อุทยานวิทยาศาสตร์ -วิศวะมหิดล ผนึกความร่วมมือ 6 แนวทางพัฒนานวัตกรรม-ผู้ประกอบการไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผนึกกำลังความร่วมมือของสององค์กร เดินหน้า 6 แนวทางสู่เป้าหมายพัฒนานวัตกรรม - ส่งเสริมผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพไทย คาดว่าจะเริ่มพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์-สุขภาพก่อน ในโอกาสเยี่ยมชมหน่วยงานสนับสนุนผู้ประกอบการ, เมืองนวัตกรรมอาหาร, ศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ณ อาคารสราญวิทย์ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) สวทช.

อุทยานวิทยาศาสตร์ -วิศวะมหิดล ผนึกความร่วมมือ 6 แนวทางพัฒนานวัตกรรม-ผู้ประกอบการไทย

คุณสุวิภา วรรณสาธพ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมมือกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการผนึกพลังเพื่อสนับสนุนผลักดันให้เกิด Healthcare Eco-System กลุ่มผู้ประกอบการที่จะร่วมกันให้การส่งเสริมนั้นมีหลายกลุ่ม โดยจะเริ่มจากกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ ในแนวทางการสนับสนุนแบบครบวงจร (One Stop Service) เช่นเดียวกับเมืองนวัตกรรมอาหาร และแนวทางการสนับสนุนแบบระดับความพร้อมของเทคโนโลยีสู่อุตสาหกรรม (Technology Readiness Levels :TRLs) โดยการบริหารจัดการงานวิจัย รวมทั้งการต่อยอดนำผลงานวิจัยออกสู่เชิงพาณิชย์ ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการในอนาคต ระหว่าง ม.มหิดล และ อวท. เช่น Open Innovation การประชาสัมพันธ์กิจกรรมของแต่ละหน่วยงานให้ผู้ประกอบการทราบ กิจกรรมบ่มเพาะนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่ม อุทยานวิทยาศาสตร์ -วิศวะมหิดล ผนึกความร่วมมือ 6 แนวทางพัฒนานวัตกรรม-ผู้ประกอบการไทย

รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ความร่วมมือของ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) เกิดจากการมุ่งมองอนาคตของประเทศไทย เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนผ่านในอัตราที่เร็วขึ้นด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยมีวิกฤติโควิด-19 เป็นอีกตัวเร่งให้มีการปรับตัวและเตรียมพร้อม ด้วยศักยภาพประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและเครือข่ายของทั้ง 2 องค์กร ความร่วมมือครั้งนี้ประกอบด้วย 6 แนวทางส่งเสริมสตาร์ทอัพ-ผู้ประกอบการ คือ 1.การส่งเสริมเทคโนโลยีจับคู่งานวิจัย (Research - Matching Technologies) 2.มาตรฐานและงานทดสอบ (Standard & Testing) 3.การให้คำปรึกษา (Consultation Panel) 4.โปรแกรมร่วมบ่มเพาะพัฒนานวัตกรรม (Co-Acceleration Program) 5.การหาทุนแหล่งทุนและทำการตลาด (Funding and Marketing) 6.การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง หรือ Deep Tech ในเชิงพาณิชย์ (Deep Tech Commercialization) อุทยานวิทยาศาสตร์ -วิศวะมหิดล ผนึกความร่วมมือ 6 แนวทางพัฒนานวัตกรรม-ผู้ประกอบการไทย

ทั้งนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มุ่งก้าวสู่การเป็น World-Class Engineering เดินหน้าสร้างสรรค์งานวิจัยพัฒนานวัตกรรม การเรียนการสอน และพัฒนา Reskill และ Upskill บุคคลากรอุตสาหกรรมและบ่มเพาะผู้ประกอบการในประเทศไทยให้รองรับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 และวิถีนิวนอร์มอล โดยมีระบบนิเวศสำหรับบ่มเพาะวิศวกรแห่งอนาคตและอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) อาทิ ศูนย์เครือข่ายวิจัยประยุกต์ทางเทคโนโลยีหุ่นยนต์และชีวการแพทย์ (BART Lab) สร้างสรรค์นวัตกรรมอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์และเทคโนโลยี, Innogineer Studio เปรียบเสมือนเวิร์คช็อป ครบครันเครื่องมือไฮเทคที่เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีและเมคเกอร์สามารถเข้ามาทำโปรเจคต่าง ๆ บ่มเพาะสตาร์ทอัพ สร้างชิ้นงานและต้นแบบจากความคิดสร้างสรรค์จากความฝันสู่ความเป็นจริง ส่วน Innogineer BAY เป็นศูนย์ฝึกหัดด้านหุ่นยนต์และระบบ AI ที่ทันสมัยระดับโลก ห้องปฎิบัติการการเชื่อมต่อสัญญาณสมองด้วยคอมพิวเตอร์ (Brain-Computer Interface Lab :BCI LAB) ตลอดจน ศูนย์ LogHealth ซึ่งดำเนินงานศึกษาวิจัยและออกแบบพัฒนาระบบโลจิสติกส์โรงพยาบาล และจัดทำแผนแม่บทระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารภาคสาธารณสุขของประเทศ (HealthCare Logistics Big Data) นอกจากนี้ยังมีศูนย์นวัตกรรมและฝึกอบรมการตรวจพิสูจน์หลักฐานด้านนิติวิศวกรรม (Digital Forensic Innovation and Training Center : DFIT), สำนักงานวิจัยนวัตกรรมและบริการวิชาการ เป็นต้น รวมทั้งห้องปฏิบัติการทันสมัย ศูนย์วิจัยที่เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยมหิดล อีกด้วย อุทยานวิทยาศาสตร์ -วิศวะมหิดล ผนึกความร่วมมือ 6 แนวทางพัฒนานวัตกรรม-ผู้ประกอบการไทย


ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี+ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยวันนี้

เกษตรฯ ชวน "เลิกเผา" ชี้เป้าไถกลบทำปุ๋ย หนุนปลูกถั่วหลังนา เตรียมจับมือภาคีนำร่องโรงงานพัฒนาเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวคุณภาพที่สุพรรณบุรี

เนื่องจากกรมส่งเสริมการเกษตรมีภารกิจในการส่งเสริมให้เกษตรกรเห็นถึงประโยชน์ของการไม่เผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อลดมลพิษทางอากาศหรือ PM 2.5 ประกอบกับสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชหลังนาเพื่อลดผลกระทบในช่วงฤดูแล้ง โดยถั่วเขียวเป็นพืชทางเลือกชนิดหนึ่งที่ใช้น้ำน้อยในการเพาะปลูก เก็บเกี่ยวได้เร็ว ช่วยบำรุงดิน เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทย ซึ่งปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตรร่วมกับหน่วยงานภาคีในการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

วว. ประสบผลสำเร็จคว้ารางวัลการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ จากเวทีเกาหลี - ฮ่องกง

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย คณะนักวิจัย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ด้วยการสนับสนุนของ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ประสบผลสำ...

"โปรตีนจากถั่ว" เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ย... วว. พัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์เปปไทด์ที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพระดับกึ่งอุตสาหกรรม — "โปรตีนจากถั่ว" เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน อุดมด้วยโปรตีนคุณภาพ...

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและน... สวทช. ผนึกกำลัง อบจ.เชียงราย บูรณาการ "คลินิกน้ำ-Traffy Fondue" สร้าง "สายสืบน้ำ" แบบเจอ แจ้ง จบ — กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ...