พญ.ดุจฤดี อภิวงศ์ แพทย์ด้านจิตเวช โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่าโยคะสามารถควบคุมโรคเบาหวานได้ โดยมีการศึกษาวิจัยพบว่าโยคะมีผลดีกับหลายๆ โรครวมถึงโรคเบาหวาน บนสมมุติฐานที่ว่าการฝึกลมหายใจและท่าโยคะบางท่าควบคู่กันสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของเบต้าเซลล์ของตับอ่อนได้ดีขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน (Insulin Sensitivity) จึงลดภาวะการดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) ได้ สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งขณะอดอาหารและหลังรับประทานอาหารได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้การฝึกโยคะยังสามารถช่วยลดไขมันในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้ออีกด้วย มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ทำการวิจัยพบว่า กลไกการควบคุมน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ฝึกโยคะ มีการเปลี่ยนแปลงระดับสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน อีกทั้งเปลี่ยนระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด และยังทำให้ผู้ป่วยมีวินัยในการรับประทานยาเบาหวานอีกด้วย มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าการฝึกโยคะ โดยฝึกปราณยามะ 30 นาที ตามด้วยท่าอาสนะ และปิดท้ายด้วยท่าศพ 15 นาที ผู้ป่วยโรคเบาหวานหลายคนจะรู้สึกว่ามีสุขภาพที่ดีขึ้นภายใน 7 – 10 วัน และพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในระดับน้ำตาลในเลือด ในผู้ป่วยบางรายสามารถลดปริมาณยาได้ด้วย
ผลของการฝึกโยคะต่อร่างกาย ทำให้ลดไขมันใต้ผิวหนังและลดน้ำหนัก ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานหลายรายมีสุขภาพที่ดีขึ้นและระดับน้ำตาลลดลง ผลของโยคะในผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน พบว่าติดตามผู้ป่วยไป 7 ปี ผู้ป่วยเหล่านี้มีระดับน้ำตาลในเลือดที่ดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน โดยติดตามผู้ป่วยระยะยาว 2 – 7 ปี พบว่าผู้ป่วยทั้งหมดระดับน้ำตาลลดลงภายใน 3 เดือน และสามารถลดยาลงได้ เทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฝึกโยคะหรือหยุดฝึกไป ผลของโยคะต่อภาวะแทรกซ้อนพบว่า การฝึกโยคะมีผลต่อระดับหลอดเลือดเล็กและใหญ่ ทำให้มีผลต่อการควบคุมความดันและระดับไขมันในเลือดด้วย โดยการฝึกโยคะในผู้ป่วยเบาหวานที่มีความดันโลหิตสูง หลังจากฝึกไป 3 สัปดาห์ พบว่าระดับของความดันลดลง ใช้ยาควบคุมความดันโลหิตสูงลดลง และพบว่าผู้ป่วยยังไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ด้วย เช่น โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคไต โรคที่เกิดจากไขมันในเลือดสูง เป็นต้น สำหรับระดับไขมันในเลือดหลังจาการฝึกโยคะท่าต่างๆ พบว่าระดับ LDL ลดลง และเพิ่มระดับ HDL นอกจากนี้ โยคะยังมีผลต่อประสิทธิภาพของปอด ผลต่อระดับภูมิคุ้มกันในเซลล์ รวมทั้งผลในการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานในคนทั่วไป ในการศึกษานี้ยังบอกถึงกลุ่มท่าอาสนะ ท่าเรือ ท่างู ท่าคันไถ ท่าวีรบุรุษ ท่าธนู ท่าบิดตัว ว่าช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามท่าอาสนะอื่นๆ ของโยคะที่ไม่พบว่าช่วยลดน้ำตาลในเลือดก็ยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในแง่อื่นๆ เช่นกัน และทั้งนี้การทดลองในผู้ป่วยที่ได้ฝึกโยคะต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน แล้ววัดระดับน้ำตาลในเลือด โดยที่มีผู้เข้าร่วมการศึกษาบางคนหยุดฝึกไปแล้วกลับเข้ามาฝึกใหม่ เมื่อวัดระดับน้ำตาลในเลือดแล้วพบว่า ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีเท่าผู้ที่เข้าฝึกโยคะต่อเนื่องตลอด 3 เดือน หากอยากได้ผลตามการศึกษาดังกล่าว ควรฝึกโยคะอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3 ครั้งเป็นอย่างน้อยควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบอื่นด้วย
โรงพยาบาลพระรามเก้า "ส่งต่อการให้" นำกล้องผ่าตัดเคลื่อนที่สู่ รพ. ยะลา ยกระดับการรักษา ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ
รพ.พระรามเก้า ผนึกกำลัง รพ.พระมงกุฎเกล้า เปิดเวทีวิชาการยิ่งใหญ่ "Update in Common Neck Pain 2025"
เมื่อแรงขับชีวิตถูกดูด !!! "Burnout" ภาวะหมดไฟที่วัยทำงานและ Gen Z ต้องระวัง
โรงพยาบาลพระรามเก้า "ส่งต่อการให้" มอบกล้องผ่าตัดเคลื่อนที่สู่พื้นที่ห่างไกล เพื่อโอกาสการเข้าถึงการการรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีด้านสุขภาพ
โรงพยาบาลพระรามเก้า "ส่งต่อการให้" มอบกล้องผ่าตัดเคลื่อนที่สู่พื้นที่ห่างไกล เพื่อโอกาสการเข้าถึงการการรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีด้านสุขภาพ
โรงพยาบาลพระรามเก้า ชวน "ฟังเสียงหัวใจ" ผ่านกิจกรรม LISTEN TO YOUR HEART ตอกย้ำความสำคัญของการป้องกันโรคหัวใจ
โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดประสบการณ์ "LISTEN TO YOUR HEART" นิทรรศการสุขภาพผ่านศิลปะ และเวิร์กชอปเพื่อหัวใจที่อบอุ่น
"ต่อมน้ำลายอักเสบ" อันตรายกว่าที่คิด !!!
โรงพยาบาลพระรามเก้า ตัวแทนไทย โชว์การแพทย์โรคซับซ้อนขั้นสูงที่ Osaka Expo 2025