ก.ล.ต. เดินหน้าเชิงรุก เปิดให้บริการ "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" ช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิด "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" สำหรับเป็นช่องทางในการรับแจ้งเบาะแสการหลอกลวงในตลาดทุนจากประชาชนได้โดยตรง พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรในตลาดทุนร่วมแจ้งเบาะแส และประสานความร่วมมือกับศูนย์ AOC กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมุ่งเป้าเร่งปิดบัญชีม้า รวมทั้งผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ในการปิดกั้นเนื้อหาของมิจฉาชีพโดยเร็ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและป้องกันความเสียหายจากการถูกหลอกลวงลงทุน

ก.ล.ต. เดินหน้าเชิงรุก เปิดให้บริการ "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" ช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

จากสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งประชาชนได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการรับข้อมูลข่าวสารและการใช้งานเพื่อสื่อสาร ในขณะเดียวกันมีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกให้ลงทุนผ่านรูปแบบและช่องทางใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ก.ล.ต. พบว่า แนวโน้มของการหลอกลงทุนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมิจฉาชีพมักใช้ช่องทางออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการหลอกลวงประชาชนด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีอยู่จริง ล่อลวงด้วยการเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง หรือการแอบอ้างใช้ภาพ และ/หรือชื่อ ของผู้บริหารของหน่วยงานในตลาดทุนมาชักชวนให้ลงทุน เป็นต้น ก.ล.ต. เดินหน้าเชิงรุก เปิดให้บริการ "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" ช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

ก.ล.ต. จึงเปิดให้มีช่องทาง "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" เพื่อให้เป็นช่องทางในการรับแจ้งเบาะแสการหลอกลงทุนโดยตรง โทร 1207 กด 22 หรือแจ้งผ่านระบบรับแจ้งบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th/scamalert) หรืออีเมล [email protected] โดย ก.ล.ต. จะเร่งดำเนินการตรวจสอบเบาะแสที่ได้รับและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปิดกั้นเนื้อหาหรือช่องทางการหลอกลงทุน โดยจะประสานกับ Meta (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram รวมทั้งประสาน LINE (ประเทศไทย) เพื่อปิดกั้นช่องทางของมิจฉาชีพในแพลตฟอร์มดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นกับประชาชน

ทั้งนี้ การเปิดช่องทาง "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" ก.ล.ต. ได้ดำเนินการต่อเนื่องจากการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในหน่วยงานพันธมิตร ภายใต้โครงการร่วมมือ-จับปลอมหลอกลงทุน ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีจุดประสงค์ในการประสานความร่วมมือระหว่างกันเพื่อต่อต้านมิจฉาชีพ ผ่านการจัดทำและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์เตือนภัยหลอกลงทุนในช่องทางต่าง ๆ ของ ก.ล.ต. และสื่อมวลชน โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนช่วยประชาสัมพันธ์เตือนภัยด้วยดี รวมทั้งยังประสานความร่วมมือกับศูนย์ Anti Online Scam Operation Center (AOC) โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดิจิทัลฯ) อีกด้วย

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "ก.ล.ต. ตระหนักถึงปัญหาภัยกลโกงในตลาดทุน ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ประชาชนและผู้ลงทุน โดยที่ผ่านมาได้เสริมสร้างความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นกลไกในการปกป้องตนเองจากมิจฉาชีพ ซึ่งถือเป็นภารกิจหนึ่งที่สำคัญของ ก.ล.ต. ด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมเดินหน้าเชิงรุกด้วยการเปิดช่องทาง "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานพันธมิตรแจ้งเบาะแสโดยตรง โดย ก.ล.ต. จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไปโดยเร็ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและจำกัดความเสียหายไม่ให้กระจายออกไปสู่วงกว้าง"

นางอำไพ จิตรแจ่มใส ผู้ช่วยปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า "กระทรวงดิจิทัลฯ ได้เปิดตัวศูนย์ Anti Online Scam Operation Center หรือศูนย์ AOC เพื่อเป็นศูนย์ในการบูรณาการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์แบบครบวงจร เพื่อรองรับการให้บริการประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะปิดบัญชีม้า หรือ บัญชีเงินฝากที่คนร้ายใช้รับเงินให้ได้โดยไว เพื่อระงับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน และพร้อมให้ความร่วมมือในการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับ ก.ล.ต."

นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า "การเปิดช่องทาง "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" ของ ก.ล.ต. นั้น สอดรับกับการเปิดศูนย์ AOC 1441 ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้มีการบูรณาการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ให้บริการแบบ one stop service แก่ประชาชน รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับภัยออนไลน์ โดยมีเป้าหมายในการระงับและอายัดบัญชีของคนร้ายให้ทันท่วงที รวมทั้งผู้เสียหายยังสามารถติดตามสถานะการแก้ไขปัญหาได้ในทุกขั้นตอน"

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า "การเปิดสายด่วนแจ้งหลอกลงทุนในครั้งนี้จะช่วยสะกัดกั้นการหลอกลวงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งภาคธุรกิจในตลาดทุนพร้อมให้ความร่วมมือกับ ก.ล.ต. โดยจะร่วมแจ้งเบาะแสทันทีเมื่อพบการแอบอ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายจากการถูกหลอกลงทุน"

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวในฐานะผู้ร่วมริเริ่มโครงการ "ร่วมมือ-จับปลอมหลอกลงทุน" กับพันธมิตรว่า "ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตรได้บูรณาการความร่วมมือในหลายด้าน รวมทั้งสื่อสารเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง การที่ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุน จัดให้มีสายด่วนแจ้งหลอกลงทุนจะเป็นช่องทางให้ประชาชน ผู้ลงทุน และองค์กรต่าง ๆ ร่วมกันแจ้งเบาะแสหลอกลงทุนในตลาดทุน เพื่อตัดวงจรการหลอกลวงของมิจฉาชีพเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น"

นางสาวอิง ศิริกุลบดี ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำ Facebook ประเทศไทยจาก Meta กล่าวว่า "ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Meta ได้ร่วมทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรหลายภาคส่วนและขยายกรอบความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในหลาย ๆ เรื่องรวมถึงการรับมือปัญหาภัยหลอกลวงบนโลกออนไลน์ ทั้งทางด้านการรายงานเนื้อหาและการสร้างการตระหนักรู้และแคมเปญให้ความรู้เพื่อให้ผู้คนสามารถรู้เท่าทันกลลวง ในโอกาสนี้ เรามีความยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับ ก.ล.ต. เพื่อร่วมกันรับมือกับปัญหาเร่งด่วนนี้ซึ่งเป็นปัญหาร่วมของอุตสาหกรรมและในสังคมยุคดิจิทัลปัจจุบัน"

สำหรับสถิติการรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ 1 มกราคม - 31 ตุลาคม 2566 ก.ล.ต. ได้ดำเนินการเพื่อเป็นการป้องปรามอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ (1) ขึ้นเตือนบนหน้าเว็บไซต์ ก.ล.ต. ในหัวข้อ Investor Alert เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อ จำนวน 265 ราย (2) ประสานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand) กระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อออกข่าวแจ้งเตือนประชาชน จำนวน 90 กรณี (3) ด้านการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานเกี่ยวกับการหลอกลงทุนที่แอบอ้างชื่อ/โลโก้ หรือภาพผู้บริหารของ ก.ล.ต. มีจำนวน 10 กรณี (4) การดำเนินการส่งเรื่องให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายภายใต้ พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 กรณีอ้างผลตอบแทนสูง จำนวน 163 ราย และ (5) ดำเนินการส่งเรื่องให้กระทรวงดิจิทัลฯ พิจารณาดำเนินการ จำนวน 85 กรณี

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอย้ำให้ประชาชนระมัดระวังเมื่อถูกชักชวนลงทุน หากมีข้อสงสัยว่าเป็นบุคคล ผลิตภัณฑ์ หรือบริษัทที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" เพื่อตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ยังตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองได้ทันทีที่ www.sec.or.th/seccheckfirst หรือติดตั้งแอปพลิเคชัน SEC Check First หรือติดต่อสอบถามข้อมูลที่สายด่วนได้เช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันความเสียหายจากการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในการหลอกลวงลงทุนในตลาดทุน


ข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์+กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมวันนี้

WSOL ปรับพอร์ตลงทุน ถือหุ้น AS เพิ่ม 12.23% พร้อมลดสัดส่วน TSR เพิ่มสภาพคล่องธุรกิจ

WSOL เดินหน้าปรับพอร์ตการลงทุนเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เข้าถือหุ้นเพิ่มในบริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AS จากสัดส่วนเดิม 9.97% เป็น 12.23% เชื่อมั่นพื้นฐานธุรกิจ และทีมบริหารที่แข็งแกร่ง พร้อมขายหุ้นบริษัท ทีเอสอาร์ ลิฟวิ่ง โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TSR จากเดิม 5.29% เพิ่มสภาพคล่องกิจการ นายอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิว เอส โอ แอล จำกัด (มหาชน) หรือ WSOL เปิดเผยต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรณีเข้าถือหุ้นเพิ่มเติมใน

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศและคู่มือสำหรับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การทำรายการที่มีนัยสำคัญ และการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศและคู่มือสำหรับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การทำรายการที่มีนัยสำคัญ (Material...

บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ("AUR... AURA ออกหุ้นกู้มีหลักประกันครั้งแรก เปิดจอง 5 - 7 ส.ค.นี้ อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี — บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ("AURA" หรือ "บริษัท" ) ผู้นำค้า...

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและการเปิดเผยต่อ ก.ล.ต.

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเก็บรวบรวมและเปิดเผยข้อมูลต่อ ก.ล.ต. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ...

ก.ล.ต. แจ้งเตือนผู้ถือหุ้นกู้ EA จำนวน 14 รุ่น ใช้สิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ในวันที่ 27 มิถุนายน 2568

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ EA จำนวน 14 รุ่น ใช้สิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ศึกษาข้อมูล ซักถามผู้ออกหุ้นกู้หรือผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้...

ก.ล.ต. มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์การ Lock up หุ้นที่เสนอขายในราคาต่ำกว่า IPO และการเสนอขายหุ้นในราคาต่ำกว่า IPO/PO ของบริษัทต่างประเทศให้เทียบเท่าบริษัทไทย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน...

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แล... แคปปิตอล วัน น้อมรับคำสั่ง ก.ล.ต. สั่งพักการให้ความเห็นชอบ และยืนยันแนวทางยกระดับกระบวนการทำงาน — ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์...

ก.ล.ต. สั่งพักการให้ความเห็นชอบ Capital One ในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งพักการให้ความเห็นชอบในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) (Capital One) ...

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ ICO portal ให้สามารถ outsource ระบบงานเพิ่มเติมได้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการมอบหมายงาน ให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับดำเนินการ (outsource) และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้...