การสำรวจเน้นย้ำความสำคัญของ Single-Vendor-SASE เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลท่ามกลางอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการจัดการ (Unmanaged) จำนวนมากและการโจมตีด้านความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น
ฟอร์ติเน็ต ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกที่ขับเคลื่อนการผสานกันของระบบเน็ตเวิร์กกิ้งและซีเคียวริตี้ เผยผลการสำรวจสถาปัตยกรรม SASE ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกครั้งใหม่ที่ดำเนินการโดยไอดีซี ด้วยการสนับสนุนจากฟอร์ติเน็ต โดยรายงานอ้างอิงผลการสำรวจล่าสุดที่จัดทำใน 9 ประเทศทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อสำรวจมุมมองของผู้นำด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้เกี่ยวกับการทำงานในแบบไฮบริด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาที่มีต่อองค์กร ตลอดจนสำรวจกลยุทธ์ต่างๆ ที่ผู้นำเหล่านี้นำมาใช้ในการบรรเทาความท้าทายด้านความปลอดภัยที่เกิดจากการปรับใช้การทำงานแบบไฮบริดในองค์กร โดยข้อมูลสำคัญที่ได้จากการสำรวจในครั้งนี้รวมถึง
ภัคธภา ฉัตรโกเมศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฟอร์ติเน็ต กล่าวว่า "ประเทศไทยยังคงมุ่งหน้าไปสู่อนาคตทางดิจิทัลเพื่อกลายเป็นผู้นำในเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้กลายเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งที่เราต้องรับทราบถึงอัตราความถี่และความซับซ้อนในการโจมตีทางไซเบอร์ ตลอดจนการละเมิดข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะในอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์คือสิ่งที่ยิ่งทำให้ปัญหานี้ยิ่งมีความท้าทายเพิ่มสูงขึ้น ที่ฟอร์ติเน็ต เรามุ่งมั่นที่จะเชื่อมช่องว่างทางทักษะ (Skill Gap) การให้ความรู้และการตระหนักรู้ที่เกี่ยวกับไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่จำเป็นแก่คนทำงานทั้งหมดที่อยู่ในองค์กร ด้วยโซลูชัน Single-Vendor SASE ของเรา เรามีเป้าหมายในการช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการนโยบายความปลอดภัย พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ให้กับคนทำงานจากระยะไกล เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ของประเทศสามารถรับมือกับความท้าทายด้านความปลอดภัยของคนทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลง"
ราชิช แพนเดย์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร ภูมิภาคเอเชีย ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ กล่าวว่า "ในขณะที่โลกเปลี่ยนไปสู่การทำงานในแบบไฮบริด องค์กรธุรกิจต่างต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมการทำงานที่มาในรูปของ สาขาส่วนบุคคล ('Branch-Office-of-One) ที่ซึ่งคนทำงานและอุปกรณ์ต่างๆ ล้วนทำงานอยู่ภายนอกของพื้นที่การทำงานปกติ งานวิจัยครั้งนี้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนสำหรับองค์กรในการปรับใช้กลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมที่จะเข้ามาช่วยจัดการทั้งความซับซ้อนและความเสี่ยงที่เกิดจากการเติบโตของการทำงานจากระยะไกล (Remote Work) จากการสำรวจ เห็นได้ชัดเจนว่า Single-Vendor SASE ที่มาพร้อมความสามารถในการควบรวมระบบเน็ตเวิร์กและความปลอดภัยเข้าด้วยกัน คือสิ่งที่พิสูจน์ว่ากำลังจะเข้ามาเป็นจุดเปลี่ยน หรือ Game-Changer สำหรับหลายๆ องค์กรที่กำลังมองหามาตรการรักษาความปลอดภัยที่เรียบง่ายและมั่นคงสำหรับผู้ใช้ทั้งภายในและภายนอกเครือข่ายทั้งหมด"
ไซมอน พิฟฟ์ รองประธานฝ่ายวิจัย ไอดีซี เอเชีย/แปซิฟิก กล่าวว่า "ผลลัพธ์ที่ได้จากการสำรวจเน้นไปที่ความสำคัญของการจัดลำดับความสำคัญมาตรการรักษาความปลอดภัยและการลงทุนในโซลูชันที่ให้การทำงานบนคลาวด์ที่บูรณาการเข้ากับโซลูชันแบบ On-Prem ได้อย่างราบรื่นเพื่อจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบไฮบริด รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น แนวโน้มความพึงพอใจที่มีต่อการใช้เวนเดอร์เพียงรายเดียว รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน (Infrastructure Convergence) แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงความต้องการการจัดการที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงสถาปัตยกรรมแบบ Zero-Trust ที่สามารถพัฒนาการปรับใช้และเสริมประสิทธิภาพด้านการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ องค์กรธุรกิจต่างต้องการที่จะจัดการปัญหาความท้าทายต่างๆ รวมไปถึงการลงทุนในโซลูชันด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งเพื่อรองรับกลุ่มคนทำงานในรูปแบบไฮบริดและลดภัยคุกคามด้านความปลอดภัย"
ภาพรวมของการสำรวจข้อมูล
การสำรวจเกิดขึ้นด้วยการพูดคุยกับผู้นำด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้จำนวน 450 คนจาก 9 ประเทศทั่วทั้งเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เวียดนาม และประเทศไทย
ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจคือผู้ประกอบการจาก 9 อุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต (14 เปอร์เซ็นต์) ค้าปลีก (13 เปอร์เซ็นต์) โลจิสติกส์ (14 เปอร์เซ็นต์) การบริการดูแลสุขภาพ หรือเฮลธ์แคร์ (13 เปอร์เซ็นต์) บริการทางการเงิน หรือ FSI (10 เปอร์เซ็นต์) และภาครัฐ (11 เปอร์เซ็นต์)
การโจมตีด้วย AI พลิกโฉมความปลอดภัยไซเบอร์ในภูมิภาค ทำให้ช่องว่างในการตรวจจับขยายกว้างขึ้น ฟอร์ติเน็ต ผู้นำระดับโลกด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ที่ขับเคลื่อนการผสานรวมของระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยเข้าด้วยกัน เผยผลสำรวจชิ้นใหม่จากไอดีซี ชี้ถึงการยกระดับการโจมตีของภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่สูงขึ้นทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งในแง่ปริมาณและความซับซ้อนในการโจมตี การศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากฟอร์ติเน็ตยังเน้นให้เห็นว่าผู้บุกรุกกำลังนำ AI มาใช้โจมตีได้อย่างแนบเนียนและรวดเร็ว ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัย
พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ คาดการณ์ความปลอดภัยไซเบอร์: ทิศทางในปี 2568 และอนาคตข้างหน้า
—
วันนี้ พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านระบบรักษาความปลอด...
ซินเน็คฯ จับมือแอกซิส คอมมิวนิเคชั่นส์ ขยายตลาดเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะในประเทศไทย
—
บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ดิสทริบิวเตอร์ผู้นำด้านไ...
Orbix CUSTODIAN ยกระดับความปลอดภัยด้านการบริหารจัดการกุญแจเข้ารหัสด้วยเทคโนโลยี Hardware Security Module (HSM) ของไอบีเอ็ม
—
บริษัท ออร์บิกซ์ คัสโทเดียน จ...
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค สร้างอีโคซิสเต็มความปลอดภัยครอบคลุมทุกองค์กร บนมาตรฐานความเชื่อมั่นเป็นหนึ่งเดียว
—
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยมุมมองการสร้างระบบนิเวศด้าน...
ฟอร์ติเน็ต ประกาศลงทุนเชิงกลยุทธ์ระยะยาว หนุนพาร์ทเนอร์ชิพ ชู Agentic AI 2.0 ในงาน Fortinet Accelerate Asia 2025
—
ฟอร์ติเน็ต ผู้นำระดับโลกด้านไซเบอร์ซีเค...
เอสไอเอส ต้อนรับผู้บริหาร HIKVISION สานต่อความร่วมมือแน่นแฟ้น เสริมศักยภาพตลาด Surveillance ไทย
—
บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ...