นักวิจัยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พัฒนาระบบตรวจจับแกนไม้บนภาพหน้าตัดท่อนซุงไม้ยางพารา เพื่อตรวจจับแกนไม้โดยอัตโนมัติที่มีความถูกต้องแม่นยำ 100% เพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูปไม้ ช่วยลดต้นทุนลดการนำเข้าเครื่องจักร ได้รับตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติในฐานข้อมูล Scopus Q1 แล้ว เตรียมต่อยอดพัฒนาเป็นระบบตรวจจับโรคตาเขในมนุษย์
รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนพงศ์ เกิดทองมี และผู้ช่วยศาสตราจารย์ กรกต สุวรรณรัตน์ นักวิจัยจากหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ วิจัยและพัฒนาระบบตรวจจับแกนไม้บนภาพหน้าตัดท่อนซุงไม้ยางพารา โดยใช้เทคนิคโครงข่ายประสาทเทียมแบบลึก เพื่อเชื่อมต่อกับระบบในโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา ช่วยลดปริมาณการสูญเสียไม้ยางพาราจากการอบ จากกระบวนการตัดไม้ที่ติดแกนหรือไส้ไม้ได้เป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้งานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติในฐานข้อมูล Scopus Q1 แล้ว และเตรียมต่อยอดพัฒนาเป็นระบบตรวจจับโรคตาเขในมนุษย์
การแปรรูปไม้ยางพาราของประเทศไทยในปัจจุบันต้องใช้แรงงานมนุษย์ที่เรียกว่า นายม้า และ หางม้า เป็นผู้ควบคุมสังเกตแกนไม้เข้าสู่เครื่องจักรเพื่อตัดผ่าเป็นไม้แผ่น จึงต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ปัจจุบันเริ่มมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะเฉพาะทางด้านนี้ อีกทั้งลักษณะของไม้ยางพาราที่ไส้ไม้หรือแกนไม้มีลักษณะ คดงอ ไม่ตรงกัน เมื่อนายม้าและหางม้าเป็นผู้ควบคุมการตัด ทำให้ได้แผ่นไม้ที่ติดแกนไม้มากกว่าปกติ เมื่อนำไม้เหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการอบ แกนไม้จะแตกออกมาจากเนื้อไม้ ทำให้ไม้ท่อนแผ่นนั้นเสียมูลค่าหรือขายไม่ได้ ต้องนำกลับไปเผาเพื่อสร้างระบบบอยเลอร์ใหม่ ในขณะที่คุณภาพและมูลค่าของไม้ค่อนข้างสูง ปัจจุบันมีไม้ที่เสียหายจากการตัดติดแกนและการอบลักษณะนี้คิดเป็นมูลค่ากว่า 500,000 บาท/เดือน หรือกว่า 6 ล้านบาท/ปี
รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนพงศ์ เกิดทองมี หัวหน้าโครงการวิจัยดังกล่าว เปิดเผยว่า การคิดค้นระบบตรวจจับแกนไม้บนภาพหน้าตัดท่อนซุงไม้ยางพารา ประกอบด้วย 2 ระบบ คือ ระบบย่อยหมุนท่อนซุง และระบบขับเคลื่อนท่อนซุงเข้าสู่ระบบเลื่อย โดยมีกล้อง AI Camera หรือกล้องปัญญาประดิษฐ์ที่ประมวลผลโดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมแบบลึก ทำให้ระบบมีความอัจฉริยะโดยการสร้างปัญญาประดิษฐ์ ด้วยการสอนจากตัวอย่างภาพท่อนซุงไม้ยางพาราที่ได้จากสถานประกอบการกว่า 400 ภาพ ซึ่งกล้อง AI จะจับภาพหน้าตัดท่อนซุงทั้งด้านหัวและท้าย ในขณะที่ท่อนซุงหมุนไปเรื่อยๆ เพื่อตรวจจับแบบเรียลไทม์ ทำให้ได้ผลลัพธ์ในการตรวจจับแกนไม้ที่มีความถูกต้องแม่นยำสูงถึง 100% ด้วยค่าความผิดพลาดไม่เกิน 2 มิลลิเมตร โดยเลื่อยจะตัดบริเวณแกนไม้ออกมาเป็นแผ่นไม้ที่บางที่สุด แต่ครอบคลุมแกนไม้ทั้งหมดในแผ่นเดียวกัน ทำให้ได้ปริมาณไม้คุณภาพดีมากที่สุด ลดอัตราการสูญเสียไม้ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นระบบอัตโนมัติโดยรวมที่ลดการใช้แรงงานให้เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น
นักวิจัย ม.วลัยลักษณ์ คิดค้นผลิตถ่านกัมมันต์เก็บประจุไฟฟ้าจากขี้เลื่อยไม้ยางพารา
สุดเจ๋ง! เด็กวิศวะม.วลัยลักษณ์ คว้ารางวัลชนะเลิศประกวดนวัตกรรมด้านพลังงาน เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ชุมชน
ศึกษาศาสตร์ มวล. จับมือ 71 รร. สพม.นศ. สร้างครูคุณภาพสูง สู่มาตรฐานสากล
ม.วลัยลักษณ์ยืนหยัดเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก ครองอันดับ 1201+ ของโลก อันดับ 6 ของไทย THE World University Rankings 2026
ม.วลัยลักษณ์ เจ้าภาพจัดเวทีวิชาการ "พฤกษศาสตร์พื้นบ้าน" ต่อยอดองค์ความรู้พืชสมุนไพรพื้นบ้าน กระตุ้นเศรษฐกิจไทยสู่สากล
ม.วลัยลักษณ์ จับมือประชาคมท่าศาลา สานสัมพันธ์ปี'68 ชูความสำเร็จมหาวิทยาลัยระดับโลก พัฒนาท้องถิ่นยั่งยืน
SCB Academy เปิดตัว "AFAST Smart University" ขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะอนาคตให้นิสิต นักศึกษาไทย สู่บัณฑิตคุณภาพ พร้อมแข่งขันในตลาดแรงงานโลก
มาแล้ว! TCAS'69 ม.วลัยลักษณ์ รอบ Port เปิดรับ 5 รอบย่อย รวมกว่า 3,499 ที่นั่ง #Dek69 เช็กเลย
เคทีซีสานต่อพันธกิจเพื่อสังคม ส่งต่อความรู้ด้านกฎหมายสู่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์