ยากันฝ้าปลอดภัยเพียงใด...ทดสอบได้ง่าย ๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพ--22 เม.ย.--กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลิตชุดทดสอบสารไฮโดรควิโนนในครีมทาฝ้าสำเร็จ หวังคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันฝ้า พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขและภาคเอกชน ดร.เรณู โกยสุโข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขได้อนุญาตให้ใช้สารไฮโดรควิโนนเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางประเภทผลิตภัณฑ์ป้องกันฝ้ากำหนดให้มีสารไอโดรควิโนนได้ ไม่เกินร้อยละ 2.0 แต่จากการสุ่มตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กลับพบว่ามีบริษัทผู้ผลิตครีมป้องกันฝ้าบางยี่ห้อใช้สารไฮโดรควิโนนสูงถึงร้อยละ 3.90-13.05 โดยเฉพาะครีมป้องกันฝ้าที่ลักลอบจำหน่ายหรือจำหน่ายในลักษณะขายตรง รวมทั้งชนิดที่ไม่มีฉลากมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จะพบสารไฮโดรควิโนนสูงถึงร้อยละ 10 และยังตรวจพบสารอันตรายชนิดอื่น เช่น เพรดนิโซโลน (prednisolone) ซึ่งเป็นสารที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศห้ามใช้ในเครื่องสำอางเช่นกัน ทั้งนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันฝ้าที่มีส่วนผสมของสารไฮโดรควิโนนอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดผิวด่างขาวหรือทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำขึ้นคล้ายสีน้ำเงินอมดำ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกประกาศให้ผลิตภัณฑ์ป้องกันฝ้าที่จำหน่ายในท้องตลาดต้องไม่มีสารไฮโดรควิโนนเป็นส่วนผสม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบและการศึกษาเฝ้าระวังความปลอดภัย จากการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันฝ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์โดยกองเครื่องสำอางและวัตถุอันตรายจึงได้พัฒนาชุดทดสอบสารไฮโดรควิโนนซึ่งมีประสิทธิภาพสูง ถูกต้อง แม่นยำและรวดเร็ว โดยแบ่งเป็น 2 ชุด คือ ชุดทดสอบในภาคสนามมีหลักการทดสอบโดยสังเกตสีที่เกิดขึ้นจากปฏิกริยาของสารไฮโดรควิโนน กับสารละลายเฉพาะ สามารถตรวจปริมาณสารไฮโดรควิโนนได้ต่ำสุดถึง 75 ไมโครกรัมโดยไม่เกิดปฏิกริยากับสารอื่น ๆ ในตำรับและไม่ถูกรบกวนจากสารรีซอร์ซินอล ชุดทดสอบนี้สามารถตรวจได้ครั้งละ 10 ตัวอย่างและทราบผลในเวลา 5 นาที ส่วนชุดที่ 2 จะเป็นชุดทดสอบเพื่อยืนยันผลบวกจากภาคสนาม มีหลักการทดสอบโดยใช้วิธีทินเลเยอร์โครมากราฟซึ่งได้ดัดแปลงทั้งชนิดและอัตราส่วนของตัวทำละลายที่เหมาะสม เพื่อแยกสารไฮโดรควิโนนจากส่วนผสมอื่นในตำรับ ชุดทดสอบดังกล่าวสามารถตรวจปริมาณสารไฮโดรควิโนนได้ต่ำสุดถึง 5 ไมโครกรัม โดยชุดทดสอบนี้สามารถตรวจได้ครั้งละ 2 ตัวอย่าง และทราบผลภายใน 10 นาที ดร. เรณู โกยสุโข กล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีชุดทดสอบดังกล่าวให้กับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 12 แห่ง และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไปแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะสามารถใช้ชุดทดสอบตรวจหาสารไฮโดรควิโนนได้เป็นอย่างดี ทำให้การคุ้มครองผู้บริโภคเป็นไปอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับหน่วยงานเอกชนหรือบริษัทห้างร้านใดสนใจจะขอรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ กองเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โทรศัพท์ 5899850 ต่อ 9056, 9057 ในวันและเวลาราชการ--จบ--

ข่าวกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์+กระทรวงสาธารณสุขวันนี้

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พัฒนาคุณภาพการตรวจน้ำตาลสะสมในเลือด มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพิ่มความแม่นยำในการรักษาเบาหวาน

นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า โรคเบาหวานเป็นปัญหาสุขภาพสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องเผชิญ โดยอุบัติการณ์ของโรคเบาหวานในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลสุขภาพ (Health Data Center) กระทรวงสาธารณสุข ในปี 2566 พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 300,000 คนต่อปี และมีผู้ป่วยสะสมกว่า 3.4 ล้านคน โดยในจำนวนนี้มีผู้ป่วยถึงร้อยละ 70 ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง นำไปสู่ความพิการและการ

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (... กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดบ้านให้นักเรียน ชมห้องแล็บ เรียนรู้สร้างแรงบันดาลใจ — กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดบ้านให้คณะครูและนักเรีย...

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ย... นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในงาน 30 บาทรักษาทุกที่ — นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ใ...

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมเครือข่ายเฝ้าร... กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมเครือข่ายเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส hMPV — กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมเครือข่ายเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส hMPV ทางห้องปฏิบัติการ ...