โทนี่ ชวาทซ์ และคริสติน โปราธ เคยตั้งข้อสันนิษฐานไว้ในบทความ HBR ของตน หลังจากที่ได้ทำการสำรวจผู้คนจำนวน 19,000 คน พบว่า "พนักงานจะรู้สึกดีขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น และยั่งยืนยิ่งขึ้น หากได้รับตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน 4 ประการได้แก่ 1) การฟื้นฟู (ทางกายภาพ) 2) คุณค่า (ทางอารมณ์) 3) การมุ่งเน้น (เรื่องจิตใจ) และ 4) จุดมุ่งหมาย (ทางจิตวิญญาณ)
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีจุดที่เชื่อมโยงกันระหว่างพนักงานที่มีความก้าวหน้าและสถานที่ทำงานที่มุ่งเน้นเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี หรือ well-being แต่กลับมีเพียง 14% ในองค์กรที่มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้นๆ ของบริษัท นอกจากนี้ยังมีความย้อนแย้งภายในองค์กรที่พนักงานต้องเผชิญอยู่ทุกวัน ในประเด็นที่ว่าทำอย่างไรจึงจะได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้ทรัพยากรให้น้อยลง ซึ่งทั้งสององค์ประกอบนี้เป็นเสมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด และอาจนำไปสู่การขาดสมาธิในการทำงานตามมาด้วยความเหนื่อยล้าและอยากหลุดพ้นจากสภาพดังกล่าว
สิ่งจูงใจที่ชัดเจนสำหรับองค์กรโดยทั่วไป คือการลงทุนในโปรแกรมที่สร้างความเป็นอยู่ที่ดี นั่นคือ การให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ แต่แค่ประเด็นนี้เพียงอย่างเดียว จะช่วยให้บรรลุการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นเรื่องยากได้หรือไม่? ในมุมมองของผมกลยุทธ์ที่ดีกว่า ควรเป็นเรื่องของความพยายามในการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นพื้นฐานให้มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่หัวใจของเรื่องนี้ ซึ่งที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เรากำลังพยายามทำเรื่องดังกล่าว แต่ก็เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมอื่นๆ ที่ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน
ปรัชญาของชไนเดอร์ อิเล็คทริค
ปัจจัยพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงสำหรับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เริ่มจากคำมั่นสัญญาเรื่องของคุณค่าที่นำเสนอให้แก่พนักงาน ในเรื่องที่พนักงานจะได้รับอิสระในการบริหารจัดการทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่มีความแตกต่างกันในแบบฉบับของตัวเอง ทำไมเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ และมีแนวทางการปฏิบัติอย่างไรให้เห็นผล?
แนวทางตามความริเริ่ม
ในขณะที่คิดกลยุทธ์ในเรื่องเหล่านี้ เราตระหนักว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัวและส่วนรวม เสมือนเป็นการเดินทางที่ยาวนานและจำเป็นต้องแก้ที่พื้นฐานก่อนเป็นอันดับแรก
การฝึกอบรม
การสร้างการรับรู้และการฝึกอบรมเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ดี (well-being) นับเป็นเรื่องสำคัญ โดยเราเริ่มต้นจากการให้ผู้นำระดับสูงของชไนเดอร์ อิเล็คทริค จำนวน 2,000 ราย เข้ารับการฝึกอบรมในเรื่องความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในเรื่องดังกล่าว ซึ่งนับเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงผลักดันได้อย่างดี สุดท้ายมีพนักงานกว่า 38,000 คนที่เข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรมและสร้างการรับรู้ในเรื่องนี้
อย่างที่ชื่อบอกไว้ ห้องปฏิบัติการเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทีมในการทดลองเกี่ยวกับพฤติกรรมใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนวิถีการทำงาน เพราะ เราเชื่อว่าการทำสิ่งเล็กๆ ในทุกวัน สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมได้อย่างมีนัยสำคัญ
ตั้งแต่แรกเริ่ม ห้องปฏิบัติการจะถูกเรียกว่าเป็นการผจญภัยร่วมกัน ทั้งการร่วมกันออกแบบ ไปจนถึงร่วมกันลงมือปฏิบัติ เพื่อทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงขึ้นมา จึงมีการเปิดตัวแคมเปญระดับโลกเพื่อระดมความคิดเห็น 'crowdsourcing campaign' ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อรวบรวมความคิดที่มีแนวโน้มว่าจะทำได้จริงเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการใช้ชีวิตของผู้คน
ในปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการกว่า 1,000 แห่ง ที่ใช้จัดกิจกรรมอยู่ เช่น "กิจกรรมยืดความสุข" "โยคะรายสัปดาห์" "การประชุมอย่างใส่ใจ" "10,000 ก้าวต่อวัน" "พลังแห่งการงีบ" "การกำจัดการเสียเวลา" "กิจกรรมการกุศล" "5 ภาษาที่ช่วยสร้างคุณค่า" และอื่น ๆ อีกมากมาย
สถานที่ทำงานแห่งอนาคต
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค คิดเรื่องสถานที่ทำงานขึ้นใหม่ โดยมีการออกแบบที่สอดคล้องกันทั่วโลก ทั้งในทุกแง่มุมของสถานที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่ตั้ง ความง่ายในการเข้าถึง สถาปัตยกรรม โครงสร้าง การออกแบบ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ ทั้งหมดได้ถูกนำมาคิดทบทวนใหม่ภายใต้กรอบการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้ได้อย่างรอบคอบมากที่สุด นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังต้องให้ความมั่นคงและมีระบบรักษาปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดได้อย่างไร้ที่ติ อีกทั้งต้องมุ่งเน้นเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดี มีนวัตกรรม ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม และให้ประสิทธิภาพการทำงาน และเมื่อสถานที่ทำงานเริ่มเข้าสู่ความมีชีวิตชีวา ทุกคนจะเข้าใจได้เองว่าทำไมสถานที่ทำงานจึงมีความสำคัญมากต่อการสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงาน และช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงในแบบที่เรามองหากัน
ภาระที่หนักอึ้ง
ความก้าวหน้าของเราด้านการสร้างพื้นฐานที่ดี ช่วยให้เราสามารถทำภารกิจที่ยากในการสร้างการเชื่อมโยงระหว่างความเป็นอยู่ที่ดีและการมีศักยภาพในการทำงาน หลักความจริงซึ่งเป็นสิ่งเรียบง่าย ก็คือหากคนทำงานไม่มีศักยภาพในการเลือกตัดสินใจเกี่ยวกับการทำงานและการใช้ชีวิต คนเหล่านี้ก็แทบจะไม่มีโอกาสในการรักษาสถานภาพความเป็นอยู่ที่ดีให้กับตัวเอง สำหรับเราที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค สิ่งเหล่านี้นับเป็นเรื่องสำคัญ ได้แก่
ความยืดหยุ่น
"ความยืดหยุ่นเป็นเรื่องส่วนบุคคล" และ "51% ของพนักงานทั้งหมดต้องการทางเลือกในการทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น" แทนที่จะให้ทางเลือกแก่พนักงานในการเลือกชั่วโมงการทำงานเอง เรากลับมุ่งเน้นที่วัฒนธรรมการทำงานที่ฉลาดด้วยการให้ความยืดหยุ่นเรื่องสถานที่ทำงาน และเวลาทำงาน รวมถึงสภาพแวดล้อมในการทำงานร่วมกันได้อย่างยืดหยุ่น
แนวทางใหม่ในการทำงาน
"ความสามารถในการรับรู้ของคุณจะลดลงอย่างมาก เมื่อมีสมาร์ทโฟนอยู่ใกล้มือ ถึงแม้ว่าจะปิดเครื่องอยู่ก็ตาม" ในขณะที่มีการแจ้งเตือนใดๆ เกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟน เหมือนเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความปรารถนาที่จะเชื่อมโยงกับโลกดิจิตอลได้บังเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จึงได้ออกแบบแนวทางใหม่ในการทำงานโดยคิดถึงความจริงในข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมที่มีประสิทธิผล และการใช้อีเมลและเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือแม้แต่การส่งข้อความแชทต่างๆ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่พนักงานสามารถตัดสินใจใช้ได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ผมพยายามให้พนักงานงดการประชุมแบบ virtual meeting ในช่วงเวลาที่ไม่สมควร ในกรณีที่ต้องทำงานกับบุคคลที่ไทม์โซนแตกต่างกัน
วัฒนธรรม และความเป็นผู้นำ คือเรื่องใหญ่
พฤติกรรมของผู้นำมีผลกระทบสูงสุดต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกปลอดภัยและมีพลังในการทำงาน มีข่าวดีที่ว่าการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงไม่จำเป็นต้องเสียสละทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ในความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามกันด้วยซ้ำ ซึ่งผู้นำต้องยอมรับความจริงในข้อนี้ ตัวอย่างเช่น ที่ผ่านมาเคยมีการเปิดตัวโปรแกรม #FreeUpYourEnergy ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค สิ่งที่เราขอให้ผู้นำทั้งหมดทำ ก็คือการให้ศักยภาพแก่พนักงานและมีความเชื่อมั่นว่าพนักงานจะทำงานสำเร็จ พร้อมทั้งไม่ให้พยายามที่จะเข้าไปบริหารจัดการในเรื่องที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อย
โดยรวมแล้ว การได้รับความคิดเห็นจากใจจริงของพนักงานพร้อมกับการรับรู้ถึงความพยายามของเราที่ได้รับจากภายนอก เป็นการชี้ให้เห็นว่าเรามุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากมาย
โดยส่วนตัวแล้ว ความเป็นอยู่ที่ดีของผมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกิดจากการผสมผสานกันในหลายด้าน ทั้งการที่องค์กรให้ความยืดหยุ่นในการทำงาน ให้ทางเลือกในการจัดการกับตารางเวลาของตัวเองได้ มีเวลาให้หยุดพักเพื่อฟื้นฟูตัวเองในช่วงที่จำเป็น และทำในสิ่งที่เติมเต็มความต้องการส่วนตัวได้ ซึ่งถ้าหากผมไม่ได้ให้ความใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ ก็แทบจะจัดการกับความต้องการเรื่องงานไม่ได้เลย เพราะมันเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างอนาคตให้กับบริษัทของเรา และแน่นอน เป็นเรื่องของการออกแบบกลยุทธ์และดำเนินการร่วมกับทีมเพื่อให้อยู่เหนือตลาดได้ในที่สุด จากการทุ่มเทแรงใจ ความมุ่งมั่น และความรื่นรมย์ในการทำงาน
ท้ายที่สุด ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นความต้องการที่สร้างขึ้นจากสภาพแวดล้อมในเร็ววัน ดังนั้นไม่ว่าในการทำงานหรือการใช้ชีวิต ลองเปลี่ยนกฎเกณฑ์ในเกมการทำงานใหม่ และทำงานด้วยวิธีสมาร์ทขึ้นและตั้งใจทำสิ่งที่เราสามารถใช้พลังทำมันได้ดีที่สุด
เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ตั้งแต่ บ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยการยืนหยัดอยู่ในเวทีระดับโลกในกว่า 100 ประเทศ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นผู้นำที่โดดเด่นในด้านการจัดการพลังงาน ทั้งแรงดันไฟฟ้าขนาดกลาง-ต่ำ และระบบสำรองไฟฟ้า รวมถึงระบบออโตเมชั่นต่างๆ เรานำเสนอโซลูชั่นแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการผสานการทำงานร่วมกันทั้งในส่วนของพลังงาน ระบบออโตเมชั่น และซอฟต์แวร์ เรามีระบบนิเวศทั่วโลก ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือกับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด รวมถึงชุมชนนักพัฒนาและผู้วางระบบบนแพลตฟอร์มเปิด เพื่อมอบประสิทธิภาพด้านการดำเนินงาน และการควบคุมในแบบเรียลไทม์ เราเชื่อว่าด้วยผู้คนที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ และพันธมิตรของเรา จะช่วยให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเป็นบริษัทที่เยี่ยมยอด พร้อมกับคำมั่นสัญญาของเราที่มุ่งมั่นในเรื่องการสร้างนวัตกรรม ความหลากหลาย และความยั่งยืนช่วยให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า "Life is On" ในทุกที่สำหรับทุกคน และทุกช่วงเวลา www.schneider-electric.co.th
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว "EBO 7.0" หัวใจหลักจัดการอาคารปลอดคาร์บอน EcoStruxureTM Building Operation เวอร์ชั่นใหม่ วัดผลชัดเจน จบครบแพลตฟอร์มเดียว
"ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" ชูแนวคิด SF6-free เปลี่ยนผ่านสู่โครงข่ายไฟฟ้าอนาคตด้วย Pure Air บนเวทีสัมมนา IEEE Towards a Sustainable Grid
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ชูแนวคิด "Homes of the Future" ด้วยผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ตอบโจทย์บ้านแห่งอนาคต สร้าง "ชุมชนช่างไฟชไนเดอร์" ตอกย้ำกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค หนุน PEA จัดงานวิ่งมินิมาราธอน 2025 ชูแนวคิด "Digital green grid one step for the better energy"
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับของ Gartner(R) Top 25 Supply Chain เป็นปีที่สามติดต่อกัน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ชวนผู้ประกอบการไทยก้าวสู่การเป็น Impact Maker ปั้นโรงงาน ผลิตน้ำตาลอัจฉริยะที่ยั่งยืน ใน "ชูการ์เร็ก ไทยแลนด์ 2025" ครั้งใหญ่แห่งเอเชีย
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว "Miluz E" สวิตช์-เต้ารับซีรีส์ใหม่ ดีไซน์น้อยแต่มากฟังก์ชั่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน คุ้มค่า คุ้มราคา
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยความคืบหน้าเป้าหมายด้านความยั่งยืนในไตรมาส 2 ปี 2568 ประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดเวที Innovation Talk แนะใช้นวัตกรรมโซลูชั่นจัดการพลังงานพลิกโฉมวงการเฮลท์แคร์สู่ความยั่งยืน ตอบรับนโยบาย พ.ร.บ.โลกร้อน