สิงคโปร์--20 ม.ค.--ซีเอ็นดับบลิว-เอเชียเน็ท
นายอาร์. เอ็ดเวิร์ด ฟลัด ประธานบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส และนายโรเบิร์ต เอ็ม. ฟรีดแลนด์ ประธานกรรมการบริษัท ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส ได้ดำเนินมาตรการทางกลยุทธเพื่อรับมือกับภาวะตกต่ำในภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในปัจจุบันเพื่อรักษาสถานะทางการเงินที่มั่นคงของทางบริษัทไว้
นายฟลัดได้อธิบายมาตรการหลัก 4 ประการไว้ดังนี้:
1.บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส ได้ปิดสัญญา put เพื่อการทำเฮดจ์ในทองคำไปแล้วคิดเป็นปริมาณทองคำทั้งสิ้น 500,000 ออนซ์ และได้เงินมาทั้งสิ้น 14.3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.ค.ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ซื้อสัญญา put เพื่อการทำเฮดจ์ทองคำเป็นปริมาณทองคำทั้งสิ้น 1 ล้านออนซ์ในราคา 14.7 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และได้ปิดโพสิชั่นไปครึ่งหนึ่งซึ่งทำให้ทางบริษัทได้เงินคืนมาในระดับที่ใกล้เคียงกับต้นทุนทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นกำไรสุทธิได้ 6.9 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ทั้งนี้ สัญญา put นี้ได้ถูกซื้อมาเพื่อใช้รองรับภาระการชำระหนี้ในการจัดหาทุนให้กับโครงการ
บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส ได้ใช้ประโยชน์จากราคาทองคำที่ระดับปัจจุบันและได้ปิดการทำเฮดจ์ไป 50 % เมื่อราคาทองคำร่วงลงไปอยู่ใต้ระดับ 278 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ ทั้งนี้ หลังจากการทำสัญญาครั้งนี้ บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส ได้มีเงินสดและสินทรัพย์สภาพคล่องคิดเป็นมูลค่าทั้งหมดราว 75 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
2.บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส ได้เริ่มต้นกำหนดให้โครงการทองคำ Bakyrchik ในประเทศคาซัคสถาน อยู่ภายใต้โปรแกรมการตรวจซ่อมบำรุงจนกว่าราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ถึงแม้มาตรการนี้จะส่งผลให้การลงทุนบางอย่างต้องล่าช้าออกไปจากกำหนดการ แต่ทางบริษัทจะยังคงเปิดดำเนินงานโรงงานนำร่องแห่งใหม่ต่อไป ซึ่งโรงงานแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยบริษัท Drinkard Metalox, Inc. และได้รับการก่อสร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากบริษัท Kvaerner Metals of Toronto ในรัฐออนตาริโอของแคนาดา เพื่อทดสอบการนำกระบวนการ hydro-metallurgical (กระบวนการสกัดโลหะที่อุณหภูมิธรรมดาโดยใช้การละลายด้วยของเหลว) ขั้นก้าวหน้ามาใช้งาน โดยกระบวนการนี้อาจยกระดับความสามารถในการแยกทองคำจากสินแร่ในแหล่ง Bakyrchik ให้สูงขึ้นได้
การทดสอบ bench-scale ที่ทำกับสินแร่จากแหล่ง Bakyrchik พบว่า ถ้ากระบวนการนี้ประสบความสำเร็จ โรงงานเชิงพาณิชย์ Drinkard แห่งนี้อาจสามารถแยกทองคำจากสินแร่ได้สูงถึง 94 % และสามารถใช้แทนขั้นตอนหนึ่งของเครื่องโรสเตอร์ 2 ชั้นตอนในวงจรออกซิเดชั่นได้ ทั้งนี้ โรงงานนำร่อง Drinkard แห่งนี้ได้เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อเดือนที่ผ่านมาโดยใช้ค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 5.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ทั้งนี้ เมื่อโครงการทองคำ Bakyrchik นี้อยู่ภายใต้โปรแกรมการตรวจซ่อมบำรุงแล้ว จำนวนคนงานในท้องถิ่นจะถูกตัดลดลง 50 % ในขณะที่คนงานที่เหลือจะทำงานเฉพาะในส่วนของโรงงานนำร่อง Drinkard ที่เพิ่งเปิดดำเนินการ, การรักษาความปลอดภัยให้ที่ทำงาน, การให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องมือ และการบริหารเท่านั้น
3.บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส ได้ขอให้รัฐบาลคาซัคสถานปรับเปลี่ยนโครงสร้างของกำหนดการชำระเงินส่วนที่เหลือซึ่งมีมูลค่าทั้งสิ้น 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการชำระเงินเพื่อซื้อหุ้นที่ทางรัฐบาลมีอยู่ในเหมือง Bakyrchik ทั้งนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา โครงการร่วมลงทุน Bakyrchik แห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันมีหุ้น 86 % ถือครองโดยบริษัทอินโดไชน่าโกลด์ฟิลด์ส ได้ชำระเงินให้ทางรัฐบาลไปแล้ว 35 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และได้จัดสรรเงินอีก50 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน, ใช้พัฒนาสาธารณูปโภค และใช้ลงทุนในเหมืองแห่งนี้ด้วย ทั้งนี้ ทางบริษัทยังคงให้ทุนสนับสนุนหน้าที่ทางสังคมที่มีต่อประเทศคาซัคสถานต่อไป โดยนายฟลัดได้กล่าวว่า ถึงแม้บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส ยังคงมีภาระผูกพันต่อโครงการ Bakyrchik แต่ขณะนี้ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการระดมทรัพยากรมาใช้ในการวิจัยกระบวนการ hydro-metallurgical ,ใช้ในการปรับปรุงสวัสดิการสังคมให้กับคนงานที่เหมืองแร่ และใช้ในการหาหุ้นส่วนที่จะมาร่วมลงทุนด้วย ทั้งนี้ ทางบริษัทได้เสนอให้มีการเชื่อมโยงการผ่อนชำระเงินเป็นงวดในอนาคต เข้ากับความสำเร็จในการจัดการระดมทุนให้กับโครงการและเข้ากับการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดทองคำด้วย โดยคาดกันว่าทางบริษัทจะเริ่มต้นหารือกับรัฐบาลคาซัคสถานในช่วงปลายเดือนนี้
4.เมื่อวันที่ 13 ม.ค. โครงการร่วมลงทุนเหมืองทองแดงโมนีวาในเมียนม่าร์ซึ่งทางบริษัทมีหุ้นอยู่ 50 % ได้เริ่มเบิกใช้เงินกู้จากวงเงินสินเชื่อ 90 ล้านดอลล่าร์สหรัฐที่ได้รับการจัดสรรให้โดยกลุ่มบริษัทเทรดดิ้งขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีบริษัทมารูเบนิ คอร์ปอเรชั่นออฟ โตเกียว เป็นผู้นำ
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส เป็นผู้จัดหาทุนให้กับการเริ่มต้นโครงการ, การก่อสร้างและเปิดใช้งานโรงงานนำร่อง และเป็นผู้จัดหาทุนให้กับขั้นตอนแรกของการก่อสร้างด้วย ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการดังกล่าวได้เสร็จสิ้นไปแล้วราว 35 % และมีกำหนดจะเปิดการผลิตคาโธดทองแดงในช่วงปลายไตรมาส 2 ด้วยอัตราการผลิตเริ่มต้นที่ระดับ 25,000 ตันต่อปี โดยใช้กระบวนการแยกด้วยการทำละลาย/อิเล็กโทรวินนิ่ง ทั้งนี้ การที่ทางบริษัทสามารถกู้เงินจากญี่ปุ่นได้นั้น ได้ช่วยให้ทางบริษัทไม่ต้องผูกติดทุนก้อนใหญ่ไว้กับการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องอีกต่อไป
นายฟลัดกล่าวว่า มาตรการ 3 ข้อแรกนั้นเป็นการตอบรับต่อการร่วงลงของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาลงไปอยู่ใต้ระดับ 300 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ และได้กล่าวว่า "ทางบริษัทคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตในแง่ดี โดยพิจารณาจากแถลงการณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ของธนาคารกลางสหรัฐและจากการคาดการณ์ของที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท ซึ่งชี้ให้เห็นว่าราคาทองคำในช่วงกลางปีนี้อาจทรงตัวที่ระดับสมดุล 350 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ หรือใกล้เคียง"
นายฟลัดกล่าวเสริมว่า "ขั้นตอนที่ทางบริษัทได้ดำเนินการไปนั้นส่งผลให้ทางบริษัทสามารถสงวนเงินสดสำรองและยกระดับเงินสดสำรองของทางบริษัทให้สูงขึ้นได้ ท่ามกลางการร่วงลงของราคาโลหะและภาวะความผันผวนในตลาด"
"การบรรลุเงื่อนไขทั้งหมดที่จำเป็นในการเริ่มต้นเบิกเงินกู้จากวงเงินสินเชื่อของญี่ปุ่นนั้น ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่สำหรับการก่อสร้างและการเปิดดำเนินงานเหมืองทองแดงโมนีวา ทางบริษัทกำลังมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายในการเป็นผู้ผลิตทองแดงที่มีความได้เปรียบทางการค้าสูงมากในตลาดโลก โดยมีต้นทุนเงินสดอยู่ที่ระดับราว 47 เซนต์สหรัฐต่อปอนด์
สินทรัพย์ของบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส นั้นรวมถึงแหล่งแร่ทองคำและทองแดง และรวมทั้งโครงการแร่ต่าง ๆ ในประเทศเมียนม่าร์, อินโดนีเซีย, คาซัคสถาน, เกาหลีใต้, เวียดนาม และฟิจิด้วย ทั้งนี้ หุ้นของบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ส ได้รับการซื้อขายในตลาดหุ้นโตรอนโต้และออสเตรเลียภายใต้สัญลักษณ์ ING-- จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-จพ/กก--
ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNPS ร่วมเวทีเสวนาในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "การสร้างคุณค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดใหม่มูลค่าสูง" ภายใต้หัวข้อ "ปลดล็อกพลังธรรมชาติ คุณค่าสมุนไพรไทยสู่ธุรกิจระดับโลก" จัดขึ้นโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐ นักวิจัย และตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรมร่วมแลก
เบเยอร์ประกาศความสำเร็จในงานสถาปนิก'68 ตอกย้ำความเป็น "ผู้นำนวัตกรรมสี 2in1" ยกทัพสี 2in1 สำหรับ ปูน-ไม้-โลหะ พร้อมเปิดตัวพันธมิตรระดับโลก
—
เบเยอร์ประกาศ...
ดีป้า ชู dSURE กลไกกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ระดับ 4.0
—
ดีป้า ชี้ตราสัญลักษณ์ dSURE ที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานด้านคว...
ดีป้า เผยผลสำรวจการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภาคอุตสาหกรรม ปี 67 ขยับสู่ระดับ 2.0
—
ดีป้า เผยผลสำรวจการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภาคอุตสาหกรรม ประจำปี 2567 ระบุอุตสาหกร...
มทร.ธัญบุรี เจ๋ง! คิดค้นกระถางรักษ์โลกจากวัสดุชีวมวล สร้างรายได้ ลด PM 2.5
—
หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ห...
อินฟอร์มาฯ เตรียมจัดงาน "อินเตอร์แมค-ซับคอน-พลาสติกฯ 2025"
—
อินฟอร์มาฯ สานความร่วมมือเครือข่าย เตรียมจัดงาน "อินเตอร์แมค-ซับคอน-พลาสติกฯ 2025" สร้างเวทีแ...
ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 กำไร 13,791 ล้านบาท
—
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐก...
อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ เชิญผู้ประกอบการ พลาสติก-AI-โรงงาน ร่วมอัปเดตเทรนด์อุตสาหกรรม ด้วยสัมมนาแบบเจาะลึก 29 เม.ย.นี้ ที่ไบเทค
—
อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ เตรี...