ซีรีส์บิวตี้แอนด์เดอะบีสท์กับการปฏิเสธขนบของการจบเรื่องแบบเดิมๆ ที่ให้ตัวละครครองสุขกัน 'ตลอดกาลนาน’

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          เหลืออีกเพียงไม่กี่ตอนซีรีส์เรื่องบิวตี้แอนด์เดอะบีสท์ก็จะอวสาน นั่นหมายถึงเวลาของแคท แชนด์เลอร์ (คริสติน ครูก) และวินเซนต์ เคลเลอร์ (แสดงโดยเจย์ ไรอัน) เหลือน้อยลงทุกที ขณะเดียวกันผู้ชมต่างคอยลุ้นฉากจบของคู่พระนางอย่างแคทและเจย์ ตัวละครที่โดนครอบงำจากพลังชั่วร้ายดั่งในนิยาย
          เรื่องราวในนิยายดังภายใต้ชื่อเรื่องเดียวกันกับซีรีส์เรื่องนี้ได้เล่าเหตุการณ์ของเจ้าชายที่ต้องการหลุดพ้นจากคำสาป และหนทางเดียวที่จะเป็นอิสระจากมนต์สะกดนั้นได้คือต้องมีหญิงสาวมารักเขา โดยไม่รังเกียจรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดน่ากลัวของเขา ซึ่งหลังจากที่เจ้าชายสิ้นพระชนม์ อสูรได้กลับกลายร่างเป็นมนุษย์ เพราะได้รับพลังแห่งความรักที่บริสุทธิ์จากหญิงสาว
          แต่ทว่าผลงานที่สร้างขึ้นในปี 2530 ไม่ได้จบลงเหมือนในนิยาย กล่าวคืออสูรยังคงสภาพเดิมแทนที่จะกลายร่างไปเป็นมนุษย์ในตอนจบ ทั้งนี้ เพื่อขับความดีภายในจิตใจของเขาให้เห็นเด่นชัดขึ้นนั่นเอง ผลงานดังกล่าวถือเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งนำแสดงโดยครูกและไรอัน เมื่อเหตุการณ์ตอนจบของต้นฉบับเป็นเช่นนั้นแล้ว ฉากจบของแคทและวินเซนต์ในซีรีส์จะเป็นอย่างไร

อวสานมนต์ดำ
          วินเซนต์เป็นตัวละครที่ต้องมนต์สะกดเหมือนดังเช่นอสูรในนิยาย แต่ในเรื่องนี้วินเซนต์ไม่ได้เจอกับนางฟ้าผู้เสกมนต์สะกดเขา แต่ต้องเผชิญกับผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เขากลายพันธุ์ และมีพลังเหนือมนุษย์
          ก่อนหน้านี้ทั้งวินเซนต์และตัวละครอื่นๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการทดลองจะต้องถูกส่งตัวไปยังอัฟกานิสถานเพื่อร่วมรบ ครั้นการทดลองเกิดผิดพลาด รัฐบาลจึงได้สั่งการให้กำจัดมนุษย์ทดลองเหล่านี้อย่างเร่งด่วน
          วินเซนต์ต้องฝืนกับสภาวะความเป็นอมนุษย์ภายในตัวเอง ซึ่งเป็นผลมาจากการทดลอง และยังต้องยังต้องหลบหนีการถูกไล่ล่าจากคนของทางรัฐบาลอีกด้วย
          ตามพล็อตเรื่องเดิมในนิยายนั้น การพ้นจากสภาวะการกลายพันธุ์คือหนทางที่จะทำให้วินเซนต์สามารถกลับคืนสู่ความเป็นมนุษย์ แต่ในซีรีส์เรื่องนี้ แม้จะพบหนทางแล้ว แต่เขากลับต้องเผชิญคำถามในจิตใจว่าตกลงเขาต้องการที่จะพ้นจากสภาวะนี้หรือไม่

เธอไม่ใช่หญิงสาวผู้ตกทุกข์
          สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าสนใจคือการพลิกบทบาทเดิมของตัวละครเจ้าหญิงที่ตกอยู่ในสภาพนักโทษ เพราะแคท แชนด์เลอร์ ที่รับบทโดยคริสติน ครูก นั้นหาใช่หญิงสาวผู้ตกทุกข์ 
          แคท นักสืบสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งมหานครนิวยอร์คพยายามที่จะคลี่คลายปมปริศนาคดีที่แม่ของเธอเป็นเหยื่อฆาตกรรม โดยคดีนี้เชื่อมโยงกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นกับวินเซนต์ และเป็นเหตุให้แคทและวินเซนต์ได้มาเจอและเริ่มสานความสมพันธ์กัน อย่างไรก็ตาม เขาทั้งสองขัดแย้งกันมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มต้น แต่ในที่สุดเขาก็ผ่านพ้นวิกฤต ทั้งเรื่องความไม่ลงรอยกันเอง รวมทั้งอุปสรรคต่างๆ จนตกลงปลงใจแต่งงานกัน
          การแต่งงานของเจ้าชายและหญิงสาวอันเป็นที่รักมักเป็นจุดเริ่มต้นของความสุขสงบ 'ตลอดกาลนาน' ตามแบบฉบับในนิยาย แต่สำหรับวินเซนต์และแคทแล้ว เรื่องราวไม่ได้ดำเนินไปเช่นนั้น เขาทั้งสองกลับต้องต่อสู้กับคนที่ลักพาตัวและนักฆ่าที่ตามไลล่าวินเซนต์ในเวลาต่อมา
          เมื่อเขาทั้งสองตกอยู่ในสถานการณ์ที่กฎหมายไม่สามารถเอาผิดพวกนอกรีตได้ แคทจึงต้องหาวิถีทางในการล่อพวกเหล่าร้ายออกไปให้พ้นจากวินเซนต์

"ความรักคือสมรภูมิรบ"
          การกบฎขนบการเล่าเรื่องให้ต่างไปจากในนิยายถือเป็นหัวใจของซีรีส์เรื่องนี้ โดยตอนจบไม่ต่างจากชีวิตจริง คือไม่มีอะไรเลิศหรู และที่สำคัญไม่มีตัวละครตัวหนึ่งมาช่วยตัวละครอีกตัวให้รอดได้
          คำว่า 'นับจากนั้นเป็นต้นมาตลอดกาลนาน' ในเรื่องนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เจ้าชายมาช่วยเหลือหญิงสาวผู้น่าสงสารหรือปลดเจ้าหญิงให้พ้นจากคำสาป และแต่งงานครองรักกันไปตลอดกาลนาน ซีรีส์เรื่องนี้ยังได้นำเสนอเรื่องราวของภัยอันตรายอันเกิดจากความรักต้องห้ามอีกด้วย
          คำถามข้อหนึ่งที่ยังรอคอยคำตอบคือวินเซนต์จะเลือกกลับไปเป็นมนุษย์หรือไม่ในตอนจบ แต่บางคนก็คิดว่าจริงๆ แล้วเขาได้ความเป็นมนุษย์กลับคืนมานับตั้งแต่ที่แคทเข้ามาในชีวิต อย่างไรก็ตาม การตีความใหม่ที่ปรากฎในซีรีส์เรื่องนี้ที่ผู้สร้างต้องการชูให้เห็นคือความจริงใจของแคทที่มีต่อวินเซนต์ รักและยอมรับในข้อผิดพลาดของเขาและทุกอย่างที่เขาเป็นมากกว่าการที่วินเซนต์จะกลับคืนสู่สภาพการเป็นมนุษย์หรือไม่
          ติดตามชมตอนจบของซีรีส์บิวตี้แอนด์เดอะบีสท์ ในวันที่ 31 สิงหาคม เวลา 20:00 น. ทางช่องอาร์ทีแอล ซีบีเอส เอชดี (ทรูวิชั่นส์ 337)
ซีรีส์บิวตี้แอนด์เดอะบีสท์กับการปฏิเสธขนบของการจบเรื่องแบบเดิมๆ ที่ให้ตัวละครครองสุขกัน 'ตลอดกาลนาน’
ซีรีส์บิวตี้แอนด์เดอะบีสท์กับการปฏิเสธขนบของการจบเรื่องแบบเดิมๆ ที่ให้ตัวละครครองสุขกัน 'ตลอดกาลนาน’
 

ข่าวบิวตี้แอนด์เดอะบีสท์+เรื่องนี้วันนี้

The elephants echo

K.M. Tomyam เป็นทีมที่ทำเรื่องราวสารคดีต่างๆ ของครอบครัวญี่ปุ่น "The Elephant's Echo" เป็นโปรเจกต์สารคดีอิสระโดยครอบครัว "Okuno" ซึ่งเป็นครอบครัวผู้สร้างภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่น (พ่อ แม่ และลูกชาย) ที่อาศัยอยู่และใช้ชีวิตในเชียงใหม่มากว่า 20 ปี โปรเจกต์นี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2021 ในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งช้างในประเทศไทยหลายร้อยตัวกำลังอดอยากจนตาย ครอบครัวนี้จึงตั้งคำถามกับตัวเองทันทีว่า "เราจะช่วยอะไรได้บ้าง?" และจึงหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายทำ ภาพยนตร์เรื่องนี้ติดตาม

ท้องอืด ลมในท้องเยอะ ต้องแก้อย่างไร

คุณเป็นแบบนี้อยู่มั้ยคะ ท้องอืด ลมในช่องท้องเยอะ ท้องผูกเป็นประจำ เหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม ตรวจหาโรคทางลำไส้ โรคในช่องท้อง หรือในช่องอกก็ปกติ แต่เมื่อไปตรวจทางกายภาพบำบัดพบว่าอาการเหล่านี้อาจเกิดจากโครงสร้างร่างกายที่ไม่สมดุล อาการที่กล่าวมาข้างต้นสัมพันธ์กับ...

แถลงการณ์ดุสิตธานี กรณีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ร่วมกันปกป้อง "ดุสิตธานี" เพื่อมรดกของคนไทย

ทุกท่านคงจะทราบดีถึงการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งการประชุมได้เสร็จสิ้น...

ดิสนีย์ส่ง “บิวตี้ แอนด์ เดอะ บีสท์ – โฉมงาม กับเจ้าชายอสูร” ฉบับคนแสดง เข้าฉายแบบ3 มิติในวันที่ 17 มีนาคม 2560

จากเทพนิยายอันเป็นที่รักของแฟนๆทั่วโลกสู่ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่น(คนแสดง)และคอมพิวเตอร์กราฟฟิคสุดตระการตา เอ็มม่า วัตสัน และ แดน สตีเว่นส์ รับบท เบลล์ และ เดอะบีสท์/เจ้าชาย ลุค อีแวนส์ รับบท ...