สธ.ฟิต ตั้งศูนย์วิทย์ฯ สาขาภูเก็ต

25 Jan 1999

กรุงเทพ--25 ม.ค.--กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

กระทรวงสาธารณสุข ตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ สาขาภูเก็ต ให้บริการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์สุขภาพด้านอาหาร เพื่อเฝ้าระวังและคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้านอาหารส่งออก ซึ่งเป็นการส่งเสริมทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการส่งออกของประเทศ

นาวาโทนายแพทย์เดชา สุขารมณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยหลังจากตรวจเยี่ยมสถานที่จัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ สาขาภูเก็ต ณ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ว่า จังหวัดภูเก็ตนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสามารถทำรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมากแล้ว ยังเป็นจังหวัดที่มีผู้ประกอบการด้านอาหารส่งออก เช่น อาหารทะเลแช่แข็ง อยู่หลายแห่ง ถึงแม้ว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะมีศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในเขตพื้นที่ภาคใต้ถึง 3 แห่ง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ตรัง และสงขลา แต่เนื่องจากที่ตั้งของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ดังกล่าวห่างไกลจากจังหวัดภูเก็ตมาก ทำให้เกิดความล่าช้าในการนำส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ กระทรวงสาธารณสุขจึงมอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการตัดตั้งห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์สุขภาพด้านอาหารขึ้นในจังหวัดภูเก็ต และเพื่อมิให้สวนกระแสเศรษฐกิจในปัจจุบันห้องปฏิบัติการที่จัดตั้งขึ้นนี้ จะดำเนินการในรูปแบบศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สาขา โดยอาศัยสถานที่ของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หรือ JICA สำหรับบุคคลากรที่มาปฏิบัติงาน ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สาขาภูเก็ต จะเป็น 2 ลักษณะ คือ ผู้ปฏิบัติงานประจำ จะจ้างลูกจ้างชั่วคราวตามโครงการจ้างผู้ว่างงานในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ และผู้ปฏิบัติงานหมุนเวียน จะใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ส่วนกลาง และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในเขตภาคใต้ หมุนเวียนประจำการ ครั้งละ 1-3 เดือน

นาวาโทนายแพทย์เดชา สุขารมณ์ กล่าวในตอนท้ายว่าการดำเนินงานของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สาขาภูเก็ต ในระยะแรกนี้จะช่วยให้การคุ้มครองผู้บริโภคด้านอาหารในจังหวัดภูเก็ตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และทันเหตุการณ์ ช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีแก่นักท่องเที่ยวในปี อเมซิ่งไทยแลนด์ นอกจากนี้จะให้บริการการตรวจวิเคราะห์อาหารส่งออกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และได้มาตรฐานตามที่ประเทศคู่ค้ากำหนด และสามารถพัฒนาห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ของรัฐและเอกชนได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระยะยาวเมื่อเศรษฐกิจของประเทศกระเตื้องขึ้นก็จะพัฒนาในดำเนินการในลักษณะของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เต็มรูปแบบต่อไป--จบ--