(ต่อ 1) วอร์เนอร์ บราเดอร์สร่วมกับดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส เสนอข้อมูลการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "THE TIME MACHINE"

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส ขณะเดียวกันนั้นเป็นเวลาที่มินดี้ มาริน ผู้คัดเลือกนักแสดง กำลังทดสอบการแสดงของ ซาแมนธา มุมบา ศิลปินเพลงชาวไอริชผลงานติดอันดับในอังกฤษ และมีแนวโน้มได้ขึ้นชาร์ทในอเมริกา มารินส่งเทปบันทึกการแสดงมาให้เวลส์, พาร์กส และวอลด์ส มาร์กจำได้ว่า "ผมกับภรรยา (ผู้บริหารและดำเนินงาน ลอรี่ แมคโดนัล) เรากำลังดูเทปอยู่และพูดว่า "น่าประทับใจมาก" เมื่อลูกสาวของเราเดินเข้ามาแล้วว่า "นี่ซาแมนธา มุมบา นักร้องยอดนิยมนี่" เราไม่รู้จักเธอเลย จากความจริงที่ว่าเธอไม่ได้เป็นนักแสดงมาก่อนแต่เธอแสดงได้ดีมาก…เป็นธรรมชาติที่สุด" เวลส์เห็นด้วย "นั่นคือสิ่งที่สะดุดตามาก ซาแมนธาไม่ธรรมดาเลย เธอทำให้เรารู้สึกได้ เธอมีความสามารถที่จะรับอารมณ์ละเอียดอ่อนและถ่ายทอดออกมาเป็นการแสดงที่เร้าใจได้อย่างเต็มร้อยทุกวัน" มุมบาให้ความเห็นว่างานแสดงครั้งแรกในชีวิตของเธอช่าง "เหมือนฝันเป็นจริง เมื่อรู้ว่าได้รับบทนี้ฉันถึงกับช็อค ไม่อยากเชื่อ มันเป็นบทที่ยอดเยี่ยม ดีมากที่ได้แสดงเป็นมาร่า เธอเป็นคนที่มุ่งมั่นและฉลาดเมื่อเทียบกับอายุอันน้อยนิดของเธอ การเลือกซาแมนธา มุมบากลับกลายเป็นโบนัสให้กับทีมงาน เวลส์อธิบายว่า "บังเอิญจริงๆ ที่น้องชายคนเล็กของซาแมนธา โอเบโร มุมบามีอายุเท่ากับน้องชายของมาร่าพอดี เรารู้สึกว่ามันจะดีเกินไปหน่อย 'เอาละ ทำไมเราไม่ลองทดสอบบทเขาล่ะ?' เขาเป็นนักแสดงที่เป็นธรรมชาติในตัวเอง และไม่ต้องให้บอกซ้ำเลยว่าเขาเหมาะที่จะเป็นคาเลนอย่างที่สุด จากที่ได้ยินว่าบทของเธออยู่ในช่วงอีก 800,000 ปีในอนาคต ซาแมนธา มุมบา ให้รู้สึกประหลาดใจมากที่โลกของอีลอยไม่มีอะไรเหมือนโลกอนาคตเอาเสียเลย "ตรงกันข้าม ทุกอย่างกลับสู่ธรรมชาติ อีลอยเป็นชนเผ่าที่ดี…แต่พวกเขาต้องเผชิญกับสิ่งน่าสพรึงกลัว" เธอกล่าว ความน่าสพรึงกลัวที่ว่าก็คือมอร์ลอค ชนเผ่ากินเนื้อที่ดุร้าย ซึ่งจะขึ้นมาจากที่อยู่ใต้ดินเพื่อล่าพวกอีลอย วิวัฒนาการแห่งศตวรรษได้แบ่งแยกให้มอร์ลอคกลายเป็นนักสะกดรอยและนักล่า ภายใต้การนำของหัวหน้าผู้ชาญฉลาด ผู้มีหน้าตาเหมือนมนุษย์แต่เป็นที่น่าหวั่นเกรง เขาคือ อูเบอร์-มอร์ลอค ผู้ชื่นชอบ The Time Machine อาจคิดว่าอูเบอร์-มอร์ลอคเป็นผลพวงทางความคิดของโลแกน แต่ไซมอน เวลส์ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับผลงานของปู่ทวดเขาว่า " อูเบอร์-มอร์ลอคคือแกนสำคัญของสติปัญญา เขาใช้อำนาจควบคุมจิตใจ ซึ่งผมได้พบว่าเป็นพล็อตเรื่องเดิมของ The Time Machine ของเอช จี เวลส์ ซึ่งท่านตัดออกไปก่อนตีพิมพ์ เรานำมาเรียบเรียงใหม่เพื่อแสดงถึงสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่เป็นปฏิปักษ์กับอเล็กซานเดอร์ ตัวแสดงเพียงคนเดียวที่เหมาะสมกับบทอูเบอร์-มอร์ลอค ในสายตาของทั้งผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง คือ เจเรมี ไอออนส์ "อูเบอร์-มอร์ลอค จะต้องเป็นคนที่น่าชื่นชม มีความดึงดูดและน่ากลัวไปพร้อมกัน รายชื่อของนักแสดงที่สามารถรับบทนี้ได้มีเพียงไม่กี่คน และเจเรมี ไออนส์เป็นคนแรกที่เราเลือก. วอลด์สกล่าว พาร์กส เสริมว่า "สิ่งที่เราคิดไว้คือ เมื่อคุณเข้าไปถึงก้นบึ้งของระบบที่ซ่อนอยู่ คุณจะได้พบกับมนุษย์จอมบงการเปี่ยมเสน่ห์ ฉลาด ฉะฉาน น่ากลัว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งที่เราสร้างขึ้นแต่เป็นตัวตนของนักแสดงโดยแท้ เจเรมี ไอออนส์นับได้ว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ดีที่สุดของโลก" เจเรมี ไอออนส์ กล่าวว่าสิ่งที่ทำให้เขาสนุกกับการแสดงเป็น อูเบอร์-มอร์ลอคคือการข้องเกี่ยวกับอำนาจที่แท้จริงของตัวละคร "ผมต้องการให้เขาเป็นสิ่งน่าประหลาดใจ ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคาดคิด เขาถูกกำหนดให้เป็นปีศาจ แต่ผมมักจะให้ความสนใจด้านดีของพวกตัวร้าย และด้านร้ายของตัวแสดงฝ่ายดี -ในส่วนที่เป็นสีเทา อูเบอร์-มอร์ลอคมีจุดหมายที่เขาต้องทำให้สำเร็จ แต่ในกรอบนั้นเราพยายามแสดงให้คนดูรู้สึกว่าถูกสะกิดในอารมณ์และตั้งคำถามกับความเชื่อของตนเองต่อการแสวงหาของตัวเอกของเรื่อง และความไร้ประโยชน์ของการค้นหานั้นในฐานะมนุษย์ เมื่อเริ่มถ่ายทำแม้แต่เราเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจ ในบางครั้งก็น่าขำ บางทีก็น่ากลัว สำหรับผมมันเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างอูเบอร์-มอร์ลอค - ร่วมกับทุกๆคนที่มีส่วนในการสร้างครั้งนี้" การสร้างสรรค์ตัวแสดงเป็นนักล่าและนักสะกดรอยมอร์ลอค เป็นเสมือนการออกแบบมากกว่า ไซมอน เวลส์ ผู้คุ้นเคยกับงานแอนนิเมชั่นไม่รู้สึกแปลกกับการร่างตัวแสดงลงบนแผ่นกระดาษ เขาร่างแบบและส่งต่อให้แสตน วินสตัน ผู้แต่งหน้าเทคนิคพิเศษ เจ้าของหลายรางวัลออสการ์ "สิ่งที่เราออกแบบให้มอร์ลอคนั้นได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่มาจากไซมอน" วินสตันให้ความเห็น "เรารู้ได้ทันทีว่าจะไม่สามารถแต่งหน้าโดยตรงให้กับผู้แสดงได้เนื่องจากรูปร่างของกะโหลกศีรษะและตำแหน่งของตา และปาก เราจึงใช้วิธีประดิษฐ์หน้าเทียมแอนนิเมโทรนิค ซึ่งสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของคิ้ว ตา ปากและกราม ซึ่งทำให้การแสดงออกทางสีหน้าเป็นไปได้ด้วยดี "ส่วนหัวของนักสะกดรอยและนักล่ามอร์ลอคจะคล้ายคลึงกัน ทั้งสองแบบจะมีกลไกควบคุม 32 จุด ซึ่งใช้ผู้ควบคุม 3 คน ต่อหนึ่ง ส่วนตาเป็นของปลอม ผู้แสดงจะสามารถเห็นโลกภายนอกหัวได้จากจอเล็กๆซึ่งติดตั้งอยู่ในส่วนจมูกและเป็นภาพขาวดำ "ชุดมอร์ลอคทำจากแบบที่พอดีกับตัวผู้แสดงทุกคน ประกอบด้วยโฟมยางที่นำไปอบแห้งและเย็บเข้าตะเข็บ ทาทับด้วยสีกาวยางโดยแผนกสี ส่วนเส้นผมถูกประดิษฐ์เพื่อใช้ติดทีละเส้น ชุดที่สำเร็จแล้วมีน้ำหนักประมาณ 27 ปอนด์ นับเป็นภาระอันท้าทายต่อผู้แสดงสตันท์ เจฟ อิมาดา ผู้ประสานงานสตันท์กล่าวว่า "ปัจจัยสำคัญที่สุดเกี่ยวกับชุดเหล่านี้คือ ความร้อน และการหายใจที่ถูกต้อง แต่เราใช้ตัวหยุดระบบเซ็นเซอร์มาช่วย คุณไม่มีมือที่จะจับหรือหยิบอะไร การมองเห็นไม่ชัด ต้องอาศัยดูจากจอสีขาวดำเล็กจิ๋ว และรับรู้สัมผัสที่ย่ำแย่" ผลงานที่ได้คุ้มค่ากับความลำบาก เดวิด วอลดส์ กล่าวว่า "เมื่อคุณเห็นพวกมอร์ลอคบนจอภาพยนต์มันจะทำให้คุณหวาดกลัวได้พอๆกับที่ผมรู้สึกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว" โลกสี่ยุคสมัย "เรื่องราวของ The Time Machine ดำเนินไปในช่วงเวลาที่ต่างกันถึงสี่ยุคด้วยกัน" เวลส์อธิบาย "ยุคแรกที่นิวยอร์กในศตวรรษที่ 20 แล้วเราข้ามไปอนาคตอันใกล้ในปี 2030 และ 2037 และสุดท้ายในอนาคตไกลโพ้นซึ่งเราพบกับโลกอันเงียบสงบของชาวอีลอยซึ่งผสานสนิทกับโลกมืดของมอร์ลอคอันเปรียบเสมือนภูเขาไฟดังเต โลกแต่ละยุคมีบุคลิกของตัวเอง เรื่องเปิดฉากขึ้นในนิวยอร์คซิตี้ปี 1899 แตกต่างจากเรื่องเดิมที่เริ่มในลอนดอน เวลส์อธิบายว่า "นิวยอร์กในช่วงปลายศตวรรษเป็นสถานที่พิเศษมาก การขยายตัวรวดเร็วเป็นไปอย่างคงที่ และเป็นศูนย์รวมแห่งวัฒนธรรมเช่นเดียวกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วทางด้านวิทยาศาสตร์ อันเป็นสถานที่เหมาะสมในการเริ่มเรื่อง ทีมงานเลือกการถ่ายทำนอกสถานที่ในทางตอนเหนือของนิวยอร์กแทนการสร้างฉาก โอลิเวอร์ สโกล ผู้ออกแบบศิลป์และลูกทีมจัดองค์ประกอบฉากให้เข้าสมัย ฝ่ายออกแบบเครื่องแต่งกายหาเสื้อผ้าย้อนยุคได้จากห้องเสื้อในลอสแอนเจลิสและอังกฤษ ภูมิประเทศส่งลมหนาวยะเยือกพร้อมพายุหิมะให้กับทีมงานถึงสองครั้งด้วยกัน "เราอยู่ที่นั่นในฤดูหนาวอันทารุณ หิมะท่วมถึงเข่า" เวลส์รำลึก "ทุกคนหนาวแทบตาย แต่คุ้มค่าเพราะได้สิ่งที่การจัดฉากทำไม่ได้ เช่น ไอควันจากลมหายใจของนักแสดงซึ่งไม่ได้เกิดจากเทคนิคพิเศษใดๆ" ระหว่างการถ่ายทำนอกสถานที่นี้เอง ทีมงานได้มีโอกาสแสคงความระลึกถึงผลงานของจอร์จ พาล ในขณะที่อลัน ยัง ผู้เคยแสดงเป็นฟิลบี้คนแรก ได้มาร่วมเข้าฉากเป็นคนขายดอกไม้ด้วย เหตุบังเอิญอันเหลือเชื่อเกิดขึ้นเมื่อผู้จัดเครื่องแต่งกายส่งคอปกเสื้อให้เขา ด้านในของปก ปรากฎชื่ออ่านได้ว่า อลัน ยัง - ซึ่งเป็นปกเสื้อชิ้นเดียวกับที่เขาเคยสวมแสดงในปี 1960 นั่นเอง ฉากด้านหน้าของบ้านของอเล็กซานเดอร์ถูกถ่ายทำที่อัลบานี ส่วนห้องทดลองและเรือนต้นไม้เป็นการสร้างฉากที่สตูดิโอของวอร์เนอร์บราเดอร์สที่เบอร์แบงค์ ความเอาใจใส่ด้วยใจรักได้ถูกทุ่มเทไปให้กับห้องทดลองของอเล็กซานเดอร์เป็นอันมากเพราะนั่นคือตัวตนที่แท้ของตัวเอก เป็นการเล่าสู่ผู้ชมได้โดยไม่ต้องใช้คำพูดแม้แต่คำเดียว สมการนับหมื่นถูกเขียนบนกระดานชอล์คยาวเหยียดสุดกำแพง โดยการจัดกลุ่มของนักคณิตศาสตร์เพื่อความถูกต้องแม่นยำ อุปกรณ์ประกอบที่ยุ่งยากสุดคือนาฬิกาหลากหลายยุคสมัยที่จะแสดงถึงความผูกพันของอล็กซานเดอร์ที่มีต่อเวลา ฉากประกอบไปด้วยนาฬิกาทุกรูปแบบและขนาดกว่า 100 เรือน รวมถึงเรือนที่เคยใช้ประกอบภาพยนต์ในปี 1960 ซึ่งได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจอันเป็นเหตุบังเอิญซึ่งเปรียบเสมือนการให้เกียรติจากทีมงาน ไซมอน เวลส์และ โอลิเวอร์ สโกล สามารถใช้จินตนาการของพวกเขาโดยอิสระในการออกแบบที่อยู่ของชาวอีลอยและมอร์ลอค "เนื่องจากเรามีประสพการณ์ทางด้านภาพยนต์แอนนิเมชั่นซึ่งเป็นประโยชน์มากในการเริ่มต้นดำเนินงานสร้างโลกที่ไม่มีอยู่จริง ผมคุ้นเคยกับการเริ่มจากกระดาษเปล่าในการสร้างโลกทั้งใบด้วยการร่าง" เวลส์กล่าว สโกลบอกว่า "ผมมาจากแนวภาพประกอบ ส่วนเขามาจากแอนนิเมชั่น เราจึงใช้เวลาร่วมกันร่างแบบและโยนงานกลับไปกลับมาให้กัน การที่เรามีผู้กำกับการแสดงที่เข้าใจเรื่องการออกแบบและสนุกกับมันเป็นสิ่งที่ดีมากในสายตาของผม" "นอกเหนือจากการทำงานร่วมกันแล้วความคิดเรื่องโลกของอีลอยยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าไรนัก จนกระทั่งอาจารย์ใหญ่แห่งดรีมเวิร์คส สตีเวน สปิลเบิร์ก ช่วยออกความเห็นว่ามันจะดูน่าสนใจหากบ้านของพวกอีลอยถูกสร้างในแนวตั้งขึ้นสู่ฟ้า รับแสง บ่งความเป็นอิสระเสรี ตรงข้ามกับมอร์ลอคซึ่งอาศัยอยู่ในความมืดมน" สโกลเล่า เวลส์เสริมว่า " สตีเวนให้แนวทางว่าพวกอีลอยต้องพยายามหลบเลี่ยงให้ไกลจากพื้นดินให้มากที่สุด และเพื่อป้องกันตัวเองพวกเขาจะหลบอยู่ในกรงหรือที่ปลอดภัย โอลิเวอร์สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่จากการรวบรวมความคิดเข้าด้วยกัน เขากลับมาพร้อมกับบ้านแบบเดียวกับรังนกกระจอกซึ่งเกาะอยู่บนหน้าผา ตัวบ้านส่วนใหญ่อยู่ในอากาศมากกว่าพื้นดิน หมู่บ้านอีลอยถูกสร้างบนชะง่อนผาสูงลิ่วเหนือท้องน้ำ แต่ละหลังถูกเชื่อมต่อกันด้วยสะพานและทางเดิน ทั้งหมดนี้จัดสร้างที่สตูดิโอ 16 ของวอร์เนอร์บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ซึ่งเป็น สตูดิโอใหญ่ประกอบด้วยโดมสูง 98 ฟุต หน้าผานั้นสมบูรณ์แบบด้วยน้ำตกสมจริงความสูง 65 ฟุตทำจากคร่าวเหล็กและโฟมประกบภายนอก ตัวกระท่อมทำจากท่อเหล็ก ทางเดินที่ตกแต่งให้เหมือนลำไม้ไผ่ แทงค์ความจุ 650,000 แกลลอนและเครื่องสูบขนาด 8 นิ้วส่งน้ำจำนวน 350 แกลลอนสู่ทางปล่อยน้ำด้านบนเพื่อส่งให้น้ำตกลงมาสู่แม่น้ำด้านล่าง เหล่าดาราและทีมงานพบว่าความสูงระดับนั้นของหน้าผาไม่ใช่ของเล่นสำหรับพวกเขา วอลเตอร์ พาร์กสหัวเราะชอบใจ "ถ้าคุณได้ดูฉากที่เราถ่ายทำแรกๆ จะเห็นว่านักแสดงมักจะคอยมองลงมาข้างล่าง มันทำให้พวกเขาลำบากใจพอดูในตอนแรก" "เป็นความยุ่งยากพอควร" กาย เพียซสารภาพหลังจากที่ใช้เวลาทั้งสัปดาห์แสดงในฉากที่สูงราว 50-60 ฟุต "คุณต้องเดินบนทางเชื่อมกว้างราว 2 ฟุตซึ่งมีทางให้ตกลงไปได้ทั้งสองข้าง สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องระวังทุกฝีก้าวใหเดี" ในขณะที่ดูธรรมดากับการที่อเล็กซานเดอร์จะเดินโคลงเคลงบนทางเดินลอยฟ้า แต่ผู้แสดงเป็นชาวอีลอยกลับไม่สามารถทำเช่นเดียวกันได้ เจฟ อิมาดา ผู้ประสานงานสตันท์กล่าวว่า " ชาวอีลอยต้องแสดงว่าคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตบนที่สูง และเคลื่อนไหว ปีนป่ายและโดดข้ามหน้าผาได้โดยไม่ต้องหยุดคิด เราจึงต้องเพิ่มคานป้องกันและโยงผู้แสดงไว้กับสายเคเบิลเพื่อให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายขึ้น" สำหรับผู้กำกับภาพ โดนัล แมคอัลไพน์ การจัดแสงมีตั้งแต่แดดจ้าไปจนถึงไฟสัญญาณอย่างแรกพวกเขาใช้โคมไฟยักษ์ยึดติดไว้กับราวสองข้าง เมฆขนาด 60 x 40 ฟุต โยงไว้ด้วยเครนยักษ์เพื่อใช้ให้เกิดความสลัว และไฟหรี่เพื่อเป็นไฟสัญญาณในการขับไล่ปีศาจในความมืด ปีศาจของพวกอีลอยมาในรูปแบบของเหล่ามอร์ดอคที่น่ากลัว ซึ่งมีชีวิตอยู่ใต้พื้นดินในอุโมงค์และถ้ำมากมาย โอลิเวอร์ สโกลว่า "พวกอีลอยสร้างบ้านที่เป็นระเบียบจากวัสดุธรรมชาติ และพวกมอร์ลอคสร้างบ้านที่มีโครงสร้างยุ่งเหยิงจากวัสดุเทียม พวกเขาต้องการครอบครองธรรมชาติและกำจัดมัน" ที่พำนักของอูเบอร์-มอร์ลอคมีบ่อน้ำซึ่งสะท้อนประกายขึ้นสู่เพดานสูงกว่า 8 ฟุต แมคอัลไพน์กล่าวว่า "เราถ่ายจากกล้องในมุมต่ำและใช้แสงจากน้ำสะท้อนเงาไหวขึ้นไปที่หน้าผู้แสดง ผลที่ได้ออกมาดูดีมากทีเดียว" (ยังมีต่อ) -สส-

ข่าวดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส+การสร้างภาพยนตร์วันนี้

(ต่อ 3) วอร์เนอร์ บราเดอร์สร่วมกับดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส เสนอข้อมูลการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "THE TIME MACHINE"

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส ทีมงาน ไซมอน เวลส์ (ผู้กำกับการแสดง) มีประสพการณ์ทำงานทั้งภาพยนต์แอนนิเมชั่นและภาพยนต์ทั่วไป และ "The Time Machine" เป็นผลงานกำกับภาพยนต์แอ็คชั่นเรื่องแรกของเขา ล่าสุดมีผลงานร่วมกำกับการแสดงให้กับภาพยนต์แอนนิเมชั่นที่ได้รับรางวัลของดรีมเวิร์คเรื่อง "The Prince of Egypt." นอกจากนี้ยังเคยมีผลงานกำกับภาพยนต์แอนนิเมชั่น "Balto" และ "An American Tail II: Fievel Goes West" กับ "We're Back: A Dinosaur's Story." เขาเป็นที่รู้จักดีในอังกฤษ โดยเริ่มจากการร่วมงานกับ

(ต่อ 2) วอร์เนอร์ บราเดอร์สร่วมกับดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส เสนอข้อมูลการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "THE TIME MACHINE"

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส เครื่องเดินทางข้ามเวลา (ไทม์แมชชีน) แทบไม่ต้องมีคำถามเลยสำหรับสิ่งสำคัญที่สุดในหนังเรื่องนี้ซึ่งก็คือเครื่องเดินทางข้ามเวลานั่นเอง พาร์กเกอร์กล่าวว่า "...

วอร์เนอร์ บราเดอร์สร่วมกับดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส เสนอข้อมูลการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "THE TIME MACHINE"

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส นักวิทยาศาสตร์จอมประดิษฐ์ อเล็กซานเดอร์ ฮาร์ทเดอเจน มีความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะพิสูจน์ความเป็นไปได้ในการเดินทางข้ามเวลา และกลับกลายเป็นความมุ่งมั่นจากการสูญ...

ทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดัง Kickboxer น... Kickboxer III: Armageddon การกลับมาของตำนานบนแผ่นดินไทยที่งาน Super Fight Night — ทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดัง Kickboxer นำโดย Dimitri Logothetis ผู้กำกั...

ดรีมเวิร์ควางใจเน็กซ์ซัส โปรดักชั่นส์ ในการสร้างอนิเมชั่นประกอบภาพยนตร์ "แคช มี อีฟ ยู แคน"

ซานตาโมนิกา, แคลิฟอร์เนีย, 6 ม.ค. พีอาร์นิวส์ไวร์ / เอเชียเน็ท ดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส (DreamWorks Pictures) ได้มอบหมายให้ เน็กซ์ซัส โปรดักชั่นส์ เป็นผู้สร้างตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องใหม่ของดรีมเวิร์ค "จับให้...

สปายกลาส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ตกลงร่วมงานกับ ดรีมเวิร์ค

เกลนเดล, แคลิฟอร์เนีย. 11 ธ.ค. พีอาร์นิวส์ไวร์ / เอเชียเน็ท นายแกรี่ บาร์เบอร์ (Gary Barber) และ นายโรเจอร์ เบิร์นบอม (Roger Birnbaum) รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สปายกลาส (Spyglass) ร่วมกับนายวอลเตอร์ เอฟ. ปาร์คเกส (Walter F. Parkes...

ASIANET: "ดรีมเวิร์ค"เปิดเผยข้อความประกอบภาพใน "Road Trip"

บริษัทดรีมเวิร์คได้เปิดเผยข้อความบรรยายภาพ ที่ปรากฎใน http://www.newscom.com/cgi-bin/prnh/20000512/LAF015 ดังนี้:- "ท้องถนนของเมืองเวสต์วู้ดได้มีความคึกคัก เมื่อบรรดานักแสดงในภาพยนตร์ชวนหัวเรื่อง "Road Trip" ของบริษัทดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส ...