- ๕ มี.ค. "รมว.เกษตรฯ" เน้นย้ำบูรณาการทำงานทุกภาคส่วน เร่งรัดขับเคลื่อนโครงการสำคัญ ย้ำ กำกับดูแลการใช้จ่ายอย่างโปร่งใส กระจายเม็ดเงินสู่พื้นที่ให้มากที่สุด
- ๕ มี.ค. กรมชลประทาน ปล่อยคาราวานเครื่องจักรช่วยเหลือประชาชนช่วงภัยแล้ง
- ๕ มี.ค. 'เฉลิมชัย' รับกำลังใจจากเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรัฐ ยืนยัน มุ่งมั่นแก้ปัญหาให้จบในยุคนี้ พร้อมเร่งรัดติดตามจ่ายค่าชดเชยเร่งด่วน
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังได้ร่วมมือกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asia Development Bank: ADB) มาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อดำเนินโครงการ "การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตรเพื่อเพิ่มการฟื้นตัวและความยั่งยืนในพื้นที่สูง (Climate Change Adaptation in Agriculture for Enhanced Recovery and Sustainability of Highlands)" โดยได้ร่วมกันคัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย ณ ต.บัวใหญ่ อ.นาน้อย จ.น่าน เป็นพื้นที่ดำเนินโครงการ เนื่องจากเป็นพื้นที่มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งเป็นพื้นที่สูงที่ประสบปัญหาการชะล้างพังทลายของดินและการขาดแคลนน้ำ โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) และสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดน่าน เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับ ADB รับผิดชอบหลักในระดับพื้นที่ ซึ่งตลอดระยะเวลาของการพัฒนาโครงการฯ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และส่วนภูมิภาค ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
ล่าสุด ADB ได้เสนอโครงการฯ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลญี่ปุ่นในการจ้างที่ปรึกษา เพื่อจัดทำโครงการในลักษณะเป็นจุดสาธิตการทำเกษตรบนพื้นที่สูงในพื้นที่ 6 หมู่บ้าน ณ ต.บัวใหญ่ เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงการคลัง ประเทศญี่ปุ่น ผ่านกองทุนเพื่อการลดความยากจนของรัฐบาลญี่ปุ่น จำนวน 2 ล้านเหรียญสหรัฐ มีระยะเวลาดำเนินงานโครงการ 3 ปี มีสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียเป็นที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งได้เริ่มต้นดำเนินโครงการแล้ว เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 และจะมีการสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่สูงได้เรียนรู้วิธีการและแนวทางการปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางการเกษตรที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ การรับมือและปรับตัวกับภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้ตามบริบทที่เหมาะสมกับพื้นที่ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวของชุมชนบนพื้นที่สูง รวมถึงการจัดการระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
สำหรับผลสำเร็จของโครงการฯ ได้กำหนด 4 ผลผลิต คือ ผลผลิตที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานสำหรับประเมินความเปราะบางของเกษตรพื้นที่สูงดีขึ้น ผลผลิตที่ 2 มีระบบการเกษตรที่เท่าทันต่อสภาพภูมิอากาศ ผลผลิตที่ 3 ผลิตภัณฑ์การเกษตรมีคุณภาพ มูลค่าและความเชื่อมโยงกับตลาดเพิ่มขึ้น และ ผลผลิตที่ 4 ส่วนราชการท้องถิ่นและชุมชนเกษตรสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มขึ้น
"กระทรวงเกษตรฯ พร้อมสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่สูงได้เรียนรู้วิธีการและแนวทางการปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางการเกษตรที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อรับมือและปรับตัวกับภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้ตามบริบทที่เหมาะสมของพื้นที่ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อีกทั้งยังพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการร่วมกันดำเนินโครงการต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำโครงการฯ รวมถึงธนาคารพัฒนาเอเชีย ตลอดจนสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียที่ให้การสนับสนุนความช่วยเหลือทางวิชาการ เพื่อช่วยกันพัฒนาเกษตรกรในพื้นที่สูงให้สามารถปรับตัวและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสามารถเป็นต้นแบบขยายผลไปสู่การทำเกษตรในพื้นที่สูงอื่น ๆ ต่อไป" นายเฉลิมชัย กล่าว
ที่มา: กระทรวงเกษตรและสหกรณ์