กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)
ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะให้อันดับเครดิตระยะยาวที่ระดับ 'AA+(tha)' แนวโน้มเป็นลบ แก่ตั๋วแลกเงินมีประกันมูลค่าไม่เกิน 3.0 พันล้านบาท (69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และยืนยันอันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันที่ออกภายใต้ medium-term note program (MTN) ที่จะหมดอายุภายในปี 2547 และ 2548 ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ อันดับเครดิตที่ฟิทช์คาดว่าจะให้นั้นมีพื้นฐานมาจากการค้ำประกันอย่างไม่มีเงื่อนไขจากบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต (ฟอร์ด เครดิต) ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตแบบสากลที่ 'BBB+' (แนวโน้มเป็นลบ) สำหรับสกุลเงินต่างประเทศ เทียบกับอันดับเครดิตระดับสากลสกุลเงินบาทที่ระดับ 'BBB+' สำหรับสกุลเงินบาท (แนวโน้มมั่นคง) ที่ประเทศไทยได้รับ จากการค้ำประกันประกอบกับข้อมูลที่ได้จากผู้บริหารของทั้งบริษัทไพรมัส ลีสซิ่ง และ ฟอร์ด เครดิต ฟิทช์ เชื่อว่า ฟอร์ด เครดิตจะให้การค้ำประกันการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยกับผู้ลงทุนในตราสารหนี้และตั๋วแลกเงินนี้อย่างตรงเวลา และเต็มมูลค่า
ผลประกอบการและคุณภาพสินทรัพย์ของไพรมัสนั้นปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในช่วงสองปีที่ผ่านมาหลังจากที่บริษัทฟื้นตัวจากสภาพการณ์เศรษฐกิจถดถอยในช่วงปี 2540 และจากการที่บริษัทได้พัฆนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย กำไรสุทธิในรอบปี 2544 นั้นดีขึ้นอย่างมากเนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อและการกันสำรองเพื่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ลดลง สัดส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ยและสัดส่วนผลตอบแทนต่อทุนเฉลี่ยนั้นสูงขึ้นเป็น 0.8% และ 15.1% เนื่องจากการเติบโตของยอดขายรถยนต์และรถปิคอัพ อย่างไรก็ตาม รายได้ของบริษัทนั้นยังคงขึ้นอยู่กับยอดขายของรถในกลุ่มบริษัทฟอร์ด ซึ่งรวมไปถึง มาสด้า และ วอลโว่ การพัฒนาและการเสนอรถรุ่นใหม่สู่ตลาดน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงสองปีข้างหน้านี้ แม้ว่าผู้ผลิตรถญี่ปุ่นจะยังดำรงความสำคัญในตลาดรถยนต์ของไทย
สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของไพรมัส (สินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน) ตั้งอยู่ที่ 0.44% ของจำนวนสินเชื่อทั้งหมดในปี 2544 บริษัทได้แสดงจำนวนผลขาดทุนจากการตัดหนี้สูญเป็นจำนวน 22 ล้านบาท หรือประมาณ 0.2% ของจำนวนสินเชื่อทั้งหมดโดยเฉลี่ย น้อยลงจาก 0.6% ในปี 2543 จำนวนเงินสำรองเมื่อเทียบกับผลขาดทุนจากการตัดหนี้สูญนั้นตั้งอยู่ที่ 7.7 เท่า ในปี 2544 ปรับปรุงสูงขึ้นจากปี 2543 คุณภาพสินทรัพย์ของไพรมัสนั้นดีขึ้นทั้งๆที่สภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังคงอ่อนแออยู่ สะท้อนถึงความรอบคอบในการปล่อยสินเชื่อและการจัดเก็บหนี้
การที่ไพรมัสใช้เงินทุนจากการกู้ยืมเพื่อขยายกิจการ ส่งผลให้ไพรมัสมีสัดส่วนของหนี้สินที่ค่อนข้างสูง อยู่ที่ประมาณ 14 เท่า ของทุนบวกกับเงินสำรองเพื่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบต่อการจัดอันดับเครดิตในเรื่องของสัดส่วนการกู้ยืมที่สูง เงินทุนที่ต่ำและสัดส่วนของสภาพคล่องนั้นถูกลดทอนด้วยการค้ำประกันของฟอร์ด เครดิต อันดับเครดิตที่ฟิทช์จะให้กับตั๋วแลกเงินมีประกันนี้ก็มีพื้นฐานมาจากการค้ำประกันอย่างไม่มีเงื่อนไขของ ฟอร์ด เครดิต และความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัทแม่ทั้ง ฟอร์ด และ ฟอร์ด เครดิต การจัดอันดับครั้งนี้จะสมบูรณ์ ต่อเมื่อเราได้รับสำเนาของหนังสือค้ำประกันฉบับจริงจาก ฟอร์ด เครดิต และ ที่ปรึกษาทางด้านกฏหมายได้แสดงความเห็นจากสำเนาหนังสือค้ำประกันฉบับจริงเท่านั้น สำหรับรายงานฉบับสมบูรณ์หาได้จาก www.fitchratings.com
ติดต่อ
ดุษฎี ศรีชีวะชาติ, Vincent Milton, กรุงเทพฯ
+662 655 4762/4759
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่า 'AAA' ในระดับการจัดอันดับเครดิตแบบสากล (International Ratings) อันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตแบบสากล เนื่องจากอันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย--จบ--
-ศน-