นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีมีชาวต่างชาติเดินสะดุดล้มบนทางเท้าในซอยร่วมฤดีได้รับบาดเจ็บว่า สำนักงานเขตปทุมวัน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมทั้งสอบถามประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงที่ชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บว่า ได้รับการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลใด อีกทั้งได้ประสานสายด่วนศูนย์เอราวัณ 1669 มูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และโรงพยาบาลที่อยู่บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ซึ่งไม่พบข้อมูลผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ทราบชื่อและนามสกุลผู้บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้ติดตามเพื่อหาช่องทางการติดต่อผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือและเยียวยาต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าว พบฝาบ่อพักท่อระบายน้ำที่ซ่อมแซมชั่วคราวโดยนำคอนกรีตไปปรับแต่งให้เรียบตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ปัจจุบันสำนักงานเขตฯ ได้เปลี่ยนฝาบ่อพักท่อระบายน้ำเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้น ยังพบตู้ควบคุมของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในบริเวณดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างประสาน กฟน.เพื่อดำเนินการแก้ไขสิ่งกีดขวางทางสัญจรต่อไป
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 รวม 3 จังหวัด
ก้าวแรกสู่เส้นทางพยาบาล.. เปิดรับทุนต้นกล้าพยาบาล 3 สถาบัน จำนวน 45 ทุน ประจำปีการศึกษา 2569
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งกระจายกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ระดมทีมกู้ชีพ กู้ภัย จัดตั้งโรงครัวฯ จัดกำลังช่วยเหลือชาวเพชรบูรณ์ และส่งทีมสังคมสงเคราะห์ แผนกสาธารณภัยฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ชาวเชียงราย พะเยา น่าน สุโขทัย
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมค่าพาหนะ ในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 รวม 5,000 ชุด และจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนบริการตรวจรักษาฟรี ณ สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร
โรงพยาบาลหัวเฉียว ร่วมนำเสนอศักยภาพทางการแพทย์ในงานประชุมประชุมสมาคมแต้ติ๋วแห่งประเทศไทย
โรงพยาบาลหัวเฉียว ฉีดวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ให้แก่ผู้ป่วยฟอกไตฟรี
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดสรรงบฯ เพิ่มอีกกว่า 2.39 ล้านบาท นำน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา เร่งลงพื้นที่ 4 จังหวัดช่วยเหลือกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา มอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ให้แก่ผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ รวมมูลค่า 1.5 ล้านบาท