คณะผู้บริหารไม่อนุมัติซื้อรถดูดฝุ่นใหม่ แต่จะใช้วิธีขอเจากเอกชน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพ--18 มิ.ย.--กปส. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ เวลา 12.30 น. ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราช การกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม.โดยมี นายประเสริฐ สมะลาภา ปลัดกรุงเทพมหานคร, นายนิคม ปราชญ์นคร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ และนายสมควร รวิรัฐ ผู้อำนวยการสำนักการคลัง ร่วมแถลงข่าว ผู้ว่ากทม.ฯ กล่าวว่า ปัจจุบัน กทม.มีรถดูดฝุ่น จำนวน 104 คัน เป็นรถเสียจำนวนกว่า 20% คณะผู้บริหารจึงได้มีมติไม่อนุมัติในการซื้อรถใหม่ จำนวน 48 คัน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้ให้การค้ำประกันในระยะเวลาที่สั้น จึงเกิดปัญหารถเสียจำนวนมากอย่างไรก็ดี กทม. ได้มีมาตรการในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรถดูดฝุ่น โดยจะใช้วิธีประกาศเชิญชวนให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนซื้อรถดูดฝุ่น ส่วนกทม.จะขอเช่า เพราะถ้าเอกชนเป็นผู้ลงทุน ภาระเรื่องการดูแลบำรุงรักษาจะเป็นของเอกชนด้วย หรือจ้างเอกชนทำความสะอาด โดยกทม. มอบหมายพื้นที่ความรับผิดชอบให้ ส่วนรถเก่าทั้ง 104 คัน ได้ให้ รศ.ประภาภัทร นิยม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายบำเพ็ญ จตุรพฤกษ์ รองปลัดกทม. หารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เช่น จะจ้างเอกชนดูแล บำรุงรักษา หรือมีหน่วยซ่อมบำรุงพิเศษสำหรับซ่อมบำรุงเฉพาะรถดูดฝุ่นทั้ง 104 คัน ดังกล่าว ปลัดกทม. กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเนื่องมาจากการ่อสร้างของบริษัทโฮปเวลล์ว่า ถนนวิภาวดีรังสิตมีการก่อสร้างโครงการถไฟยกระดับของโฮปเวลล์ โดยการก่อสร้างบริษัทได้ถมคูน้ำสาธารณะ 2 ข้างทางรถไฟ ซึ่งเป็นทางระบายน้ำ จึงทำให้ถนนวิภาวดีเกิดน้ำท่วมขัง ทั้งนี้ จากการที่ได้มีเงื่อนไขตกลงกันไว้ ทางบริษัทต้องขุดระบายทางน้ำ 2 ข้างทางรถไฟโดยตลอด กว้างประมาณ 5 เมตร เพื่อระบายน้ำได้โดยสะดวก แต่การก่อสร้างบริเวณถนนวิภาวดีอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง อย่างไรก็ดี ถึงแม้การดำเนินงานดังกล่าวจะอยู่นอกพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร แต่ก็จะมีผลกระทบกับการระบายน้ำของกทม.ด้วย ทั้งนี้ กทม.ได้มีการประสานงานกับบริษัทโฮปเวลล์แล้ว แต่ก็ได้รับคำตอบว่า ทางโฮปเวลล์เองก็ได้รับการเร่งรัดให้ดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ กทม.จึงต้องมีการหารือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อชี้ให้เห็นถึงปัญหาดังกล่าว โดยผู้ว่าฯ กทม. จะต้องเป็นผู้ประสานงาน ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นภายในสัปดาห์หน้า ด้านผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวถึงปัญหาการระบายน้ำจากการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับของโฮปเวลล์ ที่ถนนวิภาวดีรังสิตว่า ระยะทางการก่อสร้างจากยมราชถึงดอนเมืองมีความยาว 23 กิโลเมตร โดยช่วงแรกระยะทางจากยมราชถึงวัดเสมียนนารี มีความยาว 13 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางดังกล่าว กทม. ได้เคยมีการประสานงานโดยตรงกับโฮปเวลล์ และการรถไฟฯ แล้ว แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร โดยการก่อสร้างของโฮปเวลล์ทำให้สภาพคูน้ำเดิมกว้าง 10 เมตร เหลือเพียง 2-3 เมตร เป็นผลให้ประสิทธิภาพการระบายน้ำลดลง 50-70% ส่วนช่วงที่ 2 จากวัดเสมียนนารี-สถานีรถไฟดอนเมือง สภาพคูน้ำเหลือเพียง 2 เมตรเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะจากสถานีรถไฟดอนเมือง-ท่าอากาศยานดอนเมือง ไม่เหลือคูน้ำไว้เลย ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า กรุงเทพมหานครไม่ต้องการใช้มาตรการรุนแรง แต่ถ้าโฮปเวลล์ไม่ให้ความร่วมมือใดๆ กทม.ต้องเข้าไปแทรกแซงการก่อสร้าง อย่างไรก็ดี ตนคิดว่า จากการหารือโฮปเวลล์คงจะให้ความร่วมมือด้วยดี นอกจากนี้ผู้อำนวยการสำนักการคลัง กล่าวถึง การขยายสถานธนานุบาลเพิ่มอีก 10 แห่งว่า สถานธนานุบาลของกทม. ขณะนี้มีเพียง 15 แห่ง แต่เมื่อนับเขตปกครอง ซึ่งมี 38 สำนักงานเขต และ 2 สำนักงานเขตสาขา และยังขาดอีก 25 แห่ง กทม.ได้มีนโยบายที่จะกระจายการให้บริการดังกล่าวในทุกเขตพื้นที่ปกครอง ภายใต้ปรัชญา คือ ไม่มุ่งหวังกำไร อย่างไรก็ดี การขยายสถานธนานุบาลให้ครบทั้ง 25 แห่ง จะต้องใช้งบฯ ลงทุนพอสมควร โดยที่ประชุมในวันนี้คณะผู้บริหารได้มีมติขยายสถานธนานุบาลเพิ่มอีก 10 แห่ง โดยไม่ใช้งบฯ ลงทุน แต่เป็นวิธีการเช่าอาคารสถานที่เพื่อดำเนินการ ทั้งนี้การขยายสถานธนานุบาล ดำเนินการขยายไปตามศักยภาพปีละ 3-4 แห่ง--จบ--

ข่าวสำนักการระบายน้ำ+ประเสริฐ สมะลาภาวันนี้

กทม. แจงการแก้ปัญหาระบายน้ำถนนหลวงแพ่ง - กำชับแนวทางใช้ทรัพย์สินราชการ

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตการใช้รถของ สนน. ขนไม้เพื่อเตรียมปิดกั้นคูน้ำท่อลอดถนนหลวงแพ่งอาจเอื้อประโยชน์ให้เอกชน และพบกระสอบเปล่าสำหรับบรรจุทรายซึ่งไม่มีตรา กทม. บริเวณวอเตอร์แบงค์ว่า สนน. ได้ขอจัดสรรงบประมาณประจำปี 2568 สำหรับล้างทำความสะอาดท่อลอดระบายน้ำ 11 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการจัดหาผู้รับจ้าง โดยอยู่ในขั้นตอนรอการอุทธรณ์ภายใน 7 วัน และจะครบกำหนดในวันที่ 17 มิ.ย. 68 สำหรับท่อลอดระบายน้ำถนนหลวงแพ่ง หรือคูน้ำสำเภาทะลาย เป็น 1 ใน

กทม. เตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือ น้ำหลาก น้ำทะเลหนุนสูง-เสริมแนวป้องกันน้ำท่วมริมเจ้าพระยา

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวถึงการรองรับสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม. ได้เตรียมความพร้อมแผนบริหารจัดการน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยร่วมกับ...

กทม. เร่งแก้ปัญหาบ้านรุกล้ำ-โครงสร้าง สาธารณูปโภคกีดขวางการก่อสร้างเขื่อนคลองน้ำแก้ว คาดแล้วเสร็จปลายปี 68

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองน้ำแก้วล่าช้าว่า สนน. ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) คลองน้ำ...

กทม. ยกระดับเฝ้าระวัง-แจ้งเตือนภัย ใช้เรดาห์-AI คาดฝนล่วงหน้า-พร้อมส่งทีมช่วยเหลือ 24 ชม.

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวถึงการยกระดับระบบเฝ้าระวังแจ้งเตือนและติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะภัยจากน้ำท่วมว่า สนน. ได้บูรณาการความร่วมมือ...

กทม. เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุน 27 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ-เสริมกระสอบทรายแนวฟันหลอ

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวกรณีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงระหว่างวันที่ 27 พ.ค. 1 มิ.ย. 68 ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้น...

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระ... กทม. เร่งพัฒนาระบบระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม ถ.ลาดพร้าว — นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ...

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระ... กทม. เตรียมพร้อมระบบระบายน้ำรับมือฤดูฝน-ตั้งศูนย์ป้องกันแก้ปัญหาน้ำท่วม 50 เขต — นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวถึงการเต...

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระ... กทม. แจงหลักเกณฑ์จัดสรร-ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ยึดหลัก "ความเดือดร้อนประชาชนเป็นศูนย์กลาง" — นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่...

กทม. แจงเหตุ "ตัดบ้านคืนคลอง" พร้อมเดินหน้าสร้างเขื่อนริมคลองเปรมฯ - เร่งสร้างความเข้าใจผู้รุกล้ำ

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวกรณีชาวชุมชนริมคลองเปรมประชากรร้องเรียนเจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติด้วยการตัดบ้านคืนคลองและซ่อมแซมบ้านให้กับชาวบ้านที่รุกล้ำแนวเขื่อนริมคลอง...