สิงคโปร์--30 ก.ย.--ซีเอ็นดับบลิว-เอเชียเน็ท
นายอาร์ เอ็ดเวิร์ด ฟลัด ประธาน และนายโรเบิร์ต เอ็ม ฟรีดแลนด์ ประธานกรรมการของบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ จำกัด ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทได้เสร็จสิ้นการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นในโครงการเหมืองทองบาเคียร์ชิค ทางตะวันออกเฉียงเหนือของคาซัคสถานแล้ว โดยทางบริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 80 % ในโครงการดังกล่าว ซึ่งผู้ถือหุ้นอิสระของบริษัทบาเคียร์ชิค โกลด์ จำกัด (มหาชน) ในกรุงลอนดอน ได้ให้การรับรองการปรับโครงสร้างครั้งนี้ในการประชุมวิสามัญ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้โดยแผนปรับโครงสร้างดังกล่าวได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 86 % ของผู้ถือหุ้นอิสระทั้งหมด
"การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ในการพัฒนาบริษัทขึ้นมาเป็นผู้ผลิตทองคำและทองแดงรายใหญ่ในระยะยาวในธุรกิจเหมืองแร่ของเอเชีย" นายฟรีดแลนด์กล่าว
บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ได้ชำระเงินในครั้งนี้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 65 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการขึ้นจาก 15 % เป็น 80 % โดยการชำระเงินดังกล่าว ได้รวมถึงเงิน 15 ล้านดอลล่าร์สำหรับการชำระคืนเงินกู้ที่ใช้สำหรับการผ่อนชำระค่าซื้อเหมืองงวดที่ 2 จากทั้งหมด 4 งวดให้กับรัฐบาลคาซัคสถาน, 30 ล้านดอลล่าร์สำหรับการผ่อนชำระค่างวดที่เหลืออยู่อีก 2 งวด และที่เหลืออีก 20 ล้านดอลล่าร์เป็นส่วนที่บริษัทต้องนำไปชำระหนี้ให้กับบริษัทบาเคียร์ชิค โกลด์สำหรับเงินกู้ที่นำมาใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินการของบริษัท โดยประมาณ 4.5 ล้านดอลล่าร์ของเงินทุนดังกล่าวนั้นนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์โดยทั่วไปของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์จะยังคงถือหุ้นสามัญประมาณ 28 % ในบริษัทบาเคียร์ชิค โกลด์ จำกัด (มหาชน) ต่อไป ซึ่งการถือหุ้น 28 % นี้ทำให้บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการเหมืองทองบาเคียร์ชิคเพิ่มขึ้นอีก 6 % ในทางอ้อม
"ขณะนี้บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์จะมีอำนาจในการบริหารโครงการเหมืองทองที่ยังไม่มีการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง และในฐานะผู้ดำเนินโครงการ บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์จะดำเนินการพัฒนาบาเคียร์ชิค คอมเพล็กซ์ขึ้นในเวลาที่เหมาะสม โดยจะแบ่งการขยายออกเป็น 3 ขั้น" นายฟลัดกล่าว
สำหรับทองที่คาดว่าจะขุดได้จากเหมืองดังกล่าวนั้นมีทั้งหมดประมาณ 13 ล้านออนซ์ โดย 10.5 ล้านออนซ์นั้นอยู่ในเขตการศึกษาความเป็นไปได้ (ดีเอฟเอส) จากการคำนวณของบริษัทมินพร็อค เอ็นจิเนียร์ส จำกัดในเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ส่วนอีก 2.5 ล้านออนซ์นั้นอยู่นอกเขตดีเอฟเอส ซึ่งคำนวณโดยบริษัทเวสเทิร์น เซอร์วิส เอ็นจิเนียริ่งจากเมืองซาน รามอน รัฐแคลิฟอร์เนีย
ส่วนบริษัทคแวร์เนอร์ เมทัลส์ในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดานั้นจะเป็นผู้ประเมินรายละเอียดทางด้านวิศวกรรม และวางแผนการผลิตที่ให้ผลดีที่สุด สำหรับทางเลือกในการผลิตที่บริษัทคแวร์เนอร์ เมทัลส์กำลังประเมินนั้น ได้รวมถึงอัตราการผลิตขั้นที่ 1 ที่ระดับประมาณ 500,000 ตันต่อปี โดยจะได้ทองคำประมาณ 125,000 ออนซ์ ส่วนการขยายเหมืองในขั้นที่ 2 นั้นจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับประมาณ 1 ล้านตันต่อปี โดยจะได้ทองประมาณ 275,000 ออนซ์ ในขณะที่การขยายขั้นที่ 3 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มสูงขึ้นเป็นกว่า 600,000 ออนซ์ต่อปีนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนก่อนการศึกษาความเป็นไปได้ที่บริษัทคแวร์เนอร์ เมทัลส์
บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์คาดว่าจะเปิดเผยผลสรุปของการศึกษาการผลิตขั้นที่ 1 ในจำนวน 500,000 ตันในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยในขณะนี้บริษัทกำลังดำเนินโครงการพัฒนาเหมืองแร่ใต้ดินและการก่อสร้างในขั้นที่ 1 อย่างทันที และเมื่อไม่นานมานี้ทางบริษัทเพิ่งจะเสร็จสิ้นการซื้อสัญญาเฮดจ์ทองอายุ 10 ปีมูลค่า 1 ล้านออนซ์ด้วยเงินของบริษัทเอง เพื่อรับประกันราคาฟลอร์ของทองที่ระดับเฉลี่ยประมาณ 362.50 ดอลล่าร์สหรัฐ/ออนซ์
"แผนการผลิตที่มีการแก้ไขแล้วนี้จะให้ผลตอบแทนทางการเงินที่น่าดึงดูดใจแม้แต่ที่ระดับราคาทองในปัจจุบันก็ตาม และเพื่อที่จะทำให้เหมืองบาเคียร์ชิคมีมูลค่ามากที่สุดสำหรับผู้ถือหุ้นของบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ ทางบริษัทจะดำเนินการปรับปรุงครั้งใหญ่ประกอบกับกำหนดฟลอร์ราคาในการเทขายเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาทองดิ่งลงต่อไป" นายฟลัดกล่าว
ทั้งนี้ สินทรัพย์อื่นๆของทางบริษัทได้รวมถึงเหมืองทองคำและเหมืองทองแดง รวมทั้งผลประโยชน์อื่นๆในอินโดนีเซีย, พม่า, เกาหลีใต้, เวียดนามและฟิจิ และหุ้นอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์สได้มีการซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโต้และในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียภายใต้สัญลักษณ์ไอเอ็นจี ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับทางบริษัทและโครงการต่างๆของทางบริษัทนั้น สามารถเรียกดูได้ในเว็บไซต์ต่อไปนี้ : http://www.goldfields.com-- จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-ปส/สจ--
นายอาร์ เอ็ดเวิร์ด ฟลัด ประธานบริษัท และนายโรเบิร์ต เอ็ม ฟรีดแลนด์ ประธานคณะกรรมการบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทได้ บรรลุข้อตกลงกับคณะกรรมการผู้อำนวยการของบริษัทบาเคียร์ชิก โกลด์ ในการปรับโครง สร้างการเป็นเจ้าของกิจการ และการจัดหาเงินสนับสนุนการผลิตสำหรับโครงการเหมือง ทองคำบาเคียร์ชิกทางตะวันออกเฉียงเหนือของคาซัคสถาน ถ้าข้อตกลงดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของบริษัทบาเคียร์ชิก โกลด์ ในลอนดอนแล้ว ก็จะทำให้บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์เข้าไปถือหุ้นอีก 65 %