วอร์เนอร์ บราเดอร์สร่วมกับดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส เสนอข้อมูลการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "THE TIME MACHINE"

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส นักวิทยาศาสตร์จอมประดิษฐ์ อเล็กซานเดอร์ ฮาร์ทเดอเจน มีความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะพิสูจน์ความเป็นไปได้ในการเดินทางข้ามเวลา และกลับกลายเป็นความมุ่งมั่นจากการสูญเสียคนรักที่ผลักดันให้เขาต้องการกลับไปแก้ไขอดีต ขณะทดสอบทฤษฎีการเดินทางกับเครื่องข้ามเวลาที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมา ฮาร์ทเดอเจนได้ข้ามกาลเวลาล่วงหน้าไปอีกแปดแสนปี เพื่อที่จะพบว่ามนุษยชาติได้แบ่งออกเป็นชนเผ่าผู้ล่า…และผู้ถูกล่า ภาพยนต์จากเค้าโครงเรื่อง The Time Machine นวนิยายวิทยาศาสตร์คลาสสิคของ เอช จี เวลส์ โดยผู้รับบท อเล็กซานเดอร์ ฮาร์ทเดอเจน คือ กาย เพียซ (Momento, L.A. Confidential) และซาแมนธา มุมบา นักร้อง/นักประพันธ์เพลงชาวดับลิน ซึ่งแสดงภาพยนต์เป็นเรื่องแรก รับบท มาร่า มิตรในโลกอนาคตของฮาร์ทเดอเจน ผู้แสดงอื่นๆ อาทิเช่น ออร์ลานโด โจนส์ (Evolution) มาร์ก แอ๊ดดี้ (The Full Monty) เซียนนา กิลลอรี่ (Kiss Kiss Bang Bang) ฟิลลิดา ลอว์ (Saving Grace) และ ดาราเจ้าของรางวัลอเคเดมี เจเรมี โจนส์ (Reversal of Fortune, Die Hard with a Vengeance) The Time Machine เป็นผลงานร่วมระหว่างดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส และ วอร์เนอร์บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นผลงานกำกับภาพยนต์ชิ้นแรกของ ไซมอน เวลส์ ผู้เคยผ่านการร่วมงานสร้างภาพยนต์แอนนิเมชั่นยอดนิยม "Prince of Egypt" บทภาพยนต์โดย จอห์น โลแกน (Gladiator) จากบทภาพยนต์ดั้งเดิมของ เดวิด ดันแคน อำนวยการสร้างโดย วอลเตอร์ เอฟ พาร์กส (Gladiator Men in Black 2) และเดวิด วอลด์ส (The Green Mile) ผู้บริหารและดำเนินงานสร้าง ได้แก่ ลอรี่ แม็คโดนัลด์, อาร์โนลด์ เลโบวิท และ ยอร์ก ซาราเลอกุย ร่วมกับ จอห์น โลแกน จัดจำหน่ายในประเทศโดยดรีมเวิร์คส และต่างประเทศโดยวอร์เนอร์บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ข้อมูลการสร้างอดีตและปัจจุบัน ในยุคสมัยของเขา เอช จี เวลส์ นักประพันธ์นวนิยายวิทยาศาสตร์ผู้เลื่องชื่อเจ้าของผลงาน The Time Machine ได้รับการขนานนามว่า "ผู้หยั่งรู้อนาคต" อย่างไรก็ดีหากเขามีโอกาสได้รู้เห็นถึงอนาคตจริงๆ แม้แต่เอช จี เวลส์ก็คงต้องมหัศจรรย์ใจที่งานเขียนยอดนิยมของเขาได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์และไม่ใช่แค่เพียงครั้งเดียว แต่ถึงสองครั้งสองคราว แม้ว่าหลายสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายในระยะเวลากว่า 100 ปีหลังจากเขาได้ประพันธ์เรื่องนี้ขึ้น แต่วิสัยทัศน์ของเอช จี เวลส์เกี่ยวกับอนาคตและการเดินทางข้ามเวลาก็ยังคงสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมอยู่มาก วอลเตอร์ พาร์กส ผู้อำนวยการสร้าง ตั้งข้อสังเกตุว่า "ย้อนหลังไปในช่วงปี 1960 ขณะนั้นภาพยนต์เช่น "ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์" (20,000 Leagues Under the Sea) และ Journey to the Center of the Earth จุดประกายจินตนาการอันบรรเจิดให้กับพวกเรา และเรื่องที่เรียกได้ว่าเป็นหนังรุ่นปู่ของผลงานเหล่านี้ก็คือ The Time Machine โดยจอร์จ พาล ตอนนี้เรามีเทคโนโลยีซึ่งสามารถสร้างโลกในจินตนาการของเอช จี เวลส์ ที่ไม่เคยทำได้มาก่อนในอดีต มันทำให้ตื่นเต้นขึ้น ทว่า เพียงแค่ภาพชายในเสื้อกั๊ก ผูกไท และสวมแจ็คเก็ตก้าวเข้าไปนั่งในเครื่องที่สลักลวดลายวิคตอเรียนด้วยมือเพื่อออกเดินทางสู่อนาคตก็ยังคงให้ความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกับในยุคสมัยนั้นไม่มีผิด เดวิด วอลด์ส ผู้อำนวยการสร้างเห็นด้วย "ผมยังจำความรู้สึกเมื่อครั้งที่ไปชม The Time Machine เมื่อแรกออกฉายได้อย่างแจ่มชัด เป็นสุดยอดหนังของเด็กทุกคน ผมว่าผมไปดูถึงสามรอบรวดในอาทิตย์แรกทีเดียว ความคิดเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก และนั่นเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ผมรักหนังแนววิทยาศาสตร์ และผมสารภาพตามตรงว่ามันเป็นหนึ่งในหนังสามเรื่องที่เป็นแรงผลักดันให้ผมมาเป็นผู้สร้างภาพยนต์ เรื่องราวล่าสุดของ The Time Machine ยังคงมีความต่อเนื่องมาจากอดีต ทั้งผู้ประพันธ์ และงานภาพยนต์เรื่องแรกโดยจอร์จ พาล ซึ่งอาร์โนลด์ เลโบวิท ผู้บริหารและดำเนินงานสร้าง กล่าวว่า "ตอนนั้นผมอายุเก้าขวบ เมื่อได้ดู The Time Machine เป็นครั้งแรก ผมคลั่งไคล้มากและกลายเป็นแฟนเหนียวแน่นของ จอร์จ พาล อีกหลายปีต่อมาผมทำหนังยกย่องชีวประวัติของเขา 'The Fantasy Film Worlds of George Pal' อันเป็นการเปิดเผยความสามารถที่วิเศษสุดของเขาในการสร้างภาพยนต์ ผมภูมิใจมากกับการกลับมาใหม่ของ The Time Machine เพราะเราสามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้ดีกว่าเดิมโดยไม่เสียอรรถรสดั้งเดิม หนังเรื่องนี้เป็นการแสดงความเคารพและชื่นชมในความรู้สึกและความเป็นจอร์จ พาล" อีกสิ่งที่มีความสัมพันธ์กับเอช จี เวลส์ ก็คือ ผู้กำกับการแสดงของ The Time Machine ในปี 2002 คือ ไซมอน เวลส์ ผู้ซึ่งเป็นหลานทวดของผู้ประพันธ์ สิ่งที่ผู้อำนวยการสร้างประทับใจในตัวเขาสืบเนื่องมาจากผลงานร่วมกำกับจากแอนนิเมชั่นเรื่อง "Prince of Egypt" "เราเห็นความสามารถอันพิเศษสุดของเขาจากหนังแอนนิเมชั่นและรู้สึกว่าเขาจะต้องทำได้ดีในงานภาพยนต์" พาร์กกล่าว "ผมไม่รู้มาก่อนว่าเขาเป็นหลานทวดของเอช จี เวลส์ และเพิ่งมารู้ภายหลังจากที่ได้รับทราบว่าเขามีความสนใจที่จะกำกับเรื่องนี้ ถ้าชะตาลิขิตมีจริงนี่ก็คงเป็นตัวอย่างที่ดีอันหนึ่งทีเดียว ไซมอน เวลส์ กล่าวว่า "ผลงานที่ผ่านมาของผมส่วนใหญ่เป็นงานแอนนิเมชั่น แต่ก็มีความสนใจที่จะทำหนังเช่นประเภทแอ็คชั่นมาตลอด เมื่ออ่านพบว่าดรีมเวิร์คจะสร้าง The Time Machine ผมจึงไปหา เจฟฟรีย์ แคทเซนเบิร์ก เพื่อเสนอตัวเอง พูดกันตามตรง หลังจากนั้นไม่นานก็ได้พบวอลเตอร์ พาร์กส กับลอรี่ แม็คโดนัล พวกเขาบอกว่าสิ่งที่ผมทำคือสิ่งที่พวกเขาต้องการให้เป็น การทำงานของพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงผลงานบทภาพยนต์ของจอห์น โลแกน ผู้ซึ่งเพิ่งทำบท Gladiator ให้กับทางสตูดิโด "วอลเตอร์ พาร์กถามผมว่าคิดยังไงถ้าจะมาทำ The Time Machine" โลแกนจำได้ว่า "ผมคิดอยู่สองวินาทีแล้วตอบว่า ได้ แต่อีกห้านาทีต่อมาผมถามตัวเองว่า นี่เราทำอะไรลงไป? เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงบทประพันธ์คลาสสิคอันทรงคุณค่าเท่านั้น แต่ยังเคยเป็นหนังของจอร์จ พาลซึ่งเป็นที่ชื่นชมของคนส่วนมากรวมทั้งตัวผมเองด้วย. เขากล่าวสืบไปว่า "ตั้งแต่เริ่มต้นเราอยากจะนำความรู้สึกของการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ในนวนิยายกลับมา เอช จี เวลส์ให้ความสำคัญเป็นอันมากกับวิวัฒนาการ อนาคตกาล ชนชั้นวรรณะ และสังคมนิยม รวมทั้งทฤษฎีเกี่ยวกับหลักปรัชญาและระบบสังคมในหนังสือทั้งหมด ผมคิดว่า The Time Machine เป็นครั้งแรกของการนำเสนออย่างมีภูมิปัญญาเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือการที่ผู้อ่านรู้สึกเหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วย ผมเชื่อว่านั่นคือเหตุผลที่เวลส์ไม่ได้ตั้งชื่อให้กับผู้เดินทางของเขา - คุณก็สามารถเดินทางไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์และน่าสพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในอนาคตได้ เพราะสำหรับเวลส์แล้ว มีความเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง สิ่งที่จะทำให้แตกต่างก็คือการกระทำของแต่ละบุคคลและนั่นคือเหตุผลที่เรื่องนี้สมควรได้รับการนำเสนออีกครั้ง ละทิ้งอดีต สู่โลกอนาคต ในการนำเสนอครั้งนี้ผู้สร้างได้เปลี่ยนแปลงบางอย่าง เริ่มด้วยการตั้งชื่อให้กับผู้เดินทาง : อเล็กซานเดอร์ ฮาร์ทเดอเจน เมื่อมีชื่อก็ต้องมีหน้า ซึ่งก็คือ กาย เพียซ เจ้าของรางวัลด้านการแสดงของออสเตรเลีย ที่น่าสนใจก็คือ ร็อด ไทเลอร์ ผู้นำแสดงเมื่อครั้งผลงานสร้างของพาล ก็บังเอิญเป็นชาวออสเตรเลียเช่นกัน เดวิด วอลด์ส เล่าว่า " เราทุกคนชื่นชอบ กาย เพียซจากผลงาน "Priscilla, Queen of the Desert" และ "L.A. Confidential" จนกระทั่งวอลเตอร์ได้ยินถึงผลงานยอดเยี่ยมที่เขาได้ทำไว้ใน "Memento" ซึ่งยังไม่ได้ออกฉาย แต่เราเมื่อได้มีโอกาสชมเรารู้ทันทีว่ากายคือผู้เดินทางของเรา" กาย เพียซเปิดเผยว่าเขามีรู้สึกประทับใจกับการเดินทางข้ามเวลาตั้งแต่ได้ดู The Time Machine ของจอร์จ พาล สมัยเด็ก "การเดินทางข้ามเวลาคงจะเป็นการเดินทางอมตะของทุกคน เหมือนกับการหนีให้ไกลที่สุด - แทนการเชิญหน้ากับปัญหาชีวิต คงจะง่ายสำหรับเราทุกคนด้วยจินตนาการที่จะหนีไปสู่อนาคตหรือความทรงจำแห่งอดีต สิ่งที่ผมอยากจะเข้าใจก็คือเมื่ออเล็กซานเดอร์เดินทางไปสู่อนาคตซึ่งทำให้เห็นได้ชัดถึงการหนีที่จับต้องได้ ผมไม่คิดว่าเขารู้แน่ว่าเขากำลังค้นหาอะไรเมื่อกดปุ่มเร่งความเร็วและเฝ้าดูเวลาที่เคลื่อนฉิวไปข้างหน้า เขาเพียงแค่รู้สึกว่าเขาไม่สมควรอยู่ในโลกปัจจุบัน ความรู้สึกเดียวกับบางเวลาของช่วงชีวิตเราทุกคน อย่างไรก็ดี อเล็กซานเดอร์ได้ทำให้สิ่งที่จับต้องไม่ได้อย่างอดีตและอนาคตเป็นจริงขึ้นมาได้จากสิ่งประดิษฐ์ของเขา ไซมอน เวลส์กล่าวว่า "กายเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นอเล็กซานเดอร์ เพราะเขามีบุคลิกที่แสดงถึงความทรงภูมิปัญญา และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือความเป็นพระเอกหนุ่มรูปงามแห่งฮอลลีวู้ด ส่วนผสมเหล่านี้ทำให้เขากลายเป็นคนที่สามารถนำเราจากต้นเรื่องอันเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องจนกระทั่งจบลงเป็นดาราแอ็คชั่นได้ในที่สุดโดยการเดินเรื่องอย่างสมเหตุสมผล กายตั้งใจอย่างมากในการนำเสนอความเปลี่ยนแปลงซึ่งคุณจะพบว่าอเล็กซานเดอร์ไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างปุบปับแต่ทว่าค่อยเป็นค่อยไป "กายเป็นภาพลักษณ์ใหม่เอี่ยมของตัวละคร " พาร์กสเสริม "อล็กซานเดอร์ในสายตาของผู้พบเห็นเป็นครั้งแรกก็คือหนอนหนังสือ ค่อนข้างปิดกั้นตัวเองและอยู่ในโลกแห่งความคิดฝัน การเดินทางข้ามเวลาได้ทำให้เขาได้พบกับอารมณ์ที่แท้จริงของตัวเองเช่นเดียวกับคนทั่วไป และกายได้แสดงสิ่งเหล่านั้นออกมาอย่างยอดเยี่ยม" "แรงผลักดันแห่งการเดินทางของอเล็กซานเดอร์นั้นสืบเนื่องมาจากโศกนาฎกรรมในชีวิตของเขา และสิ่งนี้นับได้ว่าเป็นอุบายการเดินเรื่องของ The Time Machine" โลแกนอธิบาย "เพื่อปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้เข้ากับผู้ชมยุคปัจจุบัน เรารู้สึกว่าควรมีความตื่นเต้นมากขึ้น น่าสนใจมากขึ้นเพื่อสร้างสมความรู้สึกภายในของอเล็กซานเดอร์ในอันที่จะสร้างเครื่องข้ามเวลา เราเริ่มคิดถึงสิ่งที่จะผลักดันให้ใครสักคนให้มีความอดทนมากมายเพื่อหาทางข้ามผ่านมิติแห่งเวลา เมื่อตระหนักว่าความรักน่าจะเป็นแรงผลักดันอันแรงกล้า โลแกนจึงสร้างเอ็มมา คู่หมั้นสุดที่รักของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งรับบทโดย เซียนนา กิลลอรี "เซียนนาเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ที่มาแรงของอังกฤษ เมื่อเธอปรากฎกายทำให้เราต่างรู้สึกยืนไม่ติดพื้นเหมือนๆกัน" เวลส์กล่าว เคราะห์ร้ายอันบังเกิดแก่เอ็มมาทำให้อเล็กซานเดอร์ถูกครอบงำด้วยความตั้งมั่นเพียงอย่างเดียว คือประดิษฐ์เครื่องเดินทางข้ามเวลาเพื่อย้อนกลับไปวันที่เกิดเหตุและเปลี่ยนอดีต ตลอด 4 ปีให้หลังเขาตัดตัวเองออกจากโลกภายนอก ท่ามกลางความหวาดวิตกของเพื่อนสนิท ฟิลบี้ และ แม่บ้านผู้จงรักภักดี มิสซิสวัตชิต ผู้รับบทฟิลบี้ คือ มาร์ค แอ็ดดี้ ซึ่งเวลส์ตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นดาราที่มีความอบอุ่นและน่ารักมาก คุณจะรู้สึกถึงความผูกพันของเขาเมื่อรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทกับอเล็กซานเดอร์มากว่า 10 ปี แม้ว่าในความเป็นจริงเขาทั้งคู่ไม่เคยพบกันมาก่อนเลย ฟิลลิดา ลอว์ ผู้รับบทมิสซิสวัตชิต ได้รับคัดเลือกที่ประเทศอังกฤษในรูปแบบที่ไม่ธรรมดา เวลส์ย้อนคิด "เธอบังเอิญมาคัดตัวกับอีกห้อง แต่เปิดประตูเข้ามาเจอเราแล้วว่า "โอ ขอโทษทีค่ะ" แล้วกลับออกไป เดวิดกับผมหันมามองหน้ากันแล้วว่า 'นั่น มิสซิสวัตชิตของเรา' " ฟิลบี้กับมิสซิสวัตชิตไม่มีวันเห็นสิ่งที่ครอบงำจิตใจอเล็กซานเดอร์หรือแม้แต่จะคิดว่าเขาจะประสพความสำเร็จในการสร้างเครื่องเดินทางข้ามเวลา และถึงแม้ว่าเขาจะสามารถย้อนกลับไปเพื่อจะแก้ไขเหตุการณ์นั้น มิช้าเขาก็ได้เรียนรู้ความจริงที่ร้ายกาจ - ว่าอดีตมิอาจเปลี่ยนแปลงได้ เขาจึงคาดเดาว่าบางทีอนาคตอาจมีคำตอบที่เขาเฝ้าค้นหา อเล็กซานเดอร์จึงกลับไปใช้เครื่องและเดินทางอีกครั้งไปยังปี 2030 ณ ที่ซึ่งเขาได้พบกับวอกซ์ ภาพคอมพิวเตอร์ 3 มิติ ซึ่งถูกโปรแกรมให้ตอบคำถามทุกอย่างให้กับทุกเรื่อง "วอกซ์เป็นอินเตอร์เน็ตช่างเสียดสี" เวลส์กล่าวปนหัวเราะ "ออร์ลานโด โจนส์ รับบทวอกซ์ ได้เติมสีสันให้กับบทนี้อย่างมาก และเขาสนุกกับการแสดงนี้มาก" โจนส์หยอดว่า "วอกซ์เป็นเสมือนบทสรุปของขุมความรู้แห่งมนุษย์ เขารู้ทุกอย่างที่จำเป็น เราจึงแยกออร์ลานโด โจนส์ ออกจากวอกซ์ไม่ได้ อันที่จริงมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากและผมสนุกกับการได้ร่วมงานกับไซมอน คำแนะนำจากเขามีส่วนมากในด้านบุคลิกของวอกซ์ แน่นอนหากคุณไม่ชอบวอกซ์ นั่นเป็นความผิดเขา แต่ถ้าคุณรักเขาละก็ ผมขอรับความดีไว้เอง" เมื่ออเล็กซานเดอร์ได้พบกับวอกซ์เขากลับเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก่อนที่เขาจะได้กลับมายังโลกปัจจุบัน ภัยพิบัติแห่งอนาคตได้ส่งเขาไปอีก 800,000 ปีข้างหน้า ที่นั่นเขาได้พบกลุ่มแห่งหน้าผาชนเผ่าอีลอย และ มาร่า กับน้องชายของเธอ คาเลน ผู้ได้ให้ที่พำนักแก่เขาและกลายเป็นเพื่อนและครูของเขาในโลกอันแปลกใหม่ สำหรับแฟนหนังสือ และภาพยนต์ที่สร้างในปี 1960 มาร่า ก็คือ วีน่า เพราะทีมงานมีความรู้สึกว่าผู้หญิงที่กล้าต่อต้านสังคมรอบด้านและยอมรับมิตรภาพจากคนจากต่างมิติเวลานั้นสมควรจะมีความเป็นหญิงอันโดดเด่นร่วมสมัย ดังนั้นเธอจึงได้รับขนานนามใหม่ว่า มาร่า หากจะกล่าวว่าการเฟ้นหาผู้ที่จะมาแสดงเป็นมาร่านั้นท้าทายมากก็คงไม่เกินความจริง ทีมงานอยากได้ดาราหน้าใหม่ที่จะสามารถสะท้อนวิวัฒนาการของมนุษยชาติ "เราต้องการคนที่สดใหม่ อายุน้อยและมีความกระตือรือล้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่จะสามารถแสดงให้เห็นว่าอีลอยมีหน้าตาเป็นอย่างไรในอนาคต" วอลด์สกล่าว "เพื่อคาดเดาว่าคนเราจะมีหน้าตาอย่างไรในอีกหลายพันปีข้างหน้า เราจำเป็นต้องค้นหาปัจจุบัน ประชากรโลกมีการผสมผสานกันมากขึ้นและโลกแคบลงเรื่อยๆ เราอยากให้มาร่าของเรามีความแตกต่าง เราจึงมีทีมงานคัดเลือกตัวแสดงทั่วโลก ซิดนีย์ ลอนดอน นิวยอร์ค ลอส แอนเจลิส และจาไมก้า เราเริ่มการคัดเลือกราวเดือนกันยายนเสร็จสิ้นเดือนมกราคม โดยมีวันที่ 5 กุมภาพันธ์เป็นเป้าหมายเริ่มดำเนินงาน จนถึงวันนั้นเรายังไม่สามารถหานางเอกของเราได้ มันน่ากลัวจริงๆ (ยังมีต่อ) -สส-

ข่าวดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส+การสร้างภาพยนตร์วันนี้

(ต่อ 3) วอร์เนอร์ บราเดอร์สร่วมกับดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส เสนอข้อมูลการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "THE TIME MACHINE"

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส ทีมงาน ไซมอน เวลส์ (ผู้กำกับการแสดง) มีประสพการณ์ทำงานทั้งภาพยนต์แอนนิเมชั่นและภาพยนต์ทั่วไป และ "The Time Machine" เป็นผลงานกำกับภาพยนต์แอ็คชั่นเรื่องแรกของเขา ล่าสุดมีผลงานร่วมกำกับการแสดงให้กับภาพยนต์แอนนิเมชั่นที่ได้รับรางวัลของดรีมเวิร์คเรื่อง "The Prince of Egypt." นอกจากนี้ยังเคยมีผลงานกำกับภาพยนต์แอนนิเมชั่น "Balto" และ "An American Tail II: Fievel Goes West" กับ "We're Back: A Dinosaur's Story." เขาเป็นที่รู้จักดีในอังกฤษ โดยเริ่มจากการร่วมงานกับ

(ต่อ 2) วอร์เนอร์ บราเดอร์สร่วมกับดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส เสนอข้อมูลการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "THE TIME MACHINE"

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส เครื่องเดินทางข้ามเวลา (ไทม์แมชชีน) แทบไม่ต้องมีคำถามเลยสำหรับสิ่งสำคัญที่สุดในหนังเรื่องนี้ซึ่งก็คือเครื่องเดินทางข้ามเวลานั่นเอง พาร์กเกอร์กล่าวว่า "...

(ต่อ 1) วอร์เนอร์ บราเดอร์สร่วมกับดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส เสนอข้อมูลการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "THE TIME MACHINE"

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส ขณะเดียวกันนั้นเป็นเวลาที่มินดี้ มาริน ผู้คัดเลือกนักแสดง กำลังทดสอบการแสดงของ ซาแมนธา มุมบา ศิลปินเพลงชาวไอริชผลงานติดอันดับในอังกฤษ และมีแนวโน้ม...

ทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดัง Kickboxer น... Kickboxer III: Armageddon การกลับมาของตำนานบนแผ่นดินไทยที่งาน Super Fight Night — ทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดัง Kickboxer นำโดย Dimitri Logothetis ผู้กำกั...

ดรีมเวิร์ควางใจเน็กซ์ซัส โปรดักชั่นส์ ในการสร้างอนิเมชั่นประกอบภาพยนตร์ "แคช มี อีฟ ยู แคน"

ซานตาโมนิกา, แคลิฟอร์เนีย, 6 ม.ค. พีอาร์นิวส์ไวร์ / เอเชียเน็ท ดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส (DreamWorks Pictures) ได้มอบหมายให้ เน็กซ์ซัส โปรดักชั่นส์ เป็นผู้สร้างตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องใหม่ของดรีมเวิร์ค "จับให้...

สปายกลาส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ตกลงร่วมงานกับ ดรีมเวิร์ค

เกลนเดล, แคลิฟอร์เนีย. 11 ธ.ค. พีอาร์นิวส์ไวร์ / เอเชียเน็ท นายแกรี่ บาร์เบอร์ (Gary Barber) และ นายโรเจอร์ เบิร์นบอม (Roger Birnbaum) รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สปายกลาส (Spyglass) ร่วมกับนายวอลเตอร์ เอฟ. ปาร์คเกส (Walter F. Parkes...

ASIANET: "ดรีมเวิร์ค"เปิดเผยข้อความประกอบภาพใน "Road Trip"

บริษัทดรีมเวิร์คได้เปิดเผยข้อความบรรยายภาพ ที่ปรากฎใน http://www.newscom.com/cgi-bin/prnh/20000512/LAF015 ดังนี้:- "ท้องถนนของเมืองเวสต์วู้ดได้มีความคึกคัก เมื่อบรรดานักแสดงในภาพยนตร์ชวนหัวเรื่อง "Road Trip" ของบริษัทดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส ...