SCGD เคาะราคาขายสุดท้าย IPO หุ้นละ 11.50 บาท หลังสำรวจดีมานด์นักลงทุนสถาบันคึกคัก พร้อมเสนอขายนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยวันที่ 8 และ 12 - 13 ธ.ค.นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ประกาศราคาสุดท้าย IPO ที่ 11.50 บาทต่อหุ้น หลังนักลงทุนสถาบันแสดงความต้องการจองซื้อคึกคัก พร้อมเสนอขายนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในวันที่ 8 และ 12 - 13 ธันวาคม 2566 และคาดเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในธันวาคมนี้ ชูศักยภาพผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์และใช้แบรนด์สินค้า รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งในอาเซียนเพื่อต่อยอดขยายตลาดสุขภัณฑ์ และเดินหน้าลงทุนสายการผลิตใหม่กระเบื้องไวนิล SPC ในประเทศไทย และเพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องพอร์ซเลนขนาดใหญ่ในประเทศเวียดนาม เพื่อตอบสนองดีมานด์

SCGD เคาะราคาขายสุดท้าย IPO หุ้นละ 11.50 บาท หลังสำรวจดีมานด์นักลงทุนสถาบันคึกคัก พร้อมเสนอขายนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยวันที่ 8 และ 12 - 13 ธ.ค.นี้

นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยว่า บริษัทฯ ผสานความแข็งแกร่งของ 5 บริษัทย่อย มุ่งขยายธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และคงความเป็นผู้นำธุรกิจในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะการขยายตลาดใน 4 ประเทศหลัก ได้แก่ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ที่มีศักยภาพเติบโตสูงจากแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจและจำนวนประชากรรวมกันประมาณ 560 ล้านคน โดยใช้จุดแข็งด้านความแข็งแกร่งของแบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค มีสินค้านวัตกรรมและผลิตภัณฑ์หลากหลาย สามารถตอบสนองลูกค้าทุกระดับ มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม ทั้งเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายกว่า 800 ราย และร้านค้าเครือข่ายรวมทั้งสิ้นกว่า 10,000 ร้าน ทั้งร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ช่องทางจัดจำหน่ายของบริษัทฯ และออนไลน์ รวมถึงตลาดส่งออกกว่า 57 ประเทศ SCGD เคาะราคาขายสุดท้าย IPO หุ้นละ 11.50 บาท หลังสำรวจดีมานด์นักลงทุนสถาบันคึกคัก พร้อมเสนอขายนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยวันที่ 8 และ 12 - 13 ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาวจากการขยายตัวของเมืองและการเพิ่มขึ้นของรายได้ชนชั้นกลาง คาดว่ามูลค่าตลาดรวมวัสดุตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ในปี 2565 - 2569 จะเพิ่มขึ้นจากประมาณ 180,000 ล้านบาท เป็น 250,000 ล้านบาท โดยความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องการสินค้าระดับพรีเมียม สินค้าที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกลุ่ม Smart Products มากยิ่งขึ้น จะเป็นโอกาสของบริษัทฯ ที่จะขยายตลาดในภูมิภาคนี้

ปัจจุบันบริษัทฯ ถือเป็นผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน โดยมีโรงงานผลิตกระเบื้องปูพื้นและบุผนังในประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย กำลังการผลิตรวม 187.2 ล้านตารางเมตรต่อปี ติดท็อป 5 ของโลก มีโรงงานผลิตสุขภัณฑ์ในประเทศไทย กำลังการผลิต 2.3 ล้านชิ้นต่อปี และโรงงานผลิตก๊อกน้ำในประเทศไทย กำลังการผลิต 1.7 ล้านชิ้นต่อปี และมีส่วนแบ่งการตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิวเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมถึงส่วนแบ่งตลาดสุขภัณฑ์เป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย

"บริษัทฯ วางแผนขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก โดยเห็นโอกาสขยายตลาดสุขภัณฑ์จากประเทศไทยสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยหนึ่งในตัวอย่างที่ดีคือการที่ปัจจุบันบริษัทฯ ทำการขยายเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายสุขภัณฑ์ในเวียดนาม โดยต่อยอดจากร้านผู้แทนจำหน่ายกระเบื้อง และจะใช้ 'COTTO' เป็นแบรนด์เรือธงเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ขณะเดียวกันจะขยายตลาดผลิตภัณฑ์กระเบื้องไวนิล SPC วัสดุตกแต่งพื้นผิวทางเลือกใหม่ในตลาดอาเซียน ล่าสุดได้เดินหน้าแผนลงทุนติดตั้งสายการผลิตใหม่ที่โรงงานหินกอง สระบุรี กำลังการผลิต 1.8 ล้านตารางเมตรต่อปี รวมถึงเดินหน้าโครงการลงทุนต่างๆ เช่น เตรียมลงทุนโครงการขยายกำลังการผลิตกระเบื้องพอร์ซเลนรวม 6.6 ล้านตารางเมตรต่อปีในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศเวียดนาม และอยู่ระหว่างศึกษาแผนลงทุนโรงงานกระเบื้องในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศเวียดนาม โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ไตรมาส 3 ที่ผ่านมาได้เริ่มเดินเครื่องจักรสายการผลิตใหม่กระเบื้องเซมิ-เกลซ พอร์ซเลน และกระเบื้องขนาดใหญ่อีก 1.38 ล้านตารางเมตรต่อปี ที่โรงงาน Dai Loc ในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นสินค้าระดับกลางถึงพรีเมียมที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี" นายนำพล กล่าว

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) หลังจากสำรวจความต้องการจองซื้อหุ้นจากนักลงทุนสถาบัน ถือว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างดีและมีผู้แสดงความต้องการจองซื้อมากกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ จึงกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย IPO ที่ 11.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายสุดท้าย และจะเปิดให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้น IPO ในวันที่ 8 และ
12 - 13 ธันวาคม 2566 ที่ราคาเสนอขายสุดท้าย IPO

การเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงการเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ COTTO เพื่อแลกหุ้นและเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป มีจำนวนไม่เกิน 439,100,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 26.61 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ จะเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินและศักยภาพการขยายธุรกิจ โดย SCGD จะนำไปขยายธุรกิจทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน ชำระเงินกู้ การควบรวมกิจการในอนาคต เป็นเงินทุนหมุนเวียนและปรับโครงสร้างเงินทุน ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างและเสนอขาย IPO เป็นที่เรียบร้อย SCGD จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีผลให้ผู้ถือหุ้น COTTO ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์กลายเป็นผู้ถือหุ้นของ SCGD


ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศวันนี้

หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ ร่วมออกบูธในงาน Set in the City 2025 ตอกย้ำความเป็นที่ 1 ใน DR

นายอัสสเดช คงสิริ (ที่สามจากซ้าย) กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดงาน Set in the City 2025 มหกรรมการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี ให้เกียรติเข้าเยี่ยมชมบูธ หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จัดเต็มความรู้ด้านการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกระดับความเสี่ยง ตอบโจทย์ความต้องการนักลงทุนรายย่อยในทุกจังหวะของตลาด แนะนำโอกาสการลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านผลิตภัณฑ์ Depositary Receipt (DR) ตอกย้ำความเป็นที่ 1 ใน DR จัดเต็มโปรโมชัน ที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าคนพิเศษของ

นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้า... SAFE ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังโต เก็บไข่-ฝังตัวอ่อนเพิ่ม — นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางสาวชนิดา พัธโนทัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบั...

บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหา... JMART - JMT ควบสามดัชนีหลักต่อเนื่อง SET100 - SET ESG - SETHD ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตยั่งยืน — บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART และ ...

ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 4 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น TRITN

ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 4 ราย ได้แก่ (1) นายภสุ วชิรพงศ์ (2) นายวิชาญ วชิรพงศ์ (3) นายอัครรัฐ วรรณรัตน์ และ (4) นายนัธทวัฒน์ พิบูลย์ธนอมร กรณีสร้างราคาหุ้น บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง...

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ... บางจากฯ พื้นฐานแกร่ง หุ้น BCP ได้รับเลือกเป็นหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี SET50 — บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ได้รับเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แ...

ก้าวสำคัญของ เทคลีด เอ็นพีเอ็น หรือ TL ใน... "TL" เขย่ากระดาน! เปิดโปรเจกต์เทคฯ แรก ทุ่มซื้อ "จียูเพย์" (GUPay) ลุย Payment Gateway เต็มตัว — ก้าวสำคัญของ เทคลีด เอ็นพีเอ็น หรือ TL ในการเข้าสู่ธุรกิจ...