยืนจุฬาฯ นำการศึกษารุดหน้าด้วย Generative AI" การเสวนาวิชาการทั้งสองงานมีเป้าหมายเพื่อชี้ชวนให้คนในสังคมเห็นโอกาสในการใช้ประโยชน์จาก AI รวมถึงนำเสนอข้อคิดและแนวทางในการเตรียมความพร้อมในการอยู่ในยุค AI
AI Literacy หนึ่งใน 3 สมรรถนะสำคัญของมนุษย์ในอนาคต
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมบูรณาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ราชบัณฑิต แสดงทัศนะในงานเสวนาวิชาการ "ยุคเอไอได้มาถึงแล้ว ประเทศไทยพร้อมรับมือไหม?" ว่า "AI จะอยู่กับเราตลอดไป หากเราไม่พัฒนาคนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ AI เราจะก้าวไม่ทันโลก โดยเฉพาะอย่างยื่ง ในอนาคตหาก AI เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมและการพัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ มากขึ้น AI จะสามารถสร้างงานได้อย่างมหาศาล โดยไม่ต้องใช้แรงงานคน ซึ่งถ้าเราไม่มีการเตรียมคนให้มีความรู้เรื่อง AI ในอนาคตอาจทำให้คนตกงานได้"
หลายประเทศในเอเชีย เช่น จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้แล้ว ส่วนประเทศไทย ศ.กิตติคุณ ดร.วรศักดิ์ กล่าว่า "ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนของสังคมไทยต้องหันมาให้ความสนใจกับการกำหนดหา "ที่ยืนของประเทศไทยในโลกแห่งอนาคต" เพื่อเผชิญกับพายุแห่งการเปลี่ยนแปลงของโลกยุค AI"
"AI Literacy จะเป็นหนึ่งในสามสมรรถนะพื้นฐาน ที่เยาวชนต้องเรียนรู้ นอกจากสมรรถนะทางด้านภาษาและการคำนวณ"
ศ.กิตติคุณ ดร.วรศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่าจากวันนี้ไปนับเป็นช่วงรอยต่อที่สำคัญและเป็นโจทย์อันท้าทายสำหรับจุฬาฯ ที่จะปูพรมพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ เพื่อให้ประชากรไทยมี Al Literacy อีกทั้งต้องปลูกฝังระบบนิเวศการศึกษาและการวิจัยด้านเทคโนโลยี AI
AI แทนที่ หรือ เสริม ศักยภาพมนุษย์
ในปัจจุบัน เราได้เห็นแล้วว่า AI มีความสามารถหลากหลาย ที่เสมอเหมือนหรืออาจจะล้ำกว่ามนุษย์ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องการความแม่นยำสูง นอกจากนี้ AI ยังมีสมรรถนะในการพัฒนาความฉลาดและความสามารถตัวเองตลอดเวลา - ทำให้เกิดคำถามถึงความมั่นคงด้านอาชีพและการดำรงอยู่ของมนุษย์
คำถามที่มักพบบ่อยในการเสวนาและการอบรมในประเด็นที่เกี่ยวกับ AI ก็อย่างเช่น "AI จะแย่งงานเรากันหมดไหม?" หรือ "คนจะยังมีประโยชน์อยู่ไหม หากเทคโนโลยีอย่าง AI สามารถเข้ามาทำหน้าที่แทนในหลาย ๆ ตำแหน่ง" หรือ"แล้วคนจะทำอะไร"
รองศาสตราจารย์ ดร.วิโรจน์ อรุณมานะกุล ผู้อำนวยการสถานบันภาษาไทยสิรินธร จุฬาฯ ชวนให้เรามอง AI ในมุมบวกที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพมนุษย์
"การเข้ามาของ Generative AI และตัวอย่างการใช้ ChatGPT ทำให้การทำงานของเราหลายอย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น เหมือนมีคนคอยช่วยงาน ให้งานที่เคยต้องทำเองแต่เดิม เสร็จได้เร็วขึ้นและดีขึ้น"
แล้วมนุษย์จะทำอะไร ?
"เราอาจจะต้องขยายขอบเขตความรับผิดชอบของตัวเองให้ขยับไปสู่งานอื่นหรืองานใหม่ ๆ ที่ยากขึ้น เราคงไม่อาจทำงานแบบที่เป็นงานประจำ หรือทำอะไรเหมือนเดิมทุกวี่วันได้ คงต้องมองงานเป็นโอกาสในการเรียนรู้ การทำเช่นนี้ทำให้ทุกคนต้องหมั่นพัฒนาตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี"
รศ.ดร.วิโรจน์ ยกตัวอย่างผู้ที่ทำงานด้านการบริหารธุรการ ที่แต่เดิมอาจเน้นไปที่งานเอกสาร จัดทำข้อมูลต่าง ๆ แต่ในเวลานี้ ควรต้องเริ่มมองงานส่วนบริหารวิเคราะห์ข้อมูลให้มากขึ้น เริ่มทำความเข้าใจข้อมูลและใช้ AI ให้วิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นให้เพื่อนำเสนอผู้บริหาร จึงจะยังคงบทบาทและความสำคัญในองค์กรได้
สอดคล้องกับ รศ.ดร.วิโรจน์ ที่เห็นการมาของ AI เป็นโอกาสที่เร่งให้มนุษย์ขวนขวายพัฒนาศักยภาพตนเอง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศุภวัฒน์ หิรัญธนวิวัฒน์ จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ก็เคยกล่าวในบทความ "AI วาดรูป เทรนด์การสร้างผลงานศิลปะ แทนที่ หรือ เติมเต็ม ฝีมือและจินตนาการมนุษย์?" https://www.chula.ac.th/highlight/94907/ ว่า "เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตัวเอง มันสร้างอาชีพของนักพัฒนา เป็นประโยชน์ต่อคนที่จะได้ริเริ่มอาชีพใหม่ ๆ และไม่ว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาอย่างไร ชีวิตก็ยังเป็นของมนุษย์อยู่ดี ขอให้เราสนุกไปกับเทคโนโลยีที่นำความเปลี่ยนแปลงเข้ามาให้ชีวิต"
จุฬาฯ นำการศึกษารุดหน้าด้วย Generative AI
ในการเสวนาวิชาการ "Chula the Impact ครั้งที่ 19" เรื่อง "จุดยืนจุฬาฯ นำการศึกษารุดหน้าด้วย GENERATIVE AI" รองศาสตราจารย์ ดร.โปรดปราน บุณยพุกกณะ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้ จุฬาฯ กล่าวนำเสนอความก้าวหน้าของจุฬาฯ ในการบุกเบิกการนำนวัตกรรม Generative AI เข้ามาใช้ในกระบวนการเรียนการสอน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับคณาจารย์และนิสิตในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น
"เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์แบบ Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากในยุคปัจจุบัน เพราะศักยภาพในการสร้างเนื้อหา รูปภาพ และการเขียนโค้ดต่าง ๆ ทำให้คนทำงานได้ง่ายขึ้น นับเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มโอกาสในธุรกิจ การศึกษา และกระบวนการทำงานในหลายอาชีพด้วย เช่น ศิลปะ" รศ.ดร.โปรดปราน กล่าวและได้ยกตัวอย่างการใช้เครื่องมือ ChatGPT ในการพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนการสอน เช่น กิจกรรม Chula Lunch Talk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในการแบ่งปันความรู้จากคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญเพื่อเผยแพร่ความรู้และเสนอแนะเรื่องการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการเรียนการสอน
ทั้งนี้ รศ.ดร.โปรดปราน ได้กล่าวถึงแนวปฏิบัติในการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ของจุฬาฯ เพื่อดูแลและกำกับการใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสม สอดคล้องกับหลักจริยธรรม และเพื่อประโยชน์ในการเรียนการสอน โดยแบ่งเป็น 3 หมวดสำคัญ ดังนี้
อนาคตมาเร็วกว่าที่คิด โลกในยุค AI จะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไรเป็นเรื่องที่ท้าทาย ยากจะคาดเดา และน่าติดตาม ทั้งนี้ รศ.ดร.วิโรจน์ กล่าวให้ข้อคิดทิ้งท้ายว่า "ในอนาคต ไม่ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทหรือแทนที่มนุษย์จริงหรือไม่ หรือมากน้อยแค่ไหน มนุษย์ถูกสร้างให้เรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ ดังนั้น ผู้ที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมรับรู้และไม่เข้าใจการใช้ประโยชน์จาก AI จะเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่จะได้รับผลกระทบ"
สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ SkillLane แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ชั้นนำของไทย ในการพัฒนา "National Skill Framework" หรือกรอบทักษะแห่งชาติที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) การผนึกกำลังนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรไทยในทุกภาคส่วน ให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่อย่างมั่นคงและยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อปิดช่องว่างด้านทักษะแรงงานไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานยุคดิจิทัล สร้าง "ระบบนิ
คณะอุตสาหกรรมเกษตรดิจิทัล มจพ. ชูธงร่วมเครือข่ายจัดใหญ่การประชุมวิชาการ นวัตกรรมอาหารระดับเอเชีย (FIAC) 2025
—
ศ.ดร สมฤกษ์ จันทรอัมพร รองอธิการบดีฝ่ายวิจั...
สมศ. พลิกโฉมการประเมินคุณภาพภายนอกด้วย AI ภายใต้ "ONESQA 5.0" เสริมความโปร่งใส แม่นยำ และพัฒนาอย่างยั่งยืน
—
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา...
Digital Edge B.Grimm (TH) เปิดตัวศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ไฮเปอร์สเกล และ AI ในไทย มูลค่าโครงการ 24,520 ล้านบาทในเขต EEC
—
ดิจิทัล เอดจ์ (สิงคโปร์) โฮลดิ้งส์ จำ...
สวทช. จับมือ สยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่นฯ ผลักดัน AI ภาษาไทย การพัฒนาแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ "Thai LLM"
—
(วันที่ 6 มิถุนายน 2568) ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพร...
ACC Program รุ่นที่ 2 เดินหน้าสร้าง Tech Talent ด้านดิจิทัลและ AI ปั้นกำลังคนสู่โลกอุตสาหกรรมจริง เสริมแกร่งระบบนิเวศนวัตกรรมไทย
—
NIA ร่วมมือ iNT มหิดล แ...
ฟีโบ้-มจธ. จัดงาน "หุ่นยนต์ไม่กัด : เปิดโลกหุ่นยนต์ และ AI แบบสนุก เข้าใจง่าย" หวังให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างรู้เท่าทัน
—
"ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ...
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ SPU พานักศึกษาเจาะลึกเทคโนโลยีระดับโลก ในงาน 'Huawei Thailand Digital & AI Summit 2025'
—
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีปทุม...
กระทรวง DE และ หัวเว่ย คลาวด์ ประกาศความร่วมมือเพื่อผลักดันประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลาง AI แห่งอาเซียน
—
หัวเว่ย คลาวด์ ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิ...