ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.ฑีฆาก่อสร้าง "TEKA" ดีกรีผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของประเทศไทย เดินหน้าเสนอขายหุ้นไอพีโอ 75 ล้านหุ้น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปีนี้ ระดมทุนเสริมโอกาสรับงานก่อสร้างในอนาคต
นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) (TEKA) เปิดเผยว่า ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนของ TEKA ที่ได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75,000,000 หุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปี 2565
TEKA ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ โดยเป็นผู้รับเหมาหลักของโครงการ (Main Contractor) ซึ่งครอบคลุมงานตั้งแต่งานโครงสร้าง (Structure) งานสถาปัตยกรรม (Architecture) และงานระบบประกอบอาคาร (Mechanical & Electrical: M&E)
ด้วยจุดเด่นของ TEKA เป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมากว่า 38 ปี โดดเด่นในงานก่อสร้างอาคารสูงขนาดใหญ่ ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัย ตลอดจนการบริหารควบคุมงานก่อสร้างอย่างเป็นระบบด้วยความใส่ใจในการให้บริการที่ดีและการส่งมอบงานที่ตรงเวลา ทำให้ TEKA ได้รับความไว้วางใจ จากลูกค้าซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ
นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโต และรองรับแผนการเข้ารับงานใหม่ในอนาคต ด้วยวิสัยทัศน์ในการมุ่งพัฒนาสู่การเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำในประเทศไทย และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักลงทุนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความสำเร็จของ TEKA
วัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับงานก่อสร้างที่อาจเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ทั้งในด้านจำนวนโครงการและมูลค่าโครงการ รวมถึงใช้ในการจัดหา ซ่อมแซม และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์การก่อสร้างต่างๆ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายที่จะกระจายการรับงานก่อสร้าง ทั้งในส่วนของงานภาครัฐและภาคเอกชน และเพิ่มโอกาสในการรับงานที่มีความหลากหลายมากขึ้น อาทิ อาคารคอนโดมิเนียม โรงแรม อาคารสำนักงาน อาคารโรงพยาบาล อาคารคลังสินค้า รวมถึงอาคารทำการต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ เป็นต้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง รวมทั้ง สร้างโอกาสในการเติบโต เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศช่วงหลังโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินออกมากระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐบาลและการลงทุนของภาคเอกชน รวมถึงการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ช่วยสนับสนุนบรรยากาศงานก่อสร้างในประเทศให้คึกคักขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงปี 2562-2564 บริษัทฯ มีรายได้จากงานก่อสร้าง 2,404.00 ล้านบาท, 2,453.63 ล้านบาท และ 1,594.37 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้ในปี 2564 ชะลอตัวลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีโครงการขนาดใหญ่ที่ดำเนินการก่อสร้างใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้วและอยู่ในช่วงปลายโครงการก่อสร้าง โดยในปีที่ผ่านมามีโครงสร้างรายได้จากโครงการภาคเอกชน 90% และมาจากโครงการภาครัฐ 10%
ขณะที่ภาพรวมกำไรในช่วงปี 2562-2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 104.43 ล้านบาท, 87.17 ล้านบาท และ 126.02 ล้านบาท ตามลำดับ โดยจะเห็นว่าในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 44.56% แม้ว่ารายได้จะชะลอตัวลงก็ตาม เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ในงวดดังกล่าวมาจากงานภาคเอกชน ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่างานจากภาครัฐ และบริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนงานก่อสร้างและค่าใช้จ่ายบริหารลดลง ทำให้กำไรปรับเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในปีที่ผ่านมา
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งการให้บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (SAM) ส่งรายงานผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ภายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ตามที่ SAM ขอขยายระยะเวลาเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ระบบ SETLink) ตามที่ ก.ล.ต. สั่งการให้ SAM นำส่งรายงานการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ภายในวันที่ 26 เมษายน 2568* โดยเป็นการขยายระยะเวลาเพิ่มเติมตามที่ SAM ขอไป ต่อมา
GIFT คว้าคะแนน CGR 4 ดาว ระดับ 'ดีมาก' พ่วง AGM เต็ม 100 คะแนน
—
บริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจ...
PHOL รับการประเมิน CGR "ดีเลิศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10
—
บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ได้รับการประเมินตามโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะ...
อาร์เอส กรุ๊ป ได้รับการประเมิน CGR ระดับ 5 ดาว 'ดีเลิศ' 6 ปีซ้อน พร้อมรับ 100 คะแนนเต็ม จัดประชุม AGM ยอดเยี่ยม
—
บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอ...
SNNP การันตีผลงาน คว้า CGR ดีเลิศ 5 ดาว 2 ปีซ้อน
—
บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ (SNNP) ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม...
บางจากฯ ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการระดับ 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 18
—
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับการประเมินตามโครงการสำรวจการก...
GCAP ปลื้ม!!! คว้า CGR "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว ต่อเนื่องปีที่ 2
—
บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษต...
BRR ปลื้มคว้าคะแนน CGR "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว ต่อเนื่องปีที่ 7 ตอกย้ำมาตรฐานธุรกิจโปร่งใสยั่งยืน
—
บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR โชว์ศักยภาพ...
COM7 คว้ารางวัล CGR 2024 ระดับ 5 ดาว "ดีเลิศ" ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ตอกย้ำการบริหารงานตามหลัก ESG และการกำกับดูแลกิจการที่ดี
—
บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน)...
"MOSHI" คว้า CGR ในเกณฑ์ "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว สะท้อนการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
—
บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (...