กรุงเทพ--5 พ.ย.--ทศท.
นายเสถียร ปิตกานันท์ ผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ฯ ร่วมกับนายศุภชัย เจียรวนนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านเขตปฏิบัติการและพัฒนาธุรกิจ บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ และนายปลื้มใจ สินอากร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารโครงการบริษัท ไทยเทเลโฟนแอนด์เทเลคอมมิวนิ- เคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทีทีแอนด์ที ร่วมแถลงความก้าวหน้าของงานโครงการ ขยายบริการโทรศัพท์ 4.1 ล้านเลขหมาย ตามวาระครบกำหนดส่งมอบเลขหมาย พร้อมให้บริการตามสัญญา ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 7 อาคารที่ว่าการองค์การโทรศัพท์ฯ แจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2539
ตามโครงการขยายบริการโทรศัพท์ 4.1 ล้านเลขหมาย ได้แบ่งออกเป็น 2 โครงการ คือ โครงการขยายบริการโทรศัพท์ 2.6 ล้านเลขหมายในเขตบริการ โทรศัพท์นครหลวง ซึ่งองค์การโทรศัพท์ฯ มอบหมายให้บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ เป็นผู้ดำเนินการโดยลงนามในสัญญา เมื่อ วันที่ 2 สิงหาคม 2534 ทำการติดตั้งโทรศัพท์พื้นฐานจำนวน 2 ล้านเลขหมาย โดย เริ่มดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2535 ต่อมาวันที่ 8 กันยายน 2538 ได้มี การลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมให้ทำการติดตั้งโทรศัพท์เพิ่มอีก 6 แสนเลขหมาย รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 2.6 ล้านเลขหมาย ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 30 กันยายน 2539
ในส่วนของเขตบริการโทรศัพท์ภูมิภาคได้มอบหมายให้ บริษัท ไทย เทเลโฟนแอนด์เทเลคอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ ทีทีแอนด์ที เป็นผู้ดำเนินการโดย ลงนามในสัญญา เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม 2535 ดำเนินการติดตั้งโทรศัพท์พื้นฐาน จำนวน 1 ล้านเลขหมาย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2536 ต่อมา วันที่ 21 กันยายน 2538 ได้ลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมอีก จำนวน 5 แสนเลขหมาย รวมเป็นจำนวน 1.5 ล้านเลขหมาย และต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 30 กันยายน 2539 เช่นกัน
นายเสถียร ปิตกานันท์ ผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ฯ กล่าวว่า บริษัท ทีเอ และบริษัท ทีทีแอนด์ที ได้ดำเนินการส่งมอบเลขหมายให้องค์การโทรศัพท์ฯ เป็น ที่เรียบร้อยแล้ว ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 โดยบริษัท ทีเอ ได้ทำการส่งมอบเลข หมายรวม 65 พื้นที่บริการจำนวน 2,600,000 เลขหมาย และบริษัท ทีทีแอนด์ที ได้ทำการส่งมอบเลขหมายรวมพื้นที่ 72 จังหวัด จำนวน 1.5 ล้านเลขหมาย และ มูลค่าทรัพย์สินของทั้ง 2 บริษัท ที่ส่งมอบให้กับองค์การโทรศัพท์ฯ จำนวน 127,066.10 ล้านบาท
การส่งมอบเลขหมายโทรศัพท์ได้เสร็จทันตามกำหนดในครั้งนี้ นับเป็น ความร่วมมือที่ดีระหว่างภาครัฐกับเอกชนที่กำลังมีบทบาทในการให้บริการโทรศัพท์เพิ่ม มากขึ้น อันจะเป็นไปตามนโยบายของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 ตามนโยบายรัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคม ซึ่งในอนาคตจะมีการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนให้มีการแข่งขัน เสรีมากขึ้น--จบ--