บิ๊กซี ชวนครู-อาจารย์อาชีวศึกษาร่วมฝึกงานค้าปลีก เพื่อพัฒนาศักยภาพทางการศึกษา

20 Mar 2002

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์

บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จับมือกรมอาชีวศึกษาเดินหน้าโครงการทวิภาคีต่อ หลังจากได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ปีนี้วางแนวทางการสอนไว้เพียบ เผยนำร่องต้นปีด้วยโครงการฝึกอบรมครู-อาจารย์เข้าฝึกงานที่บิ๊กซี เรียนรู้กลยุทธ์ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพิ่มทักษะจากประสบการณ์จริงเสริมความพร้อมรับมือธุรกิจยุคใหม่

มร.โธมัส เมสัน นีลเซ่น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยถึงการร่วมมือกับกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในการดำเนินงานโครงการทวิภาคีในปี ที่ผ่านมาว่า การจัดโครงการทวิภาคีถือเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่เน้นการทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งจากปีที่ผ่านมาโครงการ ดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากครู-อาจารย์และนักศึกษา โดยมีนักศึกษาสนใจเข้าร่วมฝึกงานและทำงานนอกเวลา (Part Time) เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ มีการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์กับสถานศึกษา ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะให้โอกาสในการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติทั้งทางภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อจะได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันและพัฒนาธุรกิจได้ในอนาคต

นอกเหนือจากการให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมความรู้และการศึกษาแก่ตัวนักศึกษาเองแล้ว บิ๊กซียังเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของครูอาจารย์ผู้สอนวิชาค้าปลีกและคหกรรม เนื่องจากเป็นผู้ให้ความรู้แก่นักเรียนโดยตรง ดังนั้น จึงได้มีการจัดโครงการ "ฝึกอบรมครู-อาจารย์วิทยาลัย 2545" ขึ้น ระหว่างวันที่ 14-30 มีนาคม 2545 ณ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 30 สาขา ทั่วประเทศ โดยมีครู-อาจารย์เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 120 คน ซึ่งนอกจาก จะได้รับความรู้ทางด้านธุรกิจค้าปลีกในภาพรวมแล้ว ครู-อาจารย์ที่เข้าร่วมโครงการยังได้เรียนรู้ปฏิบัติงานจริงและสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้แก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานจริงได้ ซึ่งถือเป็นประโยชน์ในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียน-นักศึกษาได้

การฝึกอบรมครู-อาจารย์วิทยาลัยในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมได้ศึกษาและเรียนรู้การทำงานในแต่ละหน่วยงานของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ อย่างทั่วถึง อาทิ ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และธุรการ, ฝ่ายบริการลูกค้าและปฏิบัติการ, ฝ่ายผลิตภัณฑ์สินค้าทั่วไป, ฝ่ายผลิตภัณฑ์สินค้าอาหารแห้ง

และฝ่ายผลิตภัณฑ์สินค้าอาหารสด เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจธุรกิจอย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นความจริงใจของบิ๊กซีที่ยินดีถ่ายทอดประสบการณ์ และความรู้ความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าปลีก เพื่อช่วยพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรและเยาวชนไทยได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นการอบรมครู-อาจารย์ที่เข้าอบรมจะได้รับประกาศเกียรติคุณจากกรมอาชีวศึกษา และบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์

การจัดโครงการอบรมครู-อาจารย์ ถือเป็นหนึ่งใน 5 รูปแบบของโครงการความร่วมมือระหว่าง บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์กับกรมอาชีวศึกษา เพื่อพัฒนาการจัดการอาชีวศึกษา ได้แก่ 1. สนับสนุนให้นักเรียน-นักศึกษาในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องฝึกอาชีพที่บริษัทฯ 2. เปิดรับสมัครนักเรียน-นักศึกษา สาขาวิชาช่างเทคนิค และสาขาที่เกี่ยวข้องเข้ามาฝึกภาคปฏิบัติระหว่างปิดภาคเรียน 3. จัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านค้าปลีกแก่ครู-อาจารย์ สังกัดกรมอาชีวศึกษา 4. ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนในระบบทวิภาคี และ 5. สนับสนุนและให้ความรู้โดยการจัดส่งวิทยากรพิเศษบรรยายความรู้แก่นักเรียน-นักศึกษาและครู-อาจารย์

สำหรับแผนการดำเนินงานโครงการทวิภาคีในปี 2545 นี้ นอกเหนือจากการฝึกอบรมครู-อาจารย์แล้วยังมีการเปิดรับนักศึกษาทวิภาคีธุรกิจค้าปลีก ปวช.รุ่นที่ 1 เข้ามาฝึกงานที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน, เปิดรับนักศึกษาทวิภาคีธุรกิจค้าปลีกรุ่นที่ 2 เข้ามาฝึกงานในเดือนตุลาคม และเปิดรับนักศึกษาในระดับปวส. เข้าฝึกงานภาคฤดูร้อนประจำปี จำนวน 15 คน

ต่อสาขา ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 30 สาขาทั่วประเทศ

ผลจากการดำเนินโครงการฝึกอบรมครู-อาจารย์และนักเรียน-นักศึกษาที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์

ทุกสาขา ในปี 2544 ที่ผ่านมานั้น มีจำนวนนักศึกษาฝึกงานและทำงานนอกเวลาเป็นจำนวน 144 คน, นักศึกษาที่ร่วมฝึกงานภาคฤดูร้อน จำนวน 146 คน, ครู-อาจารย์ที่เข้าร่วมฝึกอบรมค้าปลีก จำนวน 155 คน และนักศึกษาที่เข้าร่วมในโครงการทวิภาคี จำนวน 308 คน รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนถึง 753 คน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น่าพอใจในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลทางด้านธุรกิจ

ค้าปลีกในสภาวะที่ธุรกิจนี้กำลังอยู่ในกระแสความนิยม

"โครงการทวิภาคีนี้ ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลิตทรัพยากรบุคคลทางด้านธุรกิจค้าปลีกขึ้นมาอย่างมากมาย จากผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องทำให้คาดการณ์ได้ว่าภายในปี 2547 จะมีจำนวนนักเรียน-นักศึกษา และครู-อาจารย์ที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนถึง 3,000 คน ถือเป็นสถิติที่น่าพอใจ อีกทั้ง ผู้ที่ได้รับการอบรม เหล่านี้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเอง และผู้อื่นให้รับรู้ถึงการดำเนินธุรกิจค้าปลีกได้

อย่างครบถ้วนทุกขั้นตอน ถือเป็นการปรับตัวให้เข้ากับธุรกิจในโลกยุคปัจจุบันเลยทีเดียว" มร.โธมัส กล่าวปิดท้าย

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ศุภาดา ใจดี, ดวงรัตน์ รัตนอำนวยศิริ

บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด

โทรศัพท์ 0-2693-7835-8, 0-2276-8432-3

โทรสาร 0-2693-6919--จบ--

-อน-