กรุงเทพ--10 เม.ย.--กรมสรรพากร
จากการที่กรุงเทพมหานครได้จัดตั้งเขตใหม่เพิ่มจากเดิม 38 เขต เป็น 50 เขต ในปัจจุบัน นั้น มีผลทำให้ผู้เสียภาษีซึ่งมีภูมิลำเนาหรือสถานที่ประกอบการเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียภาษีและไม่ให้ผู้เสียภาษีมีความสับสน กรมสรรพากรจึงยังคงให้ผู้เสียภาษีหรือผู้ประกอบการไปยื่นแบบแสดงรายการภาษี ณ สำนักงานสรรพากรเขตหรือเขตสาขาเดิมไปก่อน
นางไพฑูรย์ พงษ์เกษร เลขานุการกรม ในฐานะโฆษกกรมสรรพากรได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า "กรณีที่กรุงเทพมหานครได้จัดตั้งเขตใหม่เพิ่มขึ้น 12 เขต จากเดิม 38 เขตเป็น 50 เขต นั้น ทำให้ผู้เสียภาษีหรือผู้ประกอบการที่มีภูมิลำเนาหรือสถานประกอบการในเขตที่มีการแบ่งพื้นที่ต้องมีภูมิลำเนาหรือสถานประกอบการเปลี่ยนแปลงไป จึงเกิดความสับสนเนื่องจากบางรายเดินทางไปชำระภาษี ณ สำนักงานเขตที่ตั้งขึ้นใหม่ แต่ไม่สามารถชำระได้ เพราะไม่มีสำนักงานสรรพากรเขตตั้งอยู่ภายในสถานที่ตั้งของสำนักงานเขตแห่งใหม่ทั้ง 12 เขต ทำให้ผู้เสียภาษีและผู้ประกอบการเสียเวลาในการเดินทาง จึงขอแจ้งไปยังผู้เสียภาษีและผู้ประกอบการทราบว่าให้ท่านไปยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีหรือรับบริการด้านอื่น ๆ ของกรมสรรพากรได้ที่สำนักงานสรรพากรเขตหรือเขตสาขาเดิมที่ท่านเคยติดต่อ สำหรับการจะจัดตั้งสำนักงานสรรพากรเขตตามเขตการปกครองใหม่หรือไม่นั้น กรมสรรพากรและสำนักงาน ก.พ. จะร่วมกันพิจารณาว่ามีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจหรือไม่หากมีผลเป็นประการใดจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป"
โฆษกกรมสรรพากรกล่าวต่อไปว่า "จากการที่กรมสรรพากรได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2539 โดยได้มีการแบ่งสำนักงานสรรพากรเขตและเขตสาขาในท้องที่กรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับการให้บริการแก่ผู้เสียภาษีได้ครอบคลุมพื้นที่อย่างทั่วถึง จำนวน 51 สำนักงานสรรพากรเขตด้วยกัน ดังนั้น กรณีการแบ่งเขตใหม่ของกรุงเทพมหานคร ดังกล่าว จึงไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการของสำนักงานสรรพากรเขตมากนัก เพียงแต่ขณะนี้กรมสรรพากรกำลังดำเนินการปรับเปลี่ยนชื่อสำนักงานสรรพากรเขตสาขาต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับชื่อสำนักงานเขตที่ตั้งขึ้นใหม่บางแค ดังนั้น ผู้เสียภาษีและผู้ประกอบการยังคงได้รับการบริการ และอำนวยความสะดวกเช่นเดิม
สำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งมีที่ตั้งของสถานประกอบการเปลี่ยนแปลงไปตามการแบ่งเขตใหม่ก็ยังคงมีสิทธิใช้ใบกำกับภาษีที่ระบุเขตเดิมในการออกใบกำกับภาษีให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือรับบริการได้ โดยให้ขีดฆ่าชื่อเขตเดิมแล้วระบุชื่อเขตใหม่พร้อมกับลงลายมือชื่อผู้ออกใบกำกับภาษีที่มีการแก้ไขนั้น หรือใช้วิธีประทับตรายางชื่อเขตใหม่ก็ได้ ใบกำกับภาษีที่แก้ไข ในกรณีนี้สามารถใช้ได้ภายใน 6 เดือน นับจากวันที่มีการเปลี่ยนแปลงเขต" โฆษกกรมสรรพากรกล่าวในที่สุด--จบ--