ฟิทช์: ธนาคารไทยมีสินเชื่อไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 แต่เงินกองทุนและสำรองหนี้สูญยังคงแข็งแกร่ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          จากผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ธนาคารพาณิชย์ไทยมีอัตรากำไรและคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวแย่ลง และฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่าธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะยังคงมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (แต่ไม่น่าจะสูงขึ้นมากนัก) สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2559 เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานโดยรวมที่ยังคงอ่อนแอ ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่ประกาศออกมานั้นสอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมเป็นลบที่ฟิทช์ได้มองไว้สำหรับภาคธนาคารพาณิชย์ไทย และฟิทช์ยังคงเชื่อว่าฐานะเงินกองทุนและระดับของสำรองหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะยังคงเพียงพอที่จะรับมือกับความเสี่ยงจากการชะลอตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจได้ 
          ฟิทช์ยังคงแนวโน้มอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ไทยเป็นลบต่อเนื่องในช่วงสองปีที่ผ่านมา เนื่องจากฟิทช์คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจอาจมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงและจะส่งผลให้ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นและอัตรากำไรปรับตัวต่ำลง ผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไทยในครึ่งแรกของปี 2559 สอดคล้องกับการคาดการณ์ของฟิทช์ โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมของภาคธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.6% จาก 3.2% ณ สิ้นปี 2558 และอัตรากำไรมีการปรับตัวลดลงเช่นกัน
          ค่าใช้จ่ายจากตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารที่ปรับตัวเพิ่มขี้นเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กำไรปรับตัวลดลง โดยค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 40.1% ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรองหนี้สูญ (pre-provisioning operating profit) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 จาก 31% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558
          ด้วยระดับหนี้สินภาคเอกชนที่ค่อนข้างสูง ความสามารถในการแข่งขันของภาคการส่งออกที่อ่อนแอลง และความไม่แน่นอนทางการเมือง ปัจจัยดังกล่าวยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ อีกทั้งยังคงเป็นปัจจัยท้าทายการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะปานกลาง สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงที่ 2.3% ในครึ่งแรกของปี 2559 จาก 3.4% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
          การลงทุนภาครัฐซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากปีนี้ น่าจะช่วยให้ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ (Business Sentiment) ปรับตัวดีขึ้น และหนุนให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นไปในระดับ 2.9% ในปี 2559 และ 3.2% ในปี 2560 แต่อย่างไรก็ตามอัตราการเติบโตดังกล่าวยังเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค ฟิทช์มองว่าสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานสำหรับธนาคารพาณิชย์โดยรวมน่าจะยังคงอ่อนแอไปจนถึงสิ้นปี 2559 ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ยังคงมีความเสี่ยงในด้านคุณภาพสินทรัพย์
          ฟิทช์ยังคงแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไทยส่วนใหญ่ที่ "แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ" แม้ว่าแนวโน้มของอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ยังคงเป็น "ลบ" ความแข็งแกร่งทางการเงินโดยรวมของธนาคารพาณิชย์ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี แม้ว่าคุณภาพสินทรัพย์อาจประตัวด้อยลงบ้าง แต่ธนาคารส่วนใหญ่ยังคงมีฐานะเงินกองทุนและระดับของสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่แข็งแรง โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Common Equity Tier 1 Ratio) เฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 14.2% ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 14% ณ สิ้นปี 2558 และยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำค่อนข้างมาก (ซึ่งเมื่อรวมเงินกองทุนเพิ่มเติมเผื่อสำรองไว้ยามฉุกเฉิน (Conservation Buffer) แล้วเกณฑ์ขั้นต่ำจะเป็น 5.125 % ในปีนี้และจะเพิ่มเป็น 7% ในปี 2562) นอกจากนี้อัตราสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารพาณิชย์ไทยยังคงแข็งแกร่งเช่นกัน โดยอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ในระดับที่สูงกว่า 100% สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ และสูงกว่า 80% สำหรับธนาคารขนาดเล็ก
          ฟิทช์ยังคงคาดว่าธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะสามารถผ่านเกณฑ์ Basel III เพิ่มเติมอื่นๆ ได้ ทั้งนี้รวมถึงเกณฑ์การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับกระแสเงินสดที่อาจไหลออกในภาวะวิกฤติ (liquidity coverage ratio; LCR) ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีนี้ที่ระดับ 60% และจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นปีละ 10% ไปจนครบ 100% ในปี 2563 โดยอัตราส่วน LCR เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยอยู่ที่ 171% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2559
 
 
 

ข่าวสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้+ธนาคารพาณิชย์ไทยวันนี้

ฟิทช์: หนี้เสียของธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะชะลอตัวในปี 2561

ธนาคารพาณิชย์ไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังคงมีอัตรากำไรที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสำหรับผลการดำเนินงานในปี 2560 โดยความสามารถในการทำกำไรที่ด้อยลงเป็นผลมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้น่าจะเริ่มชะลอตัวลงในปีนี้ เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นและนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาน่าจะเป็นปัจจัยช่วยให้ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวลดลง

ฟิทช์: ผลการดำเนินงานธนาคารไทยยังคงเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง แต่การเติบโต NPL จะเริ่มชะลอตัว

ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ไทยยังคงเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจากความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์จากกลุ่มลูกค้าสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และกลุ่มลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน...

ฟิทช์: การผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของธนาคารไทย แต่น่าจะยังคงรับมือได้

ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า การผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ ซึ่งมีมูลค่าหนี้สูงที่สุดตั้งแต่หลังวิกฤติการณ์เศรษฐกิจปี 2540 จะส่งผลให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)...

คุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะเริ่มผ่านพ้นจุดต่ำสุดได้ในครึ่งแรกของปี 2558

ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่าคุณภาพสินทรัพย์สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารพาณิชย์ไทยที่ปรับตัวแย่ลงในช่วงที่ผ่านมา น่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุด (Bottom out) ได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ...

ฟิทช์: ธนาคารพาณิชย์ไทยสามารถรองรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย

ฐานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะยังคงสามารถรองรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามธนาคารพาณิชย์ไทยยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในด้านรายได้และคุณภาพสินทรัพย์ จากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ...

ฟิทช์: ความสามารถในการรองรับความเสี่ยงทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ไทยจะเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง

ฟิทช์ระบุในรายงาน “APAC Banks Chart of the Month report” ว่าธนาคารพาณิชย์ของไทยมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้ แต่ธนาคาร...

ฟิทช์: แนวโน้มธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่มีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวไว้ในรายงานวิเคราะห์ฉบับล่าสุดว่า แนวโน้มของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่มีแนวโน้มมีเสถียรภาพ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ และความเสี่ยงจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ความ...

คอลเลคเชียส ขยายพอร์ตสินเชื่อในไทยเป็น 581 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังเข้าซื้อเพิ่ม

คอลเลคเชียสซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ไม่มีหลักประกัน จำนวน 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบริษัทสินเชื่อผู้บริโภคในประเทศไทย การเข้าซื้อครั้งนี้ทำให้คอลเลคเชียสมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในประเทศไทยเพิ่มเป็น 581 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราดอก...

พีอาร์เอ กรุ๊ป แต่งตั้ง "โอเวน เจมส์" ผู้นำมากประสบการณ์ ขึ้นแท่นเจ้าหน้าที่การลงทุนระดับโลก

เจมส์มีประสบการณ์คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมกว่า 30 ปี และได้ร่วมงานกับพีอาร์เอ กรุ๊ปตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา พีอาร์เอ กรุ๊ป (PRA Group, Inc.) (NASDAQ: PRAA) ("บริษัทฯ") ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาและรวบรวมสิน...