SUSCO ไตรมาส2 โกยกำไรอีก 86 ล้านบาท ประกาศจ่าย ปันผล 5 สตางค์ต่อหุ้น

          SUSCO กำไรพุ่ง ไตรมาส 2/2561 โกยยอดขายรวมกว่า 7,200 ล้านบาท ปลื้มธุรกิจเติบโตต่อเนื่องทุกด้าน ได้แก่ ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ธุรกิจส่งออกน้ำมัน ธุรกิจน้ำมันเครื่องบิน รวมถึงธุรกิจ Non-oil ส่งผลให้ยอดขายเติบโตกว่า 14 % และมีกำไรสุทธิ 86 ล้านบาท พร้อมประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 5 สตางค์ เตรียมทุ่มงบจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและพัฒนาธุรกิจ Non-oil มั่นใจธุรกิจสถานีบริการน้ำมันยังเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้า เปิดสาขาเพิ่มอีกกว่า 10 แห่ง ภายในปีนี้
          นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/ 2561 ที่ผ่านมา SUSCO ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยมีรายได้รวมกว่า 7,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 1,552 ล้านบาท ซึ่งทำให้มีกำไรสุทธิ 86 ล้านบาท ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ปรากฏว่า SUSCO มีกำไรสุทธิ 177.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกของปี 2560 ถึง 169.7 ล้านบาท ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้ประกาศปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 5 สตางค์ โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 7 กันยายน 2561 นี้ 
          ปัจจัยหลักที่ทำให้ SUSCO มีผลกำไรที่เพิ่มขึ้น มาจากยอดการขายน้ำมันที่เพิ่มมากขึ้นกว่า 12.6 % จากการขยายสถานีบริการ และมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกเดือน ส่งผลให้ฐานสมาชิก SUSCO Smart Member เพิ่มขึ้นจากการสมัครผ่าน Application นอกจากนี้ธุรกิจส่งออกน้ำมันก็มีอัตราเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน ในส่วนของธุรกิจ Non-oil มีการขยายธุรกิจหลากหลาย เช่น ร้านสะดวกซื้อ Lawson 108 กำลังจะเปิดเพิ่มในสถานีบริการอีก 9 สาขา จากเดิม 16 สาขา นอกจากนี้ SUSCO ยังได้เพิ่มสาขา SCG Express บริการส่งพัสดุด่วนในสถานีบริการ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี รวมไปถึงมีแผนที่จะเพิ่มจุดบริการชาร์จไฟฟ้าให้กับรถยนต์ไฟฟ้า ให้ครบ 50 สถานี ภายในปีนี้อีกด้วย
          สำหรับภาพรวมธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในปี 2561 เชื่อว่ายังมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอีก โดย SUSCO เตรียมแผนธุรกิจเชิงรุกในการขยายธุรกิจและบริการ จึงมีความมั่นใจว่า จะมีฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้ SUSCO เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นใจว่าสิ้นปีนี้ SUSCO จะสามารถมียอดขายเติบโต มากกว่า10 % จากปีที่ผ่านมา"นายชัยฤทธิ์ กล่าวสรุปในที่สุด