สนพ. ชวนลดใช้พลังงาน หวังลดการปล่อยก๊าซ CO2

          สนพ. เพิ่มช่องทางให้ข้อมูลประหยัดพลังงาน หวังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ระบุ ปริมาณการใช้พลังงานของประเทศในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 ส่งผลต่อการปล่อยก๊าซ CO2 เพิ่มขึ้น 2.3%
          นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากสถิติการใช้พลังงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-มิ.ย.2556) พบว่ามีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นทุกประเภท ส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพิ่มขึ้น 2.3%
          โดยพบว่ามีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) รวม 120.23 ล้านตัน CO2 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) รวม 117.55 ล้านตัน CO2 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 โดยเชื้อเพลิงหลักที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สูงสุดคือ ภาคการผลิตไฟฟ้าร้อยละ 41 ส่วนในภาคขนส่งมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ร้อยละ 27 ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ร้อยละ 23 และภาคเศรษฐกิจอื่นๆ มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ร้อยละ 9 “หากเปรียบเทียบการปล่อยก๊าซ CO2 ของประเทศไทยกับต่างประเทศ จากค่าเฉลี่ย ในปี 2553 จะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซ CO2 ที่ระดับ 0.553 กิโลกรัม CO2 ต่อ 1 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) สูงกว่าประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีการปล่อย CO2 เพียง 0.331-0.522 กิโลกรัม CO2 ต่อ 1 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) เนื่องจากกลุ่มสหภาพยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกา มีการใช้นิวเคลียร์เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่ไม่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซ CO2” นายเสมอใจ กล่าว
          อย่างไรก็ดี การประหยัดพลังงาน รวมถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้อย่างยั่งยืน ซึ่ง สนพ. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้และเห็นว่าสื่อ Social Media จะเป็นช่องทางที่เข้าถึงคนในยุคปัจจุบันได้มาก จึงได้จัดทำ Facebook และ Twitter ขึ้น เพื่อให้ความรู้ด้านพลังงาน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพแก่ประชาชน และทำให้เกิดการลดใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารด้านพลังงาน และเกร็ดความรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมใจลดใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ทาง Facebook Fan Page “Energy Knowledge By EPPO” และ Twitter สามารถ follow ได้ที่ @Eppo_Knowledge