โครงการท่อก๊าซฯ โรงแยกก๊าซฯ ไทย-มาเลเซีย เริ่มศึกษา EIA แล้ว

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพ--18 มี.ค.--ปตท. ปตท. ขอให้ประชาชนตามแนวท่อ และบริเวณใกล้เคียงร่วมแสดงความคิดเห็นในระหว่างที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กำลังดำเนินการศึกษา และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อจักได้นำข้อคิดเห็นมาปรับปรุงการศึกษาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งหากโครงการนี้แล้วเสร็จจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งชุมชน และเศรษฐกิจโดยรวมของภาคใต้ นายสุพล ทับทิมจรูญ ผู้จัดการฝ่ายรับผิดชอบงานกรรมสิทธิ์ที่ดิน และวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมโครงการร่วมทุนท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และโรงแยกก๊าซฯ ไทย-มาเลเซียเปิดเผยถึงรายละเอียดและความก้าวหน้าโครงการว่า โครงการร่วมทุนฯนี้เป็นการนำก๊าซฯ จากพื้นที่พัฒนาร่วม ไทย-มาเลเซีย หรือ JDA มาใช้ประโยชน์ทั้งในประเทศไทย และมาเลเซีย ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessmenty : EIA) เพื่อให้สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ปตท. ได้นำรูปแบบการมีส่วนร่วมของประชาชนมาใช้ตั้งแต่เริ่มการศึกษา โดยตลอดระยะเวลาของการศึกษา ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10 เดือน (ธันวาคม 2541-กันยายน 2542) นอกจากจะมีการเก็บตัวอย่างทางด้านกายภาพ ชีวภาพ แล้วจะมีการศึกษาสภาพแวดล้อมและผลประทบด้านสังคมด้วย ทั้งนี้ ในการศึกษาฯ ดังกล่าว ทีมงานที่ศึกษาฯ จะจัดให้มีเวทีเสวนาย่อยระดับตำบลทุกตำบลรวม 15 ครั้ง และระดับอำเภอ อีก 4 ครั้ง เพื่อนำข้อเสนอแนะของชุมชนไปประกอบการศึกษา ปรับปรุงป้องกันและแก้ไขผลประทบต่างๆ อนึ่ง ก่อนหน้า การศึกษา EIA ได้มีการศึกษารายละเอียดขอบเขตของ EIA ไปแล้ว โดยเน้นหลักเกณฑ์ที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมเช่นกัน เริ่มจากการเผยแพร่ข้อมูลและประชาสัมพันธ์อย่างโปร่งใส และมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่และชุมชนใกล้เคียง โดยการเข้าชี้แจงกับส่วนราชการระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน โรงเรียน สถาบันการศึกษา กลุ่มผู้นำชุมชน นักวิชาการ กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน และเวทีสาธารณะต่างๆ กว่า 100 ครั้ง โครงการท่อก๊าซฯ และโรงแยกก๊าซฯ ไทยเลเซีย เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง ปตท. และเปโตรนาส (บริษัทน้ำมันแห่งชาติ มาเลเซีย) ในอัตราส่วน 50:50 เพื่อพัฒนาการใช้ประโยชน์ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งพัฒนาร่วม ไทย-มาเลเซียหรือ JDA ประกอบด้วยการวางท่อส่งก๊าซฯ ในทะเลจากแหล่งผลิตมาขึ้นฝั่งที่บริเวณ อ.จะนะ จ.สงขลา และไปเชื่อมต่อกับระบบในประเทศมาเลเซีย โดยผ่านชายแดนอำเภอสะเดา จ.สงขลา รวมระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตร ส่วนโรงแยกก๊าซฯ ซึ่งจากการศึกษาความเหมาะสม คาดว่าจะตั้งที่ อ.จะนะ เป็นโรงแยกขนาดกำลังแยกก๊าซฯ 425 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ทั้งนี้ตามแผนงานคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จสามารถรับก๊าซฯ ได้ประมาณปลายปี 2541 หรือ ต้นปี 2545 ซึ่งจะเป็นโครงการพื้นฐานที่ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในภาคใต้ตอนล่างได้ เกิดจากสร้างงานในหลายระดับ และส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศด้วย--จบ--

ข่าวมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์+ท่อส่งก๊าซธรรมชาติวันนี้

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ภูเก็ต และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อยกระดับการแพทย์และสาธารณสุข

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ภูเก็ต และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประกาศลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) อย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความร่วมมือทางวิชาการ การวิจัย และการพัฒนาบุคลากร โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางการแพทย์และยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านสาธารณสุขของประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เข้าร่วมงาน ได้แก่ นพ. สุรพงษ์ ลูกหนุมารเจ้า Chief Medical Officer and Chief Operating Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ภูเก็ต, รศ.นพ. คมกริช ฐานิสโร Chief Clinical

บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (AT... ATLAS ส่งมอบก๊าซหุงต้มกว่า 800 กิโลกรัม ภารกิจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม — บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (ATLAS) ก๊าซหุงต้มพีที ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ป...

นายศิวกร ลาชะเลา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติกา... MOTHER จับมือ ม.อ.สุราษฎร์ธานี MOU ยกระดับสหกิจศึกษาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน — นายศิวกร ลาชะเลา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (...

ส.อ.ท. ผนึก 4 พันธมิตร เปิดตัวโครงการ aFTi ดันกำลังคน AI หนุนภาคอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตดิจิทัล

ส.อ.ท. ผนึกกำลัง 4 องค์กรชั้นนำ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AIEI) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และบริษัท อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย)...