ภูมิแพ้และหอบหืด...ไม่ใช่เรื่องเล็ก อย่ามองข้าม ควบคุมได้ด้วยแนวทางรักษา 4 วิธี

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--เบรคธรู พีอาร์ โรคภูมิแพ้และหอบหืด เป็นโรคที่มีความหลากหลายมาก ตั้งแต่สาเหตุการเกิดโรค ลักษณะอาการ กลุ่มผู้ป่วย และชนิดของโรค ซึ่งมีทั้งชนิดไม่รุนแรง เพียงสร้างความรำคาญในการดำเนินชีวิตประจำวัน และชนิดที่รุนแรงมากจนถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นการทราบสาเหตุการเกิดโรค จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาพยาบาลให้ได้ผล ผลจากการประเมินอุบัติการณ์ของโรคหอบหืด โดยองค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) พบว่ามีผู้ป่วยโรคหอบหืดประมาณ 100-150 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตประมาณ 180,000 รายต่อปี และแนวโน้มจะมีผู้ป่วยด้วยโรคหอบหืดเพิ่มขึ้นทั่วโลกด้วย นายแพทย์ ตฤณ จารุมิลินท ผู้อำนวยการศูนย์โรคภูมิแพ้และหอบหืดกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง “ภูมิแพ้และหอบหืด…ไม่ใช่เรื่องเล็ก” จัดโดยโรงพยาบาลกรุงเทพว่า ในกลุ่มของโรคทั้งหลายที่มีสาเหตุมาจากภูมิแพ้ โรคหอบหืดถือว่า เป็นโรคที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตรุนแรงที่สุด โรคหวัดภูมิแพ้ หรือกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการคัดจมูก จามบ่อย คันตา น้ำมูกใสไหลเองอาจข้นเป็นช่วง ๆ อาการดังกล่าว เกิดขึ้นอย่างเรื้อรังและอาจกำเริบเป็นระยะๆ โรคหวัดภูมิแพ้นี้ ปัจจุบันมีหลักฐานชัดเจนว่า เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้เกิดโรคหอบหืด การรักษาโรคหวัดภูมิแพ้ร่วมไปกับการรักษาโรคหอบหืดนั้น จะทำให้ผลการรักษาดีที่สุด องค์ประกอบสำคัญในการรักษาโรคภูมิแพ้ให้มีประสิทธิภาพนั้น เราจะต้องมีการวินิจฉัยที่ถูกต้อง เช่น เป็นหวัดภูมิแพ้ที่มีหอบหืดหรือโรคไซนัสร่วมด้วยหรือไม่ จะต้องทราบว่าผู้ป่วยแพ้อะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ควรใช้ยาที่มีผลข้างเคียงต่ำ ปลอดภัยในระยะยาว และมีประสิทธิภาพสูง ทั้งนี้ผู้ป่วยควรทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับยาและวิธีใช้อย่างชัดเจนจากแพทย์หรือเภสัชกรที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะยาพ่นสูดผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จำนวนมากได้รับยาแก้อักเสบ (ยาปฎิชีวนะ หรือ antibiotics) บ่อยครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่อาจไม่จำเป็นเลย เช่น ใช้ยาอย่างไร เมื่อไรควรหยุดยา และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เป็นต้น ผู้ป่วยภูมิแพ้จึงจำเป็นต้องรู้ข้อมูลเหล่านี้ เพื่อจะได้บำบัดโรคภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายแพทย์ ตฤณ จารุมิลินท กล่าวเสริมว่า การรักษาสุขภาพก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ เช่น การลดปัจจัยเสี่ยง การพักผ่อน รับประทานอาหารถูกเวลาถูกหลักและการผ่อนคลายอารมณ์ นอกจากนี้การรักษาโรคภูมิแพ้โดยการฉีดยาหรือวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการรักษาที่ได้ผล แต่ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญและใช้เวลานานในการรักษา โดยการฉีดน้ำยาที่สกัดจากสารที่ผู้ป่วยแพ้จำนวนน้อย ๆ และเพิ่มขึ้นสม่ำเสมอในระยะแรก อาจเป็นทุกอาทิตย์ประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นก็จะเป็นทุก 2, 3 และ 4 อาทิตย์ตามลำดับ การรักษาในรูปแบบนี้ผู้ป่วยควรได้รับข้อมูลที่เหมาะสมเกี่ยวกับวิธีการรักษา วัตถุประสงค์หลักของการรักษา ผลที่คาดหวังและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ผู้ป่วยควรปฏิบัติที่นำไปสู่ความสำเร็จในการรักษาโรคภูมิแพ้ ปัจจุบัน โรคภูมิแพ้นับวันจะพบมากขึ้น เพราะสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม วิธีที่แพทย์ผู้รักษาโรคภูมิแพ้ทุกคน แนะนำแก่ผู้ที่เป็นหรือมีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ ก็คือ การจัดการดูแลสิ่งแวดล้อมภายในบ้านและรอบ ๆ ตัว เปรียบเทียบได้กับ ถ้าเราเป็นโรคหัวใจ เราก็ต้องดูแลตนเอง ทั้งในเรื่องการรับประทานอาหาร กิจวัตรประจำวันและสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับโรคที่เป็น ไม่ทำอะไรที่ไปกระตุ้นให้อาการของโรคกำเริบ เช่นเดียวกับโรคภูมิแพ้ คนไทยส่วนใหญ่แพ้ไรฝุ่น เชื้อรา และอาหารเป็นลำดับต้น ๆ การแพ้อาหารนั้นดูแลไม่ยาก เพียงแต่ไม่รับประทานอาหารชนิดนั้น ก็คงจะไม่เกิดอาการ ยกเว้นแพ้อย่างอื่น ก็ต้องดูให้แน่ชัด แต่การแพ้ไรฝุ่นและเชื้อรานั้น เราคงต้องให้ความสนใจในรายละเอียดของการขจัดและการป้องกัน อย่าคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะการดูแลบางอย่างทำได้ง่ายอย่างนึกไม่ถึงและไม่ยุ่งยาก เกี่ยวกับโรคหอบหืดนั้น เป็นผลจากการหดตัวหรือตีบตันของกล้ามเนื้อรอบหลอดลมช่องทางเดินหายใจส่วนหลอดลม ทำให้หายใจขัดและอากาศเข้าสู่ปอดน้อยลง และปัจจัยที่ทำให้เกิดการตีบตันของหลอดลม คือ การหดตัวของกล้ามเนื้อรอบ ๆ หลอดลม, การบวมอักเสบของเยื่อบุภายในหลอดลม และเสมหะจำนวนมากที่คั่งค้างอยู่ภายในหลอดลม ผู้ป่วยโรคหืดบางรายอาจมีอาการน้อย แต่บางรายอาจเป็นมากจนอันตรายถึงชีวิตได้ ภาวะที่กระตุ้นให้โรคกำเริบจะแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ตัวอย่างภาวะหรือสิ่งที่กระตุ้นให้โรคกำเริบ คือ การหายใจเอาสารที่แพ้เข้าไปในหลอดลม ภาวะติดเชื้อ โพรงจมูกอักเสบ กลิ่นน้ำหอม ยาฆ่าแมลง กลิ่นอับ กลิ่นท่อไอเสีย กลิ่นบุหรี่ ภาวะอากาศเปลี่ยน การออกกำลังกาย โรคทางเดินอาหารบางโรค ภาวะแพ้ยา สารสี สารเคมีต่าง ๆ และภาวะเครียด สองในสามของผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคหอบหืด จะมีภาวะภูมิแพ้ด้วย แต่ในผู้ใหญ่ส่วนมากจะไม่มีภาวะภูมิแพ้ การรักษาโรคหอบหืดจะต่างกันในผู้ป่วยแต่ละคน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค อายุผู้ป่วย และภาวะที่เกิดร่วมกับโรคหอบหืด เช่น ภาวะภูมิแพ้ หรือโพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง โดยทั่ว ๆ ไป แนวทางการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ 1. แนะนำให้ใช้การตรวจสอบสมรรถภาพของปอดเพื่อบ่งชี้ความรุนแรงของโรคและเพื่อติดตามวัดผลการศึกษา 2. การใช้ยาเพื่อลดการอักเสบหรือป้องกันการอักเสบของเยื่อบุหลอดลมร่วมกับการใช้ยาเพื่อคลายกล้ามเนื้อรอบหลอดลมที่หดตัว 3. การควบคุมภาวะต่าง ๆ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิแพ้ร่วมกัน รวมถึงการรักษาเฉพาะเจาะจงในภาวะภูมิแพ้ 4. ต้องให้ความรู้ผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับโรคหอบหืดและการปฏิบัติตน เช่น เลิกสูบบุหรี่ วิธีออกกำลังกาย และวิธีใช้ยาที่ถูกต้อง การรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาโรคหอบหืด ผู้ป่วยหรือแพทย์ส่วนใหญ่จะมองข้ามจุดสำคัญนี้ ทำให้ผลการรักษาไม่เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย ผู้ป่วยก็บอกว่าไม่หายซักที หมอก็ว่าผู้ป่วยไม่รู้เรื่อง ไม่ทำตามที่แนะนำ ดังนั้นผลการรักษาที่ดีควรเกิดขึ้นดังนี้ คือ สมรรถภาพปอดดีขึ้น, ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ หรือเกือบปกติ นอกจากนี้ อาการเรื้อรังที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับผู้ป่วยสิ้นสลายไป เช่น อาการไอ หายใจขัด แน่นหน้าอก รวมถึง ป้องกันการกำเริบของโรคได้และผลข้างเคียงจากยาควรจะไม่มีหรือมีน้อยที่สุด เสนอข่าวในนาม โรงพยาบาลกรุงเทพ โดยเบรคธรู พีอาร์ รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ คุณศิริพร ศรีสันต์ -- โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร. 0-2310-3334 คุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง -- เบรคธรู พีอาร์ โทร. 0-2719-6446-8--จบ-- -ศน-

ข่าวองค์การอนามัยโลก+องค์การอนามัยโลวันนี้

โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน "ฆาตกรเงียบ" ที่คร่าชีวิตโดยไม่มีสัญญาณเตือน รู้ทันก่อนสายเกินไป

"โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน" หรือ Coronary Artery Disease คือโรคที่ถูกขนานนามว่า "ฆาตกรเงียบ" เพราะสามารถพรากชีวิตคนคนหนึ่งไปได้อย่างไม่ทันตั้งตัว แม้ผู้ป่วยจะเคยผ่านการรักษาอย่างจริงจังมาแล้วในอดีตก็ตาม โดยข้อมูลจากสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ ระบุว่า คนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจเฉลี่ยปีละกว่า 20,000 ราย หรือคิดเป็น 2 รายต่อชั่วโมง ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดคือสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก และในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละ 4-5 แสนราย "

ปัจจุบันปัญหาการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป... ผงปรุงรสจากพืชพื้นบ้าน: นวัตกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพและความยั่งยืนของชุมชน — ปัจจุบันปัญหาการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป็นเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผ...

การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ห่วงใยประชาชนพ... กปภ. ตรวจเข้มคุมคุณภาพน้ำ 24 ชั่วโมงย้ำ ! น้ำประปาเชียงรายสะอาด ปลอดภัย มั่นใจได้ — การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ห่วงใยประชาชนพื้นที่จังหวัดเชียงราย กำชับ ก...

บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) ... โนโว นอร์ดิสค์ จัดงานแถลงข่าวมุ่งเน้นประโยชน์สำหรับคนไข้ที่มากกว่าการลดน้ำหนัก — บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด หรือ "โนโว นอร์ดิสค์" จัดง...

องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ทุกวันที่ ... GSK ร่วมรณรงค์ "สัปดาห์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก 2025" ชูการป้องกันโรคสำหรับทุกวัย — องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ทุกวันที่ 24-30 เมษายนของทุกปีถือเป็...