นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) แจ้งภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ นัดพิเศษ ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีการหารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีการขยายเป็นวงกว้างและต่อเนื่อง โดยได้พิจารณาประเด็นต่างๆ อย่างรอบด้านด้วยความรอบคอบและเห็นว่า เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการและนโยบายของรัฐในการควบคุมและจำกัดการแพร่ระบาดของโรค รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของผู้ถือหุ้น จึงเห็นควรดำเนินการตามข้อแนะนำของหน่วยงานกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนที่เกี่ยวข้อง โดยมีมติดังนี้
- ให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 ออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะคลี่คลาย
โดยการเลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ
อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและเหมาะสม คณะกรรมการบริษัทฯ
จะพิจารณากำหนดวันประชุมและระเบียบวาระการประชุม
รวมทั้งวันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563
ขึ้นใหม่ และจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป - อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแทนการจ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลประกอบการ
6 เดือนหลังของปี 2562 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นตามกำหนดเดิมในวันที่ 21 เมษายน 2563 โดยบริษัทฯ
จะเสนอไม่จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการ ปี 2562 อีก
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อย่างใกล้ชิด เพื่อจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 โดยเร็วต่อไป
ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม
ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational
Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ
ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน
โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ
ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น
ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางเรือและทางท่อ
ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด
ธุรกิจบริการจัดเก็บน้ำมันดิบ น้ำมันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์
MPJ คว้าระดับ "ดีเยี่ยม" AGM Checklist ปี 2568 สะท้อนธรรมาภิบาลโปร่งใส-เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุน
TKS ได้รับการประเมิน AGM Checklist ปี 2568 ในระดับ "ดีเยี่ยม" สะท้อนธรรมาภิบาลโปร่งใส
TPCH คว้าคะแนน AGM Checklist "ดีเยี่ยม"
GBX คว้าระดับ "ดีเยี่ยม" จากการประเมิน AGM Checklist ปี 2568
DDD คว้า 100 คะแนนเต็ม AGM Checklist ปี 68 ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน!
"MOSHI" คว้า 100 คะแนนเต็ม AGM Checklist 2 ปีซ้อน ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านธรรมาภิบาล สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน
KTMS คว้า "ดีเยี่ยม" AGM Checklist 100 คะแนน 3 ปีซ้อน ตอกย้ำมาตรฐานธรรมาภิบาล เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุน
GGC คว้าคะแนนเต็ม 100 AGM Checklist ปี 2568 ระดับ "ดีเยี่ยมสมควรเป็นตัวอย่าง" ตอกย้ำมาตรฐานบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน
TACC คว้า 100 คะแนนเต็ม "AGM Checklist" 2 ปีซ้อน