STELLA เร่งปิดปัญหาอดีต ตั้งด้อยค่า 1.5 พันล้าน เผยมูลค่าทางบัญชีที่แท้จริง 0.54 บาท เตรียมผลักดัน STELLA Ozone มูลค่า 5 พันล้าน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บริษัท สเตลล่า เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ STELLA รายงานผลประกอบการประจำปี 2567 โดยมีผลขาดทุนสุทธิ 2,051 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและการสำรองด้อยค่าสินทรัพย์รวมมูลค่ารายการพิเศษกว่า 1,565 ล้านบาท ตามข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

STELLA เร่งปิดปัญหาอดีต ตั้งด้อยค่า 1.5 พันล้าน เผยมูลค่าทางบัญชีที่แท้จริง 0.54 บาท เตรียมผลักดัน STELLA Ozone มูลค่า 5 พันล้าน

นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริหารของบริษัทฯ อธิบายว่า "ผลการขาดทุนในครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่จำเป็น โดยเฉพาะการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญและการด้อยค่าสินทรัพย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกรรมและการตัดสินใจในช่วงการบริหารงานในอดีตก่อนไตรมาส 3 ปี 2567 หากไม่รวมรายการพิเศษเหล่านี้ บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานจริง 487 ล้านบาท ลดลงจากในปี 2566 เป็นจำนวน 351 ล้านบาท หรือ 41.9% สะท้อนการปรับตัวที่ดีขึ้นของธุรกิจหลัก เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนภายในปี 2568 นี้"

ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้ภาพรวมรายได้จะลดลง 13% เหลือ 473 ล้านบาท แต่หากพิจารณาเฉพาะโครงการธุรกรรมปกติ ในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจนี้ 404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากยอดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวน 295 ล้านบาทในปี 2566 โดยยอดขายบ้านเพิ่มขึ้นถึง 256% และอาคารชุดเพิ่มขึ้น 1092% ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้เพิ่มขึ้นมากถึง 169 ห้อง

ขณะเดียวกัน รายได้ค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้น 18% เป็น 357 ล้านบาท จากการปรับปรุงโรงแรมและห้องชุดให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า สอดคล้องกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทำให้บริษัทสามารถปรับขึ้นราคาห้องพักเฉลี่ยต่อห้อง (ADR) ของโรงแรมได้อีกด้วย

จุดแข็งที่สำคัญของ STELLA คือการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด ซึ่งสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอจากเงินปันผล โดยในปี 2567 บริษัทได้รับเงินปันผลจำนวน 163 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 13,846 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share) อยู่ที่ 0.54 บาท ทั้งนี้ มูลค่าดังกล่าวยังไม่รวมมูลค่าที่แท้จริงของโครงการ STELLA Ozone ซึ่งเป็นโครงการที่มีศักยภาพสูงของบริษัทและผลตอบแทนให้กับบริษัทอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอันใกล้ ซึ่งได้รับการประเมินโดยผู้ประเมินอิสระมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็นมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นเพิ่มเติมอีกประมาณ 0.20 บาท

นายณัฐพศินกล่าวว่า "โครงการ STELLA Ozone เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญภายใต้กลยุทธ์ใหม่ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง แทนการขายที่ดินแปลงใหญ่แบบครั้งเดียว ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้กับบริษัทในปี 2568 และปีต่อๆ ไป"

บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจจากเดิมที่เน้นการขายที่ดินแปลงใหญ่ (Big Lot) มาสู่การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพสูงที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง พร้อมทั้งเสริมสร้างระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี ด้วยการปรับปรุงกระบวนการอนุมัติรายการสำคัญ การตรวจสอบภายในที่เข้มงวด และการเพิ่มความโปร่งใสในการรายงานข้อมูล

เมื่อเร็วๆ นี้ การเพิ่มทุนที่ประสบความสำเร็จ ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมทางการเงินในการขับเคลื่อนธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คุณภาพระดับพรีเมี่ยม ธุรกิจสุขภาพและความเป็นอยู่ (Wellness) และการลงทุนในกลุ่มธุรกิจพลังงานสะอาด โดย STELLA จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นในทุกกรณีที่พบว่ามีการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย

"เราเชื่อว่าการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในอนาคต ทำให้ผลประกอบการสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท และผู้ถือหุ้นจะได้รับประโยชน์จากความโปร่งใสและธรรมาภิบาลที่ดีในระยะยาว" นายณัฐพศินกล่าวเสริม


ข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์+ผลประกอบการประจำปีวันนี้

ก.ล.ต. มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับกองทุนรวมให้มีความเหมาะสม ชัดเจน เป็นธรรม และสะท้อนบริการที่ผู้ลงทุนได้รับ และไม่สร้างภาระแก่ผู้ลงทุนเกินควร

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการเรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณและเปิดเผยค่าธรรมเนียมกองทุนรวม เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลที่ชัดเจน ประกอบการตัดสินใจลงทุน และได้รับการบริการที่เหมาะสมกับค่าธรรมเนียมที่จ่าย (fee for reasons) รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีความยืดหยุ่นในการกำหนดค่าธรรมเนียมตามรูปแบบการให้บริการ เพื่อให้สามารถแข่งขันและตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้ลงทุนได้ดียิ่งขึ้น ก.ล.ต. สนับสนุนการใช้กองทุนรวม

ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 4 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น TRITN

ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 4 ราย ได้แก่ (1) นายภสุ วชิรพงศ์ (2) นายวิชาญ วชิรพงศ์ (3) นายอัครรัฐ วรรณรัตน์ และ (4) นายนัธทวัฒน์ พิบูลย์ธนอมร กรณีสร้างราคาหุ้น บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง...

นับถอยหลังกองทุน Thai ESGX ผู้สนใจสามารถลงทุนเพื่อรับสิทธิประโยช์ทางภาษีได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568

ก.ล.ต. ย้ำผู้สนใจลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีปี 2568 สามารถดำเนินการได้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ก่อนจะสิ้นสุดระยะเวลาของมาตรการ ทั้งในส่วนที่เป็น...

ก.ล.ต. ร่วมสนับสนุนแนวทางของ IOSCO ในการร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์สู้ภัยหลอกลงทุน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สนับสนุนแถลงการณ์ขององค์กรกำกับดูแลตลาดทุนระหว่างประเทศ International Organization of Securities Commissions (IOSCO) ขอความร่วมมือผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ...

นายกิตติ วชิรจิรากร (ซ้าย) รองกรรมการผู้อ... PLUS คว้าโล่ชื่นชมบจ.ต้นแบบ ร่วมโครงการ "ทิ้ง ทู แทรช" เดินหน้าสร้างองค์กรสีเขียวจากภายใน — นายกิตติ วชิรจิรากร (ซ้าย) รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติก...

นายชูรัช รุ่งทวีวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริ... BC คว้ารางวัล "ทิ้งทูแทรช" (Ting To Trash)" ตอกย้ำบทบาทผู้นำองค์กรต้นแบบ ESG — นายชูรัช รุ่งทวีวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท บูทิ...

บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มห... "JAS" รับรางวัลโครงการ "ทิ้งทูแทรช" ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม — บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เข้ารับมอบโล่รางวัลจากการดำ...