ฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน สถาบันวิทยาการผู้นำไทย-จีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มอบระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้โรงเรียนสอนภาษาจีนในพื้นที่ห่างไกลบนยอดดอย 21 แห่งใน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ผ่านพลังการระดมทุนของศิษย์หลักสูตรวิทยาการผู้นำไทย-จีน รุ่นที่ 1-7 เพื่อส่งต่อ "แสงแห่งความหวัง" สร้างโอกาสในการเรียนรู้ และวางรากฐานสู่อนาคตที่ยั่งยืน

นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันวิทยาการผู้นำไทย-จีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า วทจ. ได้จัดพิธีส่งมอบระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับโรงเรียนสอนภาษาจีนในพื้นที่ห่างไกลบนยอดดอยของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย จำนวน 21 แห่ง ภายใต้โครงการ "50 ปีที่สว่างไสว ความสัมพันธ์ไทย-จีน เหนือยอดดอย" เป็นความร่วมมือจากศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันหลักสูตรวิทยาการผู้นำไทย-จีน รุ่นที่ 1-7 ที่รวมพลังกันระดมทุนเพื่อติดตั้ง "ระบบพลังงานแสงอาทิตย์" ให้กับโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อฉลอง 5 ทศวรรษแห่งมิตรภาพไทย-จีนอย่างยั่งยืน โดยในงานมีตัวแทนผู้อำนวยการโรงเรียนและนักเรียนจากโรงเรียนทั้ง 21แห่ง เข้าร่วมรับมอบอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของสถาบันฯ ที่ร่วมกันระดมทุนสนับสนุนโครงการในครั้งนี้
"ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะหมู่บ้านชนบทบนดอยกว่า 100 หมู่บ้าน โรงเรียนสอนภาษาจีนหลายแห่งยังคงเผชิญปัญหาไฟฟ้าไม่เสถียร ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการเรียนการสอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการลงพื้นที่พบว่าโรงเรียนบนยอดดอยในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายจำนวนมาก ยังขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าที่เพียงพอ ทำให้เด็ก ๆ ไม่สามารถเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งที่พวกเขามีความมุ่งมั่นตั้งใจและมีศักยภาพสูง หากได้รับโอกาสในการเรียนรู้ภาษาจีนที่เหมาะสม ก็สามารถใช้ภาษาจีนเป็นทักษะต่อยอดสู่อาชีพที่มั่นคงในอนาคตได้ จากปัญหานี้เองจึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการริเริ่มโครงการ "50 ปีที่สว่างไสว ความสัมพันธ์ไทย-จีน เหนือยอดดอย" ที่มุ่งส่งมอบระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่โรงเรียนสอนภาษาจีนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อมอบ "แสงสว่าง" ที่ไม่ใช่เพียงแค่แสงจากพลังงานไฟฟ้า โครงการนี้ไม่ได้มุ่งเพียงแค่การติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แต่เป็นการส่งต่อ "แสงแห่งความหวัง" และ "แสงแห่งโอกาส" ที่จะช่วยเปลี่ยนชีวิตเด็กบนดอยให้ดีขึ้น พร้อมตอกย้ำสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีนในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งมิตรภาพ และเป็นการส่งต่อโอกาสอันล้ำค่าให้เด็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงการเรียนรู้ภาษาจีนอย่างต่อเนื่อง พร้อมเติบโตเป็นพลังสำคัญของชุมชนในวันข้างหน้า" นายอรัญ กล่าว
เสียงเล็ก ๆ ของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนบนยอดดอยในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังได้รับ "แสงสว่างแห่งโอกาส" ส่วนใหญ่มองว่าการขาดแคลนไฟฟ้าส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเรียนการสอน ทำให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่เต็มที่และเวลาเรียนลดลง ครูผู้สอนเองก็ประสบปัญหาในการจัดการเรียนการสอน อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่โรงเรียน นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพมากขึ้น และการเรียนการสอนก็มีความสะดวกสบายมากขึ้น
ขณะที่ศิษย์เก่าหลายคนก็ยืนยันถึงผลกระทบที่มีผลต่ออนาคตของพวกเขา และพูดถึงโอกาสจากการเรียนรู้ ซึ่งบางคนมีโอกาสเรียนภาษาจีนจนสามารถนำไปใช้ในการทำงานและสร้างรายได้ ขณะที่อีกคนกล่าวถึงปัญหาไฟฟ้าในหมู่บ้านบนเขาซึ่งไฟมักตกหรือดับบ่อย ทำให้การเรียนการสอนไม่ต่อเนื่อง และเชื่อว่าระบบพลังงานแสงอาทิตย์สามารถเป็นทางออกที่สำคัญ
ทางโรงเรียนเองก็เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน เมื่อมีแหล่งพลังงานสำรองไว้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน แม้ไฟดับก็ยังสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ร่วมส่งต่อแสงสว่างและโอกาสให้กับพื้นที่ห่างไกล
โครงการนี้จึงไม่เพียงส่งเสริมการเรียนการสอน แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม การมอบทุนสนับสนุนโครงการระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ให้แก่โรงเรียนภาษาจีนในหมู่บ้านชนบทบนดอย เป็นการสร้างรากฐานที่ดี และเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า "แสงสว่างจากแผงโซลาร์เซลล์ในวันนี้ คือพลังอนาคตของเด็กบนดอยที่รอคอยโอกาส" โครงการนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมิตรภาพไทย-จีนที่จับต้องได้ และยังคงส่องสว่างอย่างยั่งยืน