"สายด่วนไมโครซอฟท์" หนุนประชาชนร่วมศึกต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์

กรุงเทพ--10 พ.ย.--ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ริเริ่มเปิดตัวแผนปฏิบัติการใหม่ในประเทศไทยที่สนับสนุนให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นในการรณรงค์ต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ โดยบริษัทฯ ได้ประกาศตั้งโครงการ "สายด่วนไมโครซอฟท์" (Microsoft Honesty Line) ที่เปิดเป็นบริการโทรศัพท์สายตรงอุทิศให้แก่ประชาชนที่โทรเข้ามาแจ้งการใช้งาน การจำหน่าย หรือการผลิตโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของไมโครซอฟท์อย่างผิดกฎหมาย มร. รอน เอคสตรอม ทนายความที่ปรึกษาของไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ประจำภาคพื้นเอเชีย ใต้-แปซิฟิก เปิดเผยว่าโครงการ "สายด่วนไมโครซอฟท์" ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้การศึกษาแก่สาธารณชนและเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ อันได้แก่การทำสำเนา การติดตั้ง และการผลิตซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์โดยมิได้รับอนุญาต "ความจำเป็นที่จะต้องให้สาธารณชนได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์กำลังทวีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงความตั้งใจอันแน่วแน่และต่อเนื่องของโครงการ "ซอฟต์แวร์พาร์ค" (Software Park) ของประเทศไทยที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ก่อให้เกิดอุปสรรคขัดขวางอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย การค้าผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ท้องถิ่นจะไม่สามารถปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิผลหรือแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยปราศจากการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา" มร. เอคสตรอม กล่าวเสริม สำหรับผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาให้ข้อมูลแก่ไมโครซอฟท์ผ่านทาง "สายด่วนไมโครซอฟท์" จะมีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรางวัลอาจมากถึง 250,000 บาท สำหรับข้อมูลที่สามารถนำไปสู่การเจรจาตกลงกับบริษัทที่พบว่าใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์โดยไม่ได้รับอนุญาตได้เป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับผลของการสืบสวนและการดำเนินคดีบนพื้นฐานข้อมูลที่สายด่วนไมโครซอฟท์ได้รับแจ้งมาด้วย มร. เอคสตรอม กล่าวต่อไปว่าไมโครซอฟท์ต้องการให้ "สายด่วนไมโครซอฟท์" เป็นสื่อในการนำข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ โดยไม่ได้รับอนุญาตออกมาตีแผ่และเป็นเครื่องมือยับยั้งขัดขวางบริษัทต่าง ๆ ในการนำซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ไปใฃ้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีคำชี้แจงหลักการและเหตุผลการจัดตั้งโครงการฯ ว่า การใช้งานซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์โดยไม่ได้รับอนุญาตได้แพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวางอย่างมาก จนทำให้ไมโครซอฟท์ต้องการริเริ่มโครงการที่เป็นที่ยอมรับ เพื่อที่จะเรียกความสนใจและให้การศึกษาแก่สาธารณชน และเผยแพร่ข้อมูลที่จะช่วยหยุดยั้งการละเมิดลิขสิทธิ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในประเทศไทย ไมโครซอฟท์จะเป็นผู้ตรวจความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับแจ้งอย่างละเอียดถี่ถ้วน และถ้าข้อมูลที่ได้รับรายงานเป็นความจริง บริษัทฯ จะเชิญให้ผู้ละเมิดมาพบกับไมโครซอฟท์เพื่อทำการเจรจาตกลงกันหรือหาหนทางแก้ไขด้วยวิถีทางตามกฎหมาย หรืออาจจะมีการยื่นคำฟ้องร้องตามกระบวนการทางด้านกฎหมายเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ในกรณีที่ผู้ละเมิดปฏิเสธที่จะเจรจา มร. เอคสตรอมกล่าวย้ำว่า "ความซื่อสัตย์สุจริตให้ผลคุ้มค่าจริง ๆ" ส่วนหนทางสู่การแก้ไขปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ชัดเจนก็คือ การปลูกฝังมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรมที่เกี่ยวกับการใช้และซื้อหาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานของโครงการ "สายด่วนไมโครซอฟท์" ถ้าเราทุกคนปฏิเสธที่จะใช้หรือซื้อซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ก็จะหมดสิ้นไป แต่ตราบใดที่พวกเราแต่ละคนไม่เปลี่ยนพฤติกรรมของเราเอง ความพยายามใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับการรณรงค์ต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น โครงการ "สายด่วนไมโครซอฟท์เพื่อความสุจริต" ก็จะไม่สัมฤทธิ์ผลใด ๆ" "สายด่วนไมโครซอฟท์" เปิดทำการทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 17.30 น. ไปที่หมายเลขโทรศัพท์ 632-0456 ไมโครซอฟท์ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2518 และเป็นผู้นำการพัฒนาและการตลาดของซอฟต์แวร์สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer-PC) ทางบริษัทฯ มีซอฟต์แวร์หลายประเภทให้เลือกใช้ทั้งสำหรับองค์กรและผู้ใช้ตามบ้าน ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์ทุกตัวพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกในการใช้งาน และได้รับประโยชน์สูงสุดจากเครื่องพีซี ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เป็นผู้พัฒนาและขายสินค้าไมโครซอฟท์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยและมีบริการหลังการขายให้แก่ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย--จบ--

• ข่าวไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น
• ข่าวลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
• ข่าวไมโครซอฟท์ คอร์ป
• ข่าวคอร์ปอเรชั่น
• ข่าวคอมพิวเตอร์