บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำหุ้นบริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบขออนุญาตการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน (ไฟลิ่ง) ตั้งแต่วันที่ 20กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 74.99 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1บาท หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว ซึ่งหากเป็นไปตามแผนที่บริษัทฯวางไว้ คาดว่าหุ้น RJH จะสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ภายในปี 2559
นายแพทย์วชิระ วุฒิกุลประพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) (RJH) กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายกิจการโรงพยาบาลราชธานี โรงพยาบาลราชธานี โรจนะ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและลงทุนสำหรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการแพทย์ โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในภาคกลาง ซึ่งในปัจจุบันโรงพยาบาลราชธานี ได้รับการรับรองคุณภาพ Hospital Accreditation (HA) ขั้นที่ 3 เรียบร้อยแล้ว
กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) (RJH) กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาล แบ่งออกเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป 49.7% และกลุ่มลูกค้าตามโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐประมาณ 50.3% ซึ่งโรงพยาบาลมีนโยบายเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าทั่วไปด้วยการพัฒนาศักยภาพในการรักษาพยาบาล โดยการเพิ่มจำนวนแพทย์ และพยาบาล รวมถึงขยายขอบเขตการรักษาโรคเฉพาะทางที่มีความซับซ้อนสูง ส่วนลูกค้ากลุ่มสวัสดิการภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประกันสังคม บริษัทฯ มีนโยบายมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนการให้บริการให้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องต่อรายได้เหมาจ่ายที่ได้รับจากโครงการประกันสังคม
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2558 รายได้รวมอยู่ที่ 1,034.91 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 63.77 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2558 อยู่ที่ 1,075.70 ล้านบาท หนี้สินรวม 800.57 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 275.12 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส 1/2559บริษัทฯมีรายได้รวม 298.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 39.01 ล้านบาท
ไทยประกันชีวิต ได้คะแนนกำกับดูแลกิจการ (CGR) ระดับดีเลิศ 5 ดาว ต่อเนื่องปีที่ 3
กลุ่มทิสโก้ คว้าคะแนน CGR ระดับ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 สะท้อนความมุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
FVC คว้า CGR ระดับ 4 ดาว "ดีมาก" สะท้อนการยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดี
'กลุ่มบริษัทศรีตรัง' คว้า CGR ระดับดีเลิศ ติดอันดับกลุ่ม Top Quartile สะท้อนมาตรฐานด้านธรรมาภิบาลแข็งแกร่ง
SNNP สุดปลื้ม! คว้า CGR "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว 3 ปีซ้อน
A5 คว้าคะแนน CGR ระดับ 4 ดาว "ดีมาก" สะท้อนองค์กรโปร่งใสและเติบโตอย่างยั่งยืน
APCO คว้าคะแนน CGR ระดับ 4 ดาว "ดีมาก" ตอกย้ำการกำกับดูแลกิจการที่ดี มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจเติบโตยั่งยืน
TEKA สุดปลื้ม คว้าคะแนน CGR 5 ดาว "ดีเลิศ" ประจำปี 2568 สะท้อนการพัฒนาและยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดี
SPCG ผ่านการประเมินการกำกับดูแลกิจการ ระดับดีเลิศ หรือ 5 ดาวจาก IOD สะท้อนธรรมาภิบาลและจริยธรรมทางธุรกิจ