ม.มหิดล - วช. คิดค้นเครื่องมือวัดทักษะสมองขั้นสูงการคิดเชิงบริหาร(Brain Executive Function) ที่ส่งผลทักษะ "อภิปัญญา" (Metacognition) เพื่อฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทย
อวัยวะส่วนที่มหัศจรรย์ที่สุด คือ "สมอง" ที่คอยขับเคลื่อนชีวิตให้ดำเนินไปตามจังหวะการเต้นของหัวใจ โดยในทางแพทยศาสตร์ถือเอาภาวะการหยุดทำงานของสมองคือการสิ้นสุดของชีวิต และเป็นอวัยวะที่ควบคุมพฤติกรรมและภาวะสมดุลต่างๆ ของร่างกาย
อาจารย์ ดร.นุชนาฏ รักษี รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย "การพัฒนาแบบวัดความสามารถการบริหารจัดการของสมองชั้นสูง (Brain Executive Function : EF) สำหรับวัยรุ่นไทย" ที่จัดทำโดยสถาบันฯ ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ทำให้ประเทศไทยมีเครื่องมือมาตรฐานในการวัด ทักษะ EF สำหรับเยาวชนเกิดขึ้นครั้งแรก
ข้อเท็จจริงที่ว่า เพียง
"วิทยฐานะ" ซึ่งได้จากการศึกษาในห้องเรียนปกติ ไม่อาจนำพาสู่ทางรอด การประสบความสำเร็จและความสุขของชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่ผันผวนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ทักษะสมอง EF มาช่วย ทั้งการนำข้อมูลที่ได้เรียนรู้มาคิด วิเคราะห์ เปรียบเทียบโดยเชื่อมโยงกับข้อมูลเก่า และข้อมูลปัจจุบัน ไปวางแผนทำกิจกรรมต่างๆ และการจดจ่อทำงาน จะทำให้เด็กมีทักษะ"อภิปัญญา" ที่จะตระหนักรู้ ตัดสินใจ เลือกวิธีการวางแผนและกำกับตัวเองให้ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งการเรียนในห้องเรียนอาจไม่เพียงพอ เด็กจำเป็นต้องได้เรียนรู้ "ทักษะชีวิต" นอกห้องเรียนร่วมกับความรู้ทางวิชาการ เพื่อส่งเสริมทักษะ EF ครอบครัวควรลดการเลี้ยงดูแบบประคับประคองดูแล หรือ "protect" มากจนเกินไป จนทำให้เด็กขาดทักษะในการปรับตัว แก้ไขปัญหา และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
เพราะจากข้อมูลการวิจัย การสำรวจสถานการณ์ทักษะ EF ของเยาวชนไทย ช่วงอายุ 11 - 18 ปี จำนวน 2,400 คน ในปี2565 พบว่าทักษะ EF ในภาพรวมส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยระดับปานกลาง ร้อยละ 45.17 ส่วน EF รายด้านพบว่ามี ทักษะ EF ที่อยู่ในระดับ ควรพัฒนาปรับปรุงเร่งด่วน 3 ด้าน คือ ด้านการทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย 35.21% ด้านการควบคุมอารมณ์ 34.54% และการยับยั้งชั่งใจ34.08%
ซึ่งความมุ่งมั่นทำงานจนสำเร็จในเวลาที่กำหนด เป็นทักษะที่สามารถทำนายได้ถึงอนาคตของความสำเร็จในการเรียนของเยาวชน และการทำงานในวัยผู้ใหญ่
ในขณะที่ทักษะด้านการควบคุมอารมณ์ และการยับยั้งชั่งใจเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงความสามารถในการควบคุมตัวเองให้มีสมาธิจดจ่อ ยืดหยุ่น ปรับตัวทำงานเป็นทีมร่วมกับผู้อื่น ซึ่งสามารถปลูกฝังได้จากการฝึกให้เยาวชนรู้จักการตั้งเป้าหมาย และกำหนดเงื่อนเวลาในการทำงาน หรือทำกิจกรรมอย่าง "รู้คิด รู้เขา รู้เรา" ที่จะได้จากการฝึกทำงานร่วมกับผู้อื่น ทำให้อยู่กับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
นอกจากนี้ ควรฝึกให้เด็กจัดการกับ "ความเครียด" เพราะหากเครียดมากๆ เป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อสมองส่วนหน้า ที่คอยควบคุมอารมณ์ ความคิด การกระทำและการตัดสินใจ ดังนั้นจึงควรฝึกให้เยาวชนหาทางออกที่เหมาะสมในการจัดการกับความเครียด ด้วยการพยายามหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย อาทิ ร้องเพลง วาดรูป ดนตรี ฯลฯรวมทั้งหลีกเลี่ยงการตีตรา และลงโทษอย่างไม่สมเหตุสมผล
ควรให้เด็กมีประสบการณ์ผ่านกิจกรรมใหม่ๆ หลากหลายเพราะกิจกรรมใหม่ๆ เด็กจะได้ใช้ทักษะ EF ในการแก้ไขปัญหามากกว่า เช่น ให้เด็กมีส่วนร่วมในการคิดวางแผนทำตารางกิจกรรมท่องเที่ยวของครอบครัวในวันหยุด ตั้งแต่การตั้งงบฯ จองที่พัก วางแผนการเดินทาง หรือให้เด็กทำโครงงานกิจกรรมกลุ่มร่วมกับเพื่อน จะช่วยพัฒนาเยาวชนให้มีพัฒนาการทักษะสมองที่ดียิ่งขึ้น
ยิ่งฝึกซ้ำๆ ฝึกบ่อยๆ จะทำให้วงจรประสาทเชื่อมต่อกันแข็งแรงขึ้น เกิดเป็นพฤติกรรม นิสัย และบุคลิกภาพที่ดีต่อไป ยิ่งจะทำให้พบกับความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจได้ในที่สุด
สำหรับเยาวชนที่สนใจประเมินทักษะสมองขั้นสูงการคิดเชิงบริหาร EF ที่ส่งผลต่อ "อภิปัญญา" ในการตระหนักรู้ความคิด ความเข้าใจของตนเอง การแก้ไขปัญหาว่าอยู่ในระดับใด สามารถเข้าไปประเมินทักษะสมองขั้นสูงการคิดเชิงบริหารได้ด้วยตัวเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่www.MUEF-teenager.com ของสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล
ซึ่งการประเมินทำให้เราทราบระดับความสามารถทักษะสมอง EF ทราบจุดเด่นและความบกพร่องของทักษะ EF เนิ่นๆ เพื่อฟื้นฟู พัฒนาได้ตรงจุด ทันท่วงที และนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพให้สูงยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพร้อมให้เยาวชนในวันนี้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศของเราต่อไป
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่www.mahidol.ac.th
สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210
เซียงเพียว แบรนด์ยาหม่องน้ำและยาดม ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ตอบโจทย์เรื่องการบรรเทา" ร่วมกับสองศิลปินคุณภาพ บอย โกสิยพงษ์ และ ป๊อด-ธนชัย อุชชิน ส่งต่อกำลังใจผ่านศิริราชมูลนิธิฯ ด้วยการจัดทำยาดมชุดพิเศษ "BOYdPOD" Limited Edition ที่เป็นตัวแทนถ่ายทอดทั้งความห่วงใยและกำลังใจ โดยความพิเศษ คือ การดีไซน์ยาดมและสายห้อยที่มีชื่อคอนเสิร์ตอยู่ใน Box Set เพื่อสื่อถึงความร่วมมือในครั้งนี้ Box Set นี้จำหน่ายในราคา 200 บาท จำนวนจำกัดเพียง 5,000 เซ็ต โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้แก่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
CMMU เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของผู้นำไทย มุ่งทรานส์ฟอร์มผู้บริหารสู่ 'ผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลง' ด้วยแนวคิด "DBA for Real World Impact"
—
รศ. ดร.ปรารถนา ปุณณกิต...
ชาบู หมูกะทะ เกี่ยวอะไรกับโรคหูดับ?
—
ในบางวันที่คุณอยากรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่าง ชาบู หรือหมูกระทะ เมนูโปรดที่หลายคนเลือก ทั้งอร่อย หอมเย้ายวน ...
RUN เปิดนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม 24 ผลงาน ภายใต้ธีม "เศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่ออนาคตประเทศไทย" ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568
—
โชว์ศักยภาพ ด้านน...
ขอเชิญร่วมประชุมวิชาการนมแม่ 2568 ความท้าทายของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในโลกหลากมิติ: บทบาทของพยาบาล
—
สมาคมพยาบาลนมแม่ประเทศไทย ร่วมกับ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาว...
"NUTRI-CARE MANGO PUDDING" นวัตกรรมอาหารกลืนง่าย สารอาหารครบ ตอบโจทย์ผู้สูงวัย พร้อมหนุนเกษตรกรไทย
—
ปัจจุบันประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์...
เอ็นไอเอ จับมือพันธมิตรทั้งเอกชน - สถาบันการศึกษา เดินหน้าติดอาวุธสตาร์ตอัปสายฟู้ดเทคภายใต้โครงการ "SPACE-F"
—
เอ็นไอเอ จับมือพันธมิตรทั้งเอกชน สถาบันการศ...
CMMU ผนึกกำลังพันธมิตรเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนมิติสังคม
—
วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิต...
INT ม.มหิดล เปิดเวที "INT Accelerate Demo Day" โชว์ศักยภาพสตาร์ตอัปสาย Healthcare-Oriented Deep Tech
—
สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (INT) มหาวิท...