กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--ศูนย์ ปชส. กระทรวงคมนาคม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมเตรียมการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีนายพิเชษฐ สถิรชวาล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายนิกร จำนง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายศรีสุข จันทรางศุ ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม พร้อมทั้งผู้แทนจาก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2545 เวลา 14.30 น. ณ ห้องประชุม 2 กระทรวงคมนาคม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวภายหลังการประชุมว่า คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันที่ 30 ธันวาคม 2545 เป็นวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ ทำให้มีวันหยุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ต่อเนื่องถึง 5 วัน กระทรวงคมนาคม เห็นว่าจำมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางไปพักผ่อนเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2545 เป็นต้นไป จึงได้ให้หน่วยงานจัดเตรียมแผนงานเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ โดยให้ประสานแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันได้อย่างบูรณาการ เพื่อให้สามารถระบายคนอย่างมีประสิทธิภาพไม่มีประชาชนตกค้างตามเส้นทาง และสถานีต่างๆ ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมามีประชาชนเดินทาง 1,778,000 คน โดยมีการเตรียมการ ดังนี้
1. การเตรียมการด้านอำนวยความสะดวก
- บริษัท ขนส่ง จำกัด เปิดบริการและจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า 60 วัน และจะไปจำหน่ายตั๋วและจัดรถให้กลุ่มพนักงานตามโรงงานโดยตรง เพิ่มจำนวนเที่ยววิ่งเสริมตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2545 - 2 มกนาคม 2546 ในภาคกลาง 28.42% ภาคเหนือ 85.16% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 88.36% ภาคใต้ 31.54% ภาคตะวันออก 44.07% และจัดหารถร่วมบริการเพิ่ม 193 คัน จากรถประจำการทั้งหมด 6,539 คัน คาดว่าจะมีผู้เดินทางวันที่ 18 ธันวาคม ประมาณ 3 แสนคน เพิ่มจุดปล่อยรถขาออกที่กรมการขนส่งทางบกนวนคร และรังสิต เพื่อลดความแออัดบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต
- การรถไฟแห่งประเทศไทย มีรถให้บริการ 288 ขบวน จัดเพิ่มพิเศษอีก 20 ขบวน และจัดขบวนรถไฟออกที่สถานีพหลโยธิน ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิตได้อีกทางหนึ่ง
- บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพิ่มเที่ยวบินพิเศษใน 3 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพ-เชียงใหม่ 5 เที่ยว กรุงเทพ-ภูเก็ต 4 เที่ยว และกรุงเทพ-กระบี่ 3 เที่ยว หากมีการจองตั๋วปริมาณสูงจะพิจารณาเปลี่ยนแบบเครื่องบินที่มีความจุเพิ่มขึ้น
2. แผนจัดการจราจร ในช่วงเทศกาลที่ผ่านมารถบรรทุกจะเป็นอุปสรรคทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเนื่องจากวิ่งช้า จะได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการให้ทราบล่วงหน้า เพื่อให้รถบรรทุกหยุดวิ่งในช่วงเวลาดังกล่าว และหากจำเป็นจริงให้ขออนุญาตเป็นกรณีไป ด้านกรมทางหลวง ให้หยุดซ่อมบำรุงขนาดใหญ่ให้ปรับสภาพผิวจราจรให้สามารถใช้งานได้ พร้อมทั้งให้แขวงการทาง ทำเครื่องหมายจราจรให้ชัดเจน เตรียมระบบไฟสัญญาณ ประสานกับตำรวจทางหลวงพิจารณาเตรียมการสลับช่องจราจรขาเข้าให้สำหรับรถขาออกในช่วงที่มีปัญหาการจราจรในช่วงเวลาที่การจราจรคับคั่ง และเตรียมเครื่องหมายสัญญาณให้เพียงพอ และประสานกับสถานีวิทยุสพว.91 จส.100 ร่วมด้วยช่วยกัน และวิทยุจุฬา รายงานสภาพจราจรด้วย กรมทางหลวงชนบทดำเนินการสำรวจเส้นทางเลี่ยงและเส้นทางลัดร่วมกับแขวงการทางเพื่อติดตั้งป้ายบอกทิศทางให้ประชาชนรับทราบ ด้านบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้เตรียมแผนเพื่อจัดการจราจรในเส้นทางวิภาวดีที่จะมายังท่าอากาศยานกรุงเทพ
3. แผนด้านความปลอดภัย จากสถิติอุบัติเหตุที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจำนวน 585 คน หรือ 83 คน ต่อวัน จากสถิติปกติที่มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 30 คนต่อวัน โดยนายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายให้ลดการเกิดอุบัติเหตุ 20% หน่วยงานต่างๆ จึงได้เตรียมแผนการ ดังนี้
- ตำรวจทางหลวง จะได้มีมาตรการตรวจเข้มในเรื่องของการดื่มสุรา การตรวจจับความเร็ว ซึ่งแผนการต่างๆ ที่เตรียมไว้จะทำให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย
- กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งได้ขอให้โรงพักประมาณ 1,455 แห่ง ทั่วประเทศ เป็นศูนย์กลางรายงานเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ สถานที่เกิดเหตุ ประเภทรถ เข้ามาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเป็นฐานข้อมูลกลาง โดยให้บันทึกลงแบบฟอร์มรายงานวันต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2545 เพื่อรวบรวมข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์เพื่อการแก้ไขต่อไป
- กรมการขนส่งทางบก ได้จัดกิจกรรม "ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน" ณ ศูนย์บริการตัวแทนจำหน่ายรถ สถานตรวจสภาพรถเอกชน และศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัย ตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ และร่วมกับตำรวจจัดชุดปฏิบัติการ 9 ชุดในถนนสายหลัก และสำรวจในเส้นทางสายรอง
- บริษัท ขนส่ง จำกัด จัดให้มีหน่วยพยาบาลบริการภายในสถานีขนส่ง ตรวจสภาพความพร้อมพนักงานขับรถ และตั้งจุดตรวจรถระหว่างทาง 49 จุดทั่วประเทศ รวมทั้งให้เข้มงวดเรื่องการจำหน่ายตั๋วเกินราคา หากพบจะยกเลิกสัมปทานรายนั้น
- การรถไฟแห่งประเทศไทย กวดขันผู้ปฏิบัติงานทั้งในสถานีและบนขบวนรถ จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางรถไฟและเครื่องอาณัติสัญญาฯ ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง จัดเพิ่มเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัย จัดตั้งศูนย์ประสานงานความปลอดภัยเพื่ออำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาแก่ประชาชนตลอดการเดินทาง ดูแลทั้งขบวนรถ และสถานี ตรวจสอบแอลกอฮอลล์ของผู้ปฏิบัติงาน
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จัดหน่วยกู้ภัยตลอด 24 ชั่วโมง
- กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ให้ผู้ประกอบการตรวจสภาพความพร้อมของโป๊ะเทียบเรือ สภาพตัวเรือ อุปกรณ์ประจำเรือให้พร้อมที่ใช้งาาน ออกมาตรการให้เจ้าของเรือและผู้ควบคุมเรือตรวจสอบเรือ และระมัดระวังความปลอดภัยในการเดินเรือ และจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เรือตรวจการ และเรือช่วยชีวิตให้ปฏิบัติงานตรวจตราควบคุมดูแลการใช้บริการเรือโดยสารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้ขึ้นอยู่กับศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ ส่วนต่างจังหวัดขึ้นอยู่กับสำนักงานการขนส่งทางน้ำ ซึ่งมีศูนย์ปลอดภัยทางน้ำส่วนภูมิภาคตั้งอยู่
- บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เพิ่มระบบปลอดภัยและตั้งศูนย์ประสานงานความปลอดภัยที่อาคารสำนักงานใหญ่ เพิ่มจุดตรวจบัตรประจำตัวประชาชนให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้งศูนย์ประสานอำนวยความสะดวกและปลอดภัยท่าอากาศยานกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ และภูเก็ต โดยประสานกับศูนย์ปลอดภัยคมนาคม ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้บริการแก่ ประชาชนได้อย่างเพียงพอ
4. แผนการประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง ทำแผนที่แนะนำเส้นทางตลอดจนเตือนจุดอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง จำนวน 1 แสนฉบับ กรมการขนส่งทางบก ทำคัดเอาท์/ป้ายผ้า รณรงค์ฯ ป้องกัน และลดอุบัติเหตุในบริเวณที่เป็นแหล่งชุมชนหรือถนนสายหลัก และเตือนภัยให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงอันตรายของอุบัติเหตุทางถนน บริษัท ขนส่ง จำกัด ได้ประชาสัมพันธ์การเพิ่มจุดปล่อยรถขาออกที่กรมการขนส่งทางบก นวนคร และรังสิต และการส่งรถเข้าไปรับพนักงานตามโรงงานสำหรับผู้ที่จองตั๋วล่วงหน้า ด้านบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทราบการเตรียมการรักษาความปลอดภัยด้วย
ทั้งนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยเพิ่มเติมถึงการให้บริการพิเศษสำหรับประชาชน โดยได้จัดทำระบบการรายงานสภาพการจราจรและบริหารจัดการอุบัติเหตุด้านการขนส่งขึ้น โดยนำระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) มาใช้ร่วมกับระบบอินเทอร์เน็ต และระบบสื่อสารอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งประชาชนโดยทั่วไปสามารถใช้บริการที่ WWW.MOTC.GO.TH เพื่อตรวจสอบสภาพการจราจรและอุบัติเหตุได้ทั่วประเทศตลอดเวลา ทำให้ผู้เดินทางสามารถทำการวิเคราะห์เส้นทางการเดินทางก่อนออกเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีสภาพการจราจรติดขัด ทั้งยังสามารถถตรวจสอบสถานการณ์อุบัติเหตุเกี่ยวกับสารเคมีได้ด้วย นอกจากนี้ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงไม่ให้ลาหยุดในช่วงเวลาดังกล่าว จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย จำนวน 102 ศูนย์ทั่วประเทศ ปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจบนทางหลวงที่คาดว่าจะมีปัญหาการจราจร จำนวน 163 ศูนย์ ตั้งหน่วยบริการที่พักริมทางของกองตำรวจทางหลวง จำนวน 202 แห่ง ให้สำนักทางหลวง แขวงการทาง จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ 288 หน่วยทั่วประเทศ และให้แขวงการทางรายงานสภาพการจราจำให้ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม และสำนักบริหารบำรุงทางทุกระยะ 1 ชั่วโมง กรณีที่มีสภาพการจราจรหนาแน่น และทุก 3 ชั่วโมง กรณีสภาพการจราจรปกติ ซึ่งเป็นการประสานความร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายยที่ได้ให้ไว้ 5 ป คือ โปร่งใส ปราดเปรียว ประสิทธิภาพ ปลอดภัยและประทับใจ--จบ--
-ขธ-
บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) ในกลุ่มบริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เข้าร่วมพิธีเทคอนกรีตเชื่อมสะพานมิตรภาพไทย ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ บอลิคำไซ) ในฐานะบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาและควบคุมโครงการ โดยพิธีในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และ นายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองประเทศ