กลุ่ม KTIS เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2567 (ม.ค. - มี.ค. 2567) สามารถทำกำไรสุทธิได้ 295.2 ล้านบาท โดยสายธุรกิจที่มีรายได้เพิ่มขึ้น ได้แก่ สายธุรกิจเยื่อกระดาษจากชานอ้อย เพิ่มขึ้น 41.2% และสายธุรกิจเอทานอลเพิ่มขึ้น 7.1% พร้อมรุกธุรกิจบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมและหลอดจากเยื่อชานอ้อย 100% เต็มสูบ หลังลงนามความร่วมมือเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ กับกลุ่ม Matrix Pack ผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์และหลอดที่ผลิตจากเยื่อธรรมชาติ ในการนำบรรจุภัณฑ์และหลอดที่ผลิตจากเยื่อชานอ้อยบริสุทธิ์ของบริษัทในกลุ่ม KTIS คือ EPAC ออกสู่ตลาดโลก เผยระดับความร่วมมือเริ่มตั้งแต่การการันตีซื้อสินค้าล็อตใหญ่ ไปจนถึงการร่วมลงทุนในโครงการใหม่ๆ
นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานในรอบไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 (มกราคม-มีนาคม 2567) โดยมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 5,206.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 295.2 ล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษจากชานอ้อยเพิ่มขึ้น 41.2% เนื่องจากปริมาณการขายเยื่อกระดาษจากชานอ้อยในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น และรายได้จากธุรกิจเอทานอลเพิ่มขึ้น 7.1% จากทั้งปริมาณการขายเอทานอล และราคาขายเฉลี่ยต่อลิตรเพิ่มขึ้น
นายประพันธ์กล่าวด้วยว่า สำหรับธุรกิจใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมรายได้และกำไรให้กับบริษัทในช่วงที่เหลือของปีอย่างชัดเจนก็คือ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ขึ้นรูปจากเยื่อชานอ้อย ภายใต้บริษัทในกลุ่ม KTIS คือ บริษัท เอ็นไวรอนเม็นท์พัลพ์ แอนด์ แพคเกจจิ้ง จำกัด (EPAC) ซึ่งได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในกรอบความร่วมมือ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ทั้งสองฝ่าย ระหว่าง EPAC กับ Matrix Pack Group ผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์และหลอดชานอ้อยสำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่ทำมาจากเยื่อธรรมชาติ
ทั้งนี้ ความร่วมมือหลักๆ ในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ทางกลุ่ม Matrix Pack จะสนับสนุนด้านการตลาด ซึ่งมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้วในยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น อีกทั้งจะสร้างโอกาสทางการตลาดเพิ่มเติมในเอเชีย และเอเชียแปซิฟิก
"การที่ Matrix Pack Group ซึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่ระดับโลกในธุรกิจบรรจุภัณฑ์และหลอดกระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้มาร่วมธุรกิจกับกลุ่ม KTIS ในครั้งนี้ จะช่วยให้เรารุกตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากเยื่อชานอ้อยได้อย่างเต็มที่ ด้วยกำลังการผลิตของโรงงาน EPAC ที่สูงถึง 50 ตันต่อวัน หรือประมาณ 3 ล้านชิ้นต่อวัน โดยมีเครื่องจักร 50 เครื่อง ที่สามารถผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากเยื่อชานอ้อยออกสู่ตลาดได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม กล่อง หรือถาดหลุม ซึ่งผลิตจากเยื่อชานอ้อย 100% ปลอดภัยกับผู้บริโภคและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ภายใน 30-45 วัน" นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมนี้จะได้รับการตอบรับจากตลาดโลกเป็นอย่างดี เพราะสอดคล้องกับเทรนด์ของโลก โดยกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้คลอรีนในการฟอกสีเยื่อกระดาษ ทำให้ได้เยื่อกระดาษชานอ้อยบริสุทธิ์ ปลอดภัยในการใช้บรรจุอาหารไม่ว่าจะร้อนจัด หรือเย็นจัด ก็สามารถใช้ได้ อีกทั้งก่อนที่จะส่งถึงมือผู้บริโภค ยังได้ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยแสง UV อีกด้วย
นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ชานอ้อยของกลุ่ม KTIS นั้น ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ เช่น สามารถใส่น้ำโดยไม่รั่วซึม สามารถนำเข้าเตาอบและเตาไมโครเวฟได้ ไม่มีสารปนเปื้อนก่อมะเร็ง ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ภายใน 45 วัน โดยได้รับใบรับรองมาตรฐานระดับโลกด้านการย่อยสลายของผลิตภัณฑ์ (Products made of compostable materials for industrial composting Clamshell and Plate) และอยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยบริษัทผู้ตรวจสอบชั้นนำของประเทศไทย ในการรับรองระบบมาตรฐานโรงงานด้านความปลอดภัยของอาหาร ด้านการผลิต Food Packaging เช่น FSSC 22000, ISO 22000, GHPs/HACCP เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
ททท.- เคทีซี ผนึกกำลัง "เที่ยวทั่วไทย ฮีลใจรักษ์โลก" ผลักดันการท่องเที่ยวยั่งยืน
ธนชาตประกันภัย จัดแคมเปญพิเศษ 'ประกันชั้นดีย์' ครบรอบ 28 ปี มอบสิทธิ์ดี ๆ แบบจัดใหญ่ พร้อมลุ้นทอง 28 รางวัล!
EXIM BANK แถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 สอดรับนโยบาย Quick Big Win เร่งฟื้นภาคส่งออกไทยสู่รากฐานที่มั่นคง
EXIM Thailand Announces Q3/2025 Operational Performance and Responds to Quick Big Win Policy to Revive and Set Solid Base for Thai Export
บัตรเครดิต Wealth บัตรที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์เหนือระดับ
Bangkok Bank offers comprehensive financial products and services in Money Expo Chiangmai 2025
ธนาคารกรุงเทพ ยกทัพผลิตภัณฑ์และบริการด้านการเงินครบวงจร ร่วมงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 20
Frasers Property Thailand posts revenue exceeding THB 14,000 million in FY2025, reflecting steady performance amid economic headwinds
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เติบโตมั่นคง ปี 68 ปั๊มรายได้กว่า 14,000 ล้านบาท บ้าน-คอนโดเปิดโครงการใหม่ทะลุเป้า โรงงาน-คลังสินค้าแรงไม่หยุด