กรุงเทพ--16 ม.ค.--กรมสรรพากร
กรมสรรพากรพยายามใช้มาตรการทุกอย่างฝ่ากระแสเศรษฐกิจที่ซบเซา จัดเก็บภาษีอากรทุกประเภทในเดือนธันวาคม 2540 ได้สูงถึง 37,401 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่จัดเก็บได้จากปีก่อนในช่วงเดียวกันถึงร้อยละ 15.79
นางไพฑูรย์ พงษ์เกษร เลขานุการกรม ในฐานะโฆษกกรมสรรพากรเปิดเผยถึง ผลการจัดเก็บภาษีอากรทุกประเภทในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีทุกประเภทได้ 37,401 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่เคยจัดเก็บได้ในช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้วถึง 5,099 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.79 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประมาณการที่ได้รับมอบหมาย คือ จำนวน 38,189 ล้านบาท แล้ว ปรากฎว่าเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ จำนวน 788 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.06 ทั้งนี้เมื่อพิจารณาผลการจัดเก็บภาษีแต่ละประเภทแล้ว ทราบว่าภาษีที่สามารถจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการคือ ภาษีเงินได้นิติบุคคล, ภาษีการค้า และอากรรังนก ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา, ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ
สำหรับผลการจัดเก็บรวมในไตรมาสแรกของปี งบประมาณ 2541 นี้ กรมสรรพากรได้รับเป้าหมายให้จัดเก็บทั้งสิ้น 117,304 ล้านบาท แต่กรมสรรพากรจัดเก็บได้ 114,767 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าประมาณการ 2,537 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.16
"แม้ว่าผลการจัดเก็บภาษีในเดือนนี้จะจัดเก็บได้สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนก็จริง แต่สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมีผลกระทบอย่างมากต่อผลการจัดเก็บภาษีทุกประเภทในปีงบประมาณ 2541 ซึ่งยังคงต่ำกว่าประมาณการ อย่างไรก็ดีกรมสรรพากรมิได้นิ่งนอนใจพยายามทำงานกันอย่างหนักเพื่อเร่งหามาตรการและแนวปฏิบัติให้สมารถจัดเก็บภาษีให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะกรมสรรพากรมีความเชื่อว่าในสภาวะเศรษฐกิจ เช่นนี้ ถึงแม้จะมีธุรกิจบางรายที่ประสบปัญหาธุรกิจขาดทุนก็ตาม แต่ในทางกลับกันก็ย่อมมีธุรกิจบางรายที่มีผลกำไรจากการประกอบธุรกิจกรมสรรพากรจึงได้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ เพื่อขอความร่วมมือในการเสียภาษีจากกิจการดังกล่าว รวมทั้งมีการเร่งออกหมายเรียกตรวจสอบกิจการที่วิเคราะห์แล้วว่าชำระภาษีไม่ถูกต้อง เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการเสียภาษีซึ่งคาดว่าหากกรมสรรพากรดำเนินการเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ผลการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณนี้คงไม่ห่างจากประมาณการเท่าใดนัก" โฆษกกรมสรรพากรกล่าวในที่สุด--จบ--