ปัจจุบันมีนวัตกรรมต่างๆ มากมายในการดูแลสัตว์เลี้ยงของเราให้มีอายุยืนยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการอาหาร โปรแกรมการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง การฉีดวัคซีน การควบคุมเห็บหมัดหรือโรคติดเชื้อที่ดียิ่งขึ้น ทำให้ในปัจจุบันอายุเฉลี่ยของสัตว์เลี้ยงนั้นมีความยืนยาวมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มประชากรของสัตว์สูงอายุนั้นมีเพิ่มมากขึ้นด้วย ทำให้วงการสัตวแพทย์มีการศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการดูแลสัตว์สูงอายุมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดการอาหารที่เหมาะสมเพื่อชะลอความเสื่อมโทรมของระบบร่างกาย หรือโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถอยู่กับเจ้าของไปได้นานๆ
เมื่อเข้าสู่วัยชราสิ่งที่มักจะมาพร้อมกับอายุที่เพิ่มขึ้นก็คือความเสื่อมของระบบต่างๆ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนได้แก่ ระบบข้อและกระดูก ที่สัตว์เลี้ยงมักจะมีอาการปวด หรือลุกขึ้นลำบาก นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่พบบ่อยมากได้แก่เรื่องสมองเสื่อม ซึ่งอาจจะก่อปัญหาพฤติกรรมตามมา เช่น ไม่ยอมนอนตอนกลางคืน อุจจาระ ปัสสาวะไม่เป็นที่ หรือจำเจ้าของไม่ได้ ซึ่งเป็นความเสื่อมที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเจ้าของอยู่ไม่น้อย[ ][ ] ความเสื่อมที่เกิดขึ้นนี้สามารถอธิบายได้ด้วยหลายทฤษฎีทางการแพทย์ ได้แก่ การกลายพันธุ์ของยีน ความเสื่อมของเซลล์ของร่างกาย ซึ่งความเสื่อมของเซลล์ที่เกิดขึ้นนั้นก็เกิดจากอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย[ ][ ]
อนุมูลอิสระ คือ อนุมูลที่ไม่เสถียรและต้องการแย่งอิเลคตรอนของอะตอมอื่นเพื่อทำให้อะตอมของมันเสถียร เปรียบเทียบง่ายๆก็เหมือนเสือที่หิวโซ แล้วเที่ยวแย่งอาหารสัตว์อื่นไปเรื่อยๆ เพื่อให้ตัวเองอิ่ม พออิ่มแล้วถึงจะอยู่นิ่งได้และเลิกทำร้ายคนอื่น ทั้งร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์นั้นประกอบขึ้นมาจากหน่วยย่อยที่สุดก็คือเซลล์ เซลล์ก็มีส่วนประกอบของเซลล์ โดยแต่ละส่วนจะต้องทำงานร่วมกัน และในเซลล์ 1 เซลล์จะประกอบด้วยอะตอมมากมายซึ่งเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ และทำงานอย่างเป็นระบบ แต่เมื่อเซลล์ของร่างกายต้องพบเจอกับอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระจะเข้ามาแย่งอิเลคตรอนจากส่วนประกอบของเซลล์ ทำให้ได้รับความเสียหายและอาจทำให้เซลล์ตายได้ ผลจากการที่เซลล์ตายก็คืออาจจะทำให้อวัยวะได้รับความเสียหาย หรือเข้าสู่ภาวะเสื่อมของอวัยวะนั้นๆนั่นเอง
อนุมูลอิสระนั้นเกิดขึ้นภายในร่างกายตลอดเวลาแม้ในภาวะที่ร่างกายปกติ ในภาวะปกติร่างกายมีระบบที่จะจัดการอนุมูลอิสระนั้นได้ด้วยตัวเองแต่เมื่อแก่ตัวลงป่วย หรือร่างกายได้รับอนุมูลอิสระในปริมาณมาก จะทำให้ร่างกายไม่สามารถจัดการกับความเสียหายเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง การเสริมสารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจะมีประโยชน์ในการช่วยรับมือกับอนุมูลอิสระและทำให้อนุมูลอิสระเหล่านั้นกลายเป็นโมเลกุลที่เสถียรเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปแย่งอิเลคตรอนจากเซลล์นั่นเอง
ในทางสัตวแพทย์นั้นมีการใช้สารต่อต้านอนุมูลอิสระกันอย่างแพร่หลาย โดยการเสริมในอาหารสุนัขนั้นจะช่วยรักษาอาหารให้คงความสดใหม่ได้นานขึ้น และยังมีการศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติอีกหลายประการ เช่นเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยปกติเซลล์ที่ทำหน้าที่ในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนั้นจะมีความเปราะบางต่อสารอนุมูลอิสระค่อนข้างมาก การเสริมสารอาหารกลุ่มที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจะทำให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นในสัตว์หลายชนิด รวมถึงสุนัขและแมวด้วย โดยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ใส่ในอาหารสุนัขนั้น ได้แก่ วิตามินอี วิตามินซี วิตามินเอ และกรดไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่มโอเมก้าต่างๆ เป็นต้น
วิตามินอีเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายของสุนัข ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น เนื่องจากสุนัขไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ในร่างกาย ในการผลิตอาหารสัตว์ National Research Council (2006) มีการกำหนดปริมาณขั้นต่ำของวิตามินอีที่สัตว์ควรได้รับต่อวันเอาไว้ โดยระดับของวิตามินอีขั้นต่ำในอาหาร ที่มาตรฐานกำหนดคือไม่น้อยกว่า 22 IU/ กิโลกรัมของอาหารเมื่อคิดจากน้ำหนักแห้งของอาหารโดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า อาหารต้องประกอบด้วย ซีลิเนียม 0.1 ppm และมีกรดไขมันไลโนเลอิกไม่เกิน 1% มีการศึกษาในสุนัขพันธุ์บีเกิ้ลพบว่า หากเสริมวิตามินอีในระดับสูงจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังมีประโยชน์ต่อผิวหนังด้วย พบว่าการเพิ่มระดับของวิตามินอีในอาหารมีความสัมพันธ์กับระดับของวิตามินอีบริเวณผิวหนังที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้กระบวนการฟื้นฟูของผิวหนังดีขึ้น9 มีการศึกษาในสุนัขที่มีภาวะภูมิแพ้ผิวหนัง พบว่าในสุนัขที่เป็นโรคภูมิแพ้ จะมีความเข้มข้นของวิตามินอีในกระแสเลือดต่ำกว่าสุนัขสุขภาพดีปกติ10 และมีการศึกษาพบว่าการเสริมวิตามินอี จะช่วยให้อาการคันลดลง และช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้[10][ ][ ] นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าวิตามินอีมีส่วนช่วยในการป้องกันความเสียหายจากภาวะขาดเลือดของเนื้อเยื่อหลายชนิดในร่างกาย[ ][ ][ ] ในสุนัขที่เริ่มมีโรคสมองเสื่อมพบว่าวิตามินอีมีส่วนช่วยให้การส่งกระแสประสาทระหว่างเซลล์ประสาทนั้นเป็นไปได้ดีขึ้นและช่วยลดความรุนแรงของรอยโรคแบบอไมลอยด์ได้17 ในอาหารเสริมของกลุ่มสุนัขที่เป็นโรคสมองเสื่อม จึงมักประกอบด้วย วิตามินอี และวิตามินซี ซิลิเนียม วิตามินบี และกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด DHA และ EPA ร่วมด้วย
สำหรับวิตามินซีนั้นร่างกายของสุนัขสามารถสังเคราะห์ได้เองในภาวะปกติ หน้าที่ของวิตามินซีก็คือเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกัน แต่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจนในร่างกาย18 และมีหลายการศึกษาที่ใช้วิตามินซีในการรักษา โดยช่วยป้องกันเซลล์เม็ดเลือดขาวการถูกทำลายด้วยอนุมูลอิสระและทำให้เม็ดเลือดขาวสามารถเก็บกินสิ่งแปลกปลอมได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นสามารถกล่าวได้ว่าสามารถช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ [19][20][21] หากให้วิตามินซีในขนาดที่สูงจะสามารถช่วยต่อต้านมะเร็งได้ โดยสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งของกระเพาะอาหาร มะเร็งช่องปาก และมะเร็งปอด22ภาวการณ์ขาดวิตามินซีทำให้เกิดภาวะเหงือกอักเสบได้ในสัตว์ แต่เป็นภาวะที่พบไม่บ่อย ทั้งนี้การเสริมวิตามินซีให้กับสัตว์นั้นควรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสัตวแพทย์เสมอเพราะระดับการเสริมที่ไม่เหมาะสมย่อมสงผลเสียต่อสัตว์ได้
นอกจากนี้การศึกษาเกี่ยวกับสารต่อต้านอนุมูลอิสระไม่ได้มีแค่ในกลุ่มของสุนัขอายุมากเท่านั้น ในสุนัขวัยผู้ใหญ่ทั่วไปก็ได้มีการศึกษาถึงผลของการเสริมสารต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยแบ่งสุนัขออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ได้รับการเสริมสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินอี และกรดอะมิโนทอรีนลงในอาหาร และสุนัขที่ได้รับอาหารปกติ โดยทำการทดลองให้อาหาร 8 สัปดาห์ หลังจากนั้นทำการฉีดวัคซีนพบว่าสุนัขกลุ่มที่ได้รับสารต่อต้านอนุมูลอิสระมีแนวโน้มการถูกทำลายของ DNA น้อยกว่าและการตอบสนองของภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีนดีกว่าอีกกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ23 ดังนั้นอาหารสุนัขบางยี่ห้อจึงได้มีการเสริมสารต่อต้านอนุมูลอิสระเพื่อหวังให้เกิดประโยชน์ต่อสุนัขดังที่ได้กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น อย่างไรก็ตามสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เสริมในอาหารนั้นจะทำงานได้มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการดูดซึมและการนำไปใช้ รวมถึงชนิดของอาหารที่กินด้วย
สพ.ญ. ฐิตา เตโชฬาร สัตวแพทย์ประจำคลินิกหัวใจ คลินิกระบบขับถ่ายปัสสาวะ และคลินิกเบาหวาน โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพูดถึงการเสริมสารอาหารดังกล่าวว่า "สารต่อต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่เหมาะสมมีประโยชน์ต่อสุนัขในทุกช่วงวัย และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดการอักเสบ การชะลอความเสื่อม และทำให้การตอบสนองของภูมิคุ้มกันดีขึ้น รวมถึงในปัจจุบันได้มีการใช้สารเหล่านี้ในการรักษาโรคหลายโรค ได้แก่โรคสมองเสื่อม โรคข้อ หรือโรคผิวหนัง ดังนั้นจึงเรียกได้ว่ามีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในสัตว์ปกติและสัตว์ที่มีโรค"
สพ.ญ.วธุวรรณ พฤกษนันต์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารวิชาการสัตว์เลี้ยง มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า "สารต่อต้านอนุมูลอิสระมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลูกสุนัข และยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในสุนัขโตและสุนัขสูงวัย อีกด้วย ด้วยเหตุนี้สัตวแพทย์ที่ร่วมคิดค้นสูตรอาหาร IAMS (ไอแอมส์) ที่เสริมสารต่อต้านอนุมูลอิสระเพื่อให้มั่นใจว่าสุนัขทุกตัวจะได้รับสารดังกล่าวอย่างเพียงพอเพื่อให้สุนัขแข็งแรง และมีสุขภาพที่ดีในทุกๆ วัน"
แน่นอนว่ามีสารอาหารต่างๆอีกมากมายหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อสัตว์เลี้ยงของเรา ทั้งการเสริมสารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่ได้กล่าวไปข้างต้น การเสริมพรีไบโอติก หรือวิตามินอื่นๆเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงระบบต่างๆ ในร่างกายสัตว์เลี้ยง ดังนั้นการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดในการเลือกอาหารที่เหมาะสมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เจ้าของสามารถทำได้ง่ายๆเพื่อดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยง
เกี่ยวกับ มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์
มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจ มาร์ส เพ็ทแคร์ มีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมีผู้ร่วมงานกว่า 85,000 คนทั่วโลก โดยดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นเจ้าของตราสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำของโลก อาทิ PEDIGREE(R) WHISKAS(R) IAMS(R) CESAR(R) SHEBA(R)TEMPTATIONS(R) เป็นต้น ด้วยความเชื่อว่าสัตว์เลี้ยงทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้น ในปัจจุบัน มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ ได้ดำเนินโครงการ Better Cities for PetsTM จากแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่น "เพื่อโลกที่ดีกว่าสำหรับสัตว์เลี้ยงTM" ท่านสามารถทำความรู้จักกับ มาร์ส ให้มากขึ้น ได้ที่ https://www.mars.com/
เกี่ยวกับไอแอมส์(R)
ไอแอมส์(R) เป็นตราสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงเกรดพรีเมี่ยมที่อยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจ มาร์ส เพ็ทแคร์ จากประสบการณ์คิดค้นและพัฒนาสูตรอาหารมากว่า 73 ปี ไอแอมส์(R) มุ่งเน้นที่จะตอบสนองความต้องการที่แตกต่างและหลากหลายของสัตว์เลี้ยง เพื่อให้เค้ามีสุขภาพที่ดี และมีความสุขในแบบที่เขาเป็น ท่านสามารถหาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.iams.asia/th/
สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จัดกิจกรรม "World Pneumonia Day 2025 : Stop Pneumonia, Save Lives" ในวันปอดอักเสบสากล
สคร.12 สงขลา แนะ "ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมเน้นย้ำ "หยุด วงจร ไข้หวัดใหญ่ด้วย DMH"
รณรงค์วันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ แพทย์เตือน 'ไข้กาฬหลังแอ่น' หนึ่งในสาเหตุของการติดเชื้อในสมองและกระแสเลือด เสี่ยงเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง
เมื่อ RSV และไข้หวัดใหญ่ ระบาดหนัก ควรจะป้องกันและเตรียมตัวรับมืออย่างไร?
สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลาน ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV)
โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล เสริมเกราะให้ลูกน้อย ทางเลือกใหม่ ป้องกันไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก #โตไปไม่ป่วย
ไฟเซอร์ เดินหน้านำเสนอนวัตกรรมยาและวัคซีน เพื่อการป้องกันและรักษา ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนไทย
Play Smart, Live Joyful สนุกเต็มที่ พัฒนาการเต็มร้อย
สคร.12 สงขลา เตือนโรคไข้เลือดออกอันตรายในช่วงหน้าฝน แนะสังเกตอาการบุตรหลาน หากสงสัยป่วยเป็นไข้เลือดออก อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที