กองทรัสต์อัลไล เดินหน้าขยายพอร์ต เตรียมลงทุน! 2 โครงการใหม่ "ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ" และ "วิลเลจ ฮับ สายไหม" โครงการคอมมูนิตี้มอลล์บนทำเลศักยภาพ หนุนผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า อัลไล หรือ ALLY เดินหน้าขยายพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ประกาศแผนเตรียมเข้าลงทุนสินทรัพย์เพิ่มเติม 2 โครงการใน "ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ และ วิลเลจ ฮับ สายไหม มูลค่ารวม 46 ล้านบาท หนุนผลการดำเนินงานเติบโต บริหารจัดการกระแสเงินสดอย่างมีเสถียรภาพ และเพิ่มผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วย โดยในปีแรกประมาณการอัตราผลตอบแทน (Yield) กว่าร้อยละ 10 ต่อโครงการ สะท้อนศักยภาพการเติบโตของตลาดคอมมูนิตี้มอลล์ในยุคใหม่ที่ผู้บริโภคกำลังมองหาความสะดวกสบายและความสุขใกล้บ้าน คาดการณ์เข้าลงทุนเดือนพฤษภาคม 2568

กองทรัสต์อัลไล เดินหน้าขยายพอร์ต เตรียมลงทุน! 2 โครงการใหม่ "ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ" และ "วิลเลจ ฮับ สายไหม" โครงการคอมมูนิตี้มอลล์บนทำเลศักยภาพ หนุนผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง

นายกวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลไล รีท แมนเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์อัลไล หรือ ALLY เปิดเผยว่า "แผนการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เพิ่มเติมในโครงการทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ และ วิลเลจ ฮับ สายไหม นับว่าเป็นการร่วมมือการบริหารโครงการครั้งแรกระหว่างบริษัท บ้านเศรษฐกิจ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็ก โดยการเข้าลงทุนสินทรัพย์เพิ่มเติมทั้ง 2 โครงการ รวมมูลค่าเบื้องต้นอยู่ที่ 46 ล้านบาท ซึ่งมีแหล่งเงินทุนมาจากกสภาพคล่องของกองทรัสต์ สอดคล้องกับกลยุทธ์การบริหารจัดการกระแสเงินสดที่มีระบบบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนทางการเงินของกองทรัสต์ที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วย รวมถึงกลยุทธ์การมองหาสินทรัพย์ใหม่ ๆ ที่มุ่งเน้นการลงทุนในศูนย์การค้าบนทำเลที่มีศักยภาพสูง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ในทำเลที่มีการขยายตัวของที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต"

สำหรับทรัพย์สินที่มีแผนจะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ โครงการแรก ได้แก่ โครงการทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ บนทำเลศักยภาพย่านถนนติวานนท์ มูลค่าเข้าลงทุนเบื้องต้นอยู่ที่ 16 ล้านบาท เป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็ก พื้นที่เข้าลงทุนประมาณ 1,614 ตร.ม. มีกลุ่มผู้เช่าเป็นผู้ประกอบการร้านค้าที่เน้นสินค้า ร้านอาหาร และตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการเข้าซื้อสินค้าและเข้าใช้บริการร้านค้า อาทิ KFC, 7-11 และ Amazon ปัจจุบันมีอัตราการเช่าเต็ม 100% นับว่าเป็นโครงการขนาดเล็กแต่มีศักยภาพในการบริหารโครงการและผลการดำเนินงานที่ดี และโครงการที่สอง โครงการวิลเลจ ฮับ สายไหม บนทำเลถนนสายไหม มูลค่าเข้าลงทุนเบื้องต้นอยู่ที่ 30 ล้านบาท พื้นที่เข้าลงทุนประมาณ 4,680 ตร.ม. ปัจจุบันมีอัตราการเช่ากว่าร้อยละ 97 มีกลุ่มผู้เช่าเป็นผู้ประกอบการร้านค้าชั้นนำ ได้แก่ LOTUS's go fresh, B-Quick และ Banana IT ที่ตอบโจทย์ความครบครันในการเข้าใช้บริการได้ในที่เดียว

โดยทั้ง 2 โครงการนับว่าเป็นสินทรัพย์บนทำเลมีศักยภาพ และตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะในตลาดคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็กที่มีการขยายตัวตามแนวโน้มการเติบโตของที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็วและกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ ซึ่งรองรับการขยายตัวของเมืองที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผู้บริโภคยุคใหม่ต่างมองหาความสะดวกสบายใกล้บ้าน โดยภายหลังจากกองทรัสต์เข้าลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ บริษัท บ้านเศรษฐกิจ จำกัด จะยังคงรับหน้าที่เป็นผู้บริหารโครงการ เพื่อสร้างความต่อเนื่องและความมั่นใจในการบริหารจัดการดูแลพื้นที่โครงการ และผู้เช่าร้านค้าของโครงการ โดยคาดว่าจะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ 2 โครงการแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2568

ทั้งนี้ กองทรัสต์อัลไล ยังมุ่งมั่นในการรักษาประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนทางการเงินเพื่อผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เพิ่มเติม โดยคาดว่าการลงทุนในสินทรัพย์เพิ่มเติมทั้งสองโครงการสำเร็จ กองทรัสต์จะรับรู้รายได้เพิ่มจากทรัพย์สินใหม่ได้ทันที โดยในปีแรกประมาณการอัตราผลตอบแทน (Yield) กว่าร้อยละ 10 ต่อโครงการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานกองทรัสต์ ซึ่งการลงทุนครั้งนี้มีแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดของกองทรัสต์ เน้นย้ำการบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างมีเสถียรภาพเพื่อเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มกระแสรายได้จากผลการดำเนินงานให้กองทรัสต์ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายต้นทุนทางการเงินของกองทรัสต์ที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย และจะไม่กระทบกับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) และการจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์

"ในปี 2568 กองทรัสต์อัลไล มีแผนจะเข้าลงทุนในสินทรัพย์เพิ่มเติม โดยวางงบลงทุนรวมไว้ประมาณ 250 ล้านบาท และยังคงเดินหน้าหาสินทรัพย์ในโครงการใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพสูงประเภทศูนย์การค้าและโครงการมิกซ์ยูส รวมถึงมองหาผู้บริหารแบบมืออาชีพเข้ามาบริหารร่วมเพื่อสร้างการเติบโต เนื่องจากการขยายโอกาสในการลงทุนสินทรัพย์ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ จะช่วยเสริมการเติบโตของพอร์ตโฟลิโอของกองทรัสต์ให้เติบโตและมั่นคงในระยะยาว และสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์ในระยะยาว" นายกวินทร์ กล่าว


ข่าวคอมมูนิตี้มอลล์+อสังหาริมทรัพย์วันนี้

ORN ประกาศแผนปี 68 ทุ่ม 2,148 ล้านบาท เปิด 3 โครงการ ตั้งเป้ารายได้โตแรง 60% พร้อมเร่งเครื่อง 2 ธุรกิจใหม่

ORN ประกาศแผนธุรกิจปี 68 เดินหน้าลุยอสังหาฯ เชียงใหม่-ภูเก็ต เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ "HABITAT" "THE ASTRA" และคอมมูนิตี้มอลล์ครบวงจร THE BACKYARD มูลค่ารวม 2,148 ล้านบาท โชว์ Backlog แน่น 1,763 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 68-69 ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 2,218 ล้านบาท โตไม่ต่ำกว่า 60% ขณะที่ Mill Hill International School Thailand พร้อมเปิดการเรียนการสอน ก.ย. 68 นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ORN) กล่าวว่า บริษัทฯ เดินหน้าลุยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ทาโก้ เบลล์ (Taco Bell) ร้านอาหารสไตล์เม็... ทาโก้ เบลล์ เปิดสาขาใหม่ที่เฮเว่น สมุย คอมมูนิตี้มอลล์ รับดีมานด์ท่องเที่ยวคึกคัก — ทาโก้ เบลล์ (Taco Bell) ร้านอาหารสไตล์เม็กซิกันชื่อดังจากอเมริกา เดินห...

อรรถกร เนตร์เนรมิตรดี (ที่ 4 จากซ้าย) กรร... งาน ALLY Active Life Hub — อรรถกร เนตร์เนรมิตรดี (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลไล รีท แมนเนจเมนท์ จำกัด ร่วมกับ ส...