ก.พลังงาน ร่วมกับ องค์กรความร่วมมือเยอรมัน พัฒนานโยบายความมั่นคงด้านพลังงานและนโยบายลดใช้พลังงานของไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          โครงการความร่วมมือไทย – เยอรมัน ประสบผลสำเร็จด้านการสนับสนุนทางวิชาการและข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อผลักดันแผนอนุรักษ์พลังงานและเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทย
          ดร. ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวในงานสัมมนาปิดโครงการความร่วมมือไทย – เยอรมัน ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน (Thai – German Programme on Energy Efficiency Development Plan, TGP-EEDP) ว่าได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติ การก่อสร้าง และความปลอดภัยทางปรมาณูแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMUB) เพื่อส่งเสริมการทำงานภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศไทย โดยมีหน่วยงานความร่วมมือหลักคือ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) รวมทั้งมีหน่วยงานสนับสนุน ได้แก่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันวุพแพร์ทาล ประเทศเยอรมนี
          ตลอดระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 โครงการนี้มีส่วนสำคัญในการผลักดันนโยบายอนุรักษ์พลังงานให้สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคอาคารธุรกิจ พร้อมทั้งช่วยลดการปล่อยมลพิษและก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทย ซึ่งการอนุรักษ์พลังงานถือเป็นวาระสำคัญของชาติ ที่ต้องการการมีส่วนร่วมจากประชาชนและจากทุกภาคส่วน เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาขาดแคลนพลังงานในอนาคต อันเนื่องมาจากความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยผลการดำเนินงานของโครงการได้เสนอแนะนโยบายที่สำคัญและน่าสนใจ อาทิ การพัฒนาดัชนีประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy Efficiency Indicator; EEI) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการติดตามและประเมินผลมาตรการอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการวางกรอบมาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยผู้ผลิตไฟฟ้า (EERS) ที่ยังเป็นมาตรการใหม่ และไม่เคยดำเนินการมาก่อนในประเทศไทย และข้อเสนอให้มีการพัฒนากลไกการค้ำประกันสินเชื่อ (Credit Guarantee) สำหรับโครงการอนุรักษ์พลังงานและธุรกิจการจัดการพลังงาน (Energy Service Company : ESCO) เชื่อมโยงกับกลไกที่มีอยู่แล้วของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ภายใต้กระทรวงการคลัง ที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs รวมถึงESCO มีความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินได้มากขึ้น เพื่อรองรับรูปแบบการดำเนินการของESCO อย่างครบวงจร อันนำไปสู่ความสำเร็จของการอนุรักษ์พลังงานตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ของประเทศ 
          "อีกตัวอย่างหนึ่งของผลงานจากโครงการ TGP-EEDP คือ การจัดทำคู่มือแนวทางเบื้องต้นในการออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานประสิทธิภาพสูงเชิงสถาปัตยกรรม เนื่องจากปัจจุบันการใช้พลังงานในอาคารต่างๆ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการจัดทำคู่มือดังกล่าวเพื่อสร้างความรู้และเป็นแนวทางเบื้องต้นให้กับเจ้าของอาคารและสถาปนิกในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานประสิทธิภาพสูง โดยคู่มือจะมุ่งเน้นแนวทางการออกแบบอาคาร และแสดงให้เห็นว่า การออกแบบอาคารตามมาตรฐาน (Building Energy Code : BEC) ไม่ใช่เรื่องยากและการออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานประสิทธิภาพสูงก็เป็นไปได้เช่นกัน" ดร. ทวารัฐ กล่าวเพิ่มเติม
          ด้าน นายเพเทอร์ พรือเกล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย กล่าวว่าความสัมพันธ์ทางการทูตอันดีระหว่างประเทศไทยและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีที่มีต่อกันมากว่า 150 ปี อันนำมาซึ่งความร่วมมือกันทางด้านวิชาการ ซึ่งรัฐบาลของเยอรมนี ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศไทย จึงเป็นที่มาของโครงการความร่วมมือไทย – เยอรมัน ตามแผนอนุรักษ์พลังงานนี้ ซึ่งโครงการได้เข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศไทยให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ อันจะนำมาสู่ความยั่งยืนด้านพลังงานและการบูรณาการแผนอนุรักษ์พลังงานเข้ากับนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามเจตจำนงของประเทศไทยที่ได้เสนอต่อที่ประชุม รัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ก.พลังงาน ร่วมกับ องค์กรความร่วมมือเยอรมัน พัฒนานโยบายความมั่นคงด้านพลังงานและนโยบายลดใช้พลังงานของไทย
 

ข่าวสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน+โครงการความร่วมมือวันนี้

"แอล ดับเบิลยู เอสฯ" แนะ ภาคอสังหาฯ ใช้วัสดุคอนกรีตก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนประเทศสู่ Net Zero ในปี 2608

ภาคอสังหาฯ เป็นภาคอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับต้นๆ ตามรายงานของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานระบุว่า ภาคอาคารและอสังหาริมทรัพย์เป็นอุตสาหกรรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับสองรองจากภาคการเกษตร โดยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 39%ในกระบวนการทำงาน ดังนั้น ภาคอสังหาฯ จึงควรเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ระบบ นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์

ศ.ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี มจพ. กล่า... มจพ. จัดงานสัมมนา "รถยนต์ EV กับการพัฒนาพลังงานไทย" — ศ.ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี มจพ. กล่าวเปิดการสัมมนา "รถยนต์ EV กับการพัฒนาพลังงานไทย" ในวันที่ ...

คนไทยเตรียมพร้อมกับโอกาสที่มาจากการพัฒนาย... อนาคตอันใกล้ของ EV ในไทย สรุปแนวทางและมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า ล่าสุด! — คนไทยเตรียมพร้อมกับโอกาสที่มาจากการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างไร? เปิดแนวทางและม...

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโ... สนพ.เผยราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวน หลังกลุ่มโอเปกพลัสขัดแย้งนโยบายการผลิต — นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คาดการณ์ราคาน้ำ...

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโ... สนพ. เผย ราคาก๊าซธรรมชาติ (NG) และราคา Spot LNG ปรับตัวเพิ่มขึ้น เพื่อสำรองใช้ในฤดูร้อน — นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ....

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผ... สนพ. สรุปสถานการณ์พลังงาน ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564 — สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์พลังงาน ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564 พบว่า ภา...

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโ... สนพ. คาดราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯและยุโรปผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ — นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเ...