นางสาวกาญจนา ภูพิพัฒน์ผล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กทม. กล่าวถึงการยกระดับมาตรการความปลอดภัยและการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน-ขอทานในพื้นที่ย่านราชประสงค์ว่า สพส. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานของ กทม. และหน่วยงานภายนอก เช่น สำนักเทศกิจ สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ สำนักงานเขต กรมสุขภาพจิต กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) รวมถึงภาคประชาสังคม เช่น มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย มูลนิธิกระจกเงา และมูลนิธิอิสรชน ในรูปแบบคณะทำงานด้านคนไร้บ้านและขอทาน ตามคำสั่งกระทรวง พม. เพื่อตระหนักถึงปัญหาผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้นและร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยมีมาตรการและกระบวนการทำงาน ดังนี้ เมื่อได้รับการประสานแจ้ง หรือตรวจพบคนไร้บ้านที่ก่อปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในที่สาธารณะจะประสานแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2557 หรือศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร พม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หากคัดกรองพบว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะยากลำบาก และยินยอมเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพจะส่งตัวไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งและสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชาย-หญิงธัญบุรี เพื่อรับการฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตต่อไป กรณีเจ็บป่วยจะประสานส่งตัวเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐตามสิทธิการรักษาพยาบาล เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ และหากประสงค์จะฝึกอาชีพจะได้รับการฝึกอาชีพและจัดหางานตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล

สำหรับกรณีพบขอทาน พนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าพนักงานเทศกิจ ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 จะส่งตัวให้สถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ เพื่อสอบสวน บันทึกการจับกุม และเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย และหากเป็นขอทานต่างด้าวจะส่งตัวไปยัง สตม. เพื่อผลักดันกลับประเทศต้นทาง พร้อมกันนี้ ได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือประชาชน นักท่องเที่ยวต่างชาติว่า "การให้เงินแก่ขอทานถือเป็นความผิด" ภายใต้แนวคิด "หยุดให้ = หยุดขอทาน"
ขณะเดียวกัน ได้จัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับสำนักงานเขตลงพื้นที่สำรวจ ตรวจตรา คัดกรอง และจัดทำประวัติคนไร้บ้าน เพื่อนำไปเป็นฐานข้อมูลในการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขตามสภาพปัญหาและความต้องการเฉพาะบุคคลอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดตั้งจุดบริการสวัสดิการสังคม (Drop In) ได้แก่ บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เขตพระนคร เปิดบริการระหว่างเวลา 10.00 - 16.00 น. เพื่อรับลงทะเบียน คัดกรอง ทำประวัติ ให้คำปรึกษาและประสานส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริการซัก อบ อาบ ห้องอาบน้ำ ห้องสุขา และ การประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการด้านต่าง ๆ ทุกวัน ตลอดจนบริการตรวจสุขภาพ ตัดผม รถสุขาเคลื่อนที่ และรับสมัครงานทุกวันศุกร์ รวมถึงบริการรถทะเบียนเคลื่อนที่เพื่อทำบัตรประชาชนและย้ายสิทธิการรักษา พยาบาลในทุกวันศุกร์สัปดาห์สุดท้ายของเดือน
นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับปรุงอาคารสำนักงานประปาแม้นศรี (เดิม) เพื่อเปิดเป็น "บ้านอิ่มใจ" ซึ่งเป็นสถานที่พักชั่วคราวสำหรับคนไร้บ้านในรูปแบบ Emergency Shelters รองรับการจัดบริการสวัสดิการสังคมและฟื้นฟูคนไร้บ้าน รวมทั้งการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้คนไร้บ้านที่มีความประสงค์ทำงานหรือฝึกอาชีพตามความสนใจ ได้กลับเข้าสู่ระบบการทำงาน มีรายได้ และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคมอย่างปกติสุข
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สพส. ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านและขอทาน โดยเพิ่มความเข้มงวดกวดขันตรวจสอบความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ 50 เขต ร่วมกับสำนักงานเขต ดำเนินการตาม พ.ร.บ. การคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2557 พ.ร.บ. ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองและความปลอดภัยของประชาชน
นายอิทธิพล อิงประสาร ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดประชุมเพื่อยกระดับและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในย่านธุรกิจการค้าแยกราชประสงค์ โดยติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่ได้รับบาดเจ็บ การกำหนดมาตรการจัดการกับคนเร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง และขอทาน เพื่อไม่ให้กระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยว รวมทั้งการสังเกต เตือนภัย และพิสูจน์ทราบ เพื่อจับกุมมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในรูปแบบนักท่องเที่ยวซึ่งก่อเหตุเกี่ยวกับทรัพย์ เช่น การล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว การหลอกดูธนบัตร และอื่น ๆ อีกทั้งได้หารือถึงการนำเทคโนโลยีโดยเฉพาะระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการดูแลรักษาความปลอดภัย ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกันเหตุและการเป็นสมาชิกแจ้งข่าว รวมทั้งการจัดระเบียบจราจรตามโครงการ "ราชประสงค์โมเดล"
นอกจากนี้ สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ควบคุมดูแลการใช้พื้นที่สาธารณะให้เป็นไปตามกฎหมาย ดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบเหตุฉุกเฉิน เช่น การเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ โดยมุ่งเน้นพื้นที่ย่านราชประสงค์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและย่านธุรกิจสำคัญ ขณะเดียวกันได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี สพส. และ พม. ประสานผู้ประกอบการในย่านราชประสงค์ เพื่อบูรณาการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน ขอทาน และกลุ่มบุคคลที่อาจเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อยกระดับความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนต่อไป