สวทช.เดินหน้าให้ความช่วยเหลืออุตฯขนาดกลาง ดันผู้ประกอบการเป็นนักอุตสาหกรรมแทนพ่อค้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--สวทช. โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ITAP) สวทช. ประกาศนโยบายปี 46 เน้นให้ความช่วยเหลือ SME ขนาดกลางหวังให้ก้าวทันตลาดโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนากระบวนการผลิตควบคู่บุคลากร พร้อมปั้นผู้ประกอบการให้เป็นนักอุตสาหกรรมมากกว่าพ่อค้าที่มุ่งแต่กำไรทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว หลังพบปัญหาปี 45 อุตสาหกรรมขนาดเล็กไม่พัฒนาเท่าที่ควร รศ.ณรงค์ วรงค์เกรียงไกร ผู้อำนวยการโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ITAP) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยถึงนโยบายการพัฒนาและส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในปีนี้ว่า การดำเนินงานจะเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่วางไว้ ซึ่งจะเน้นอุตสาหกรรม 4 กลุ่มคือ 1.ยานยนต์ 2.เกษตร 3.อาหาร และ 4.อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากที่ผ่านมาการทำงานของโครงการ ITAP จะเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมในเชิงกว้าง แต่ปัจจุบันได้ปรับมาสู่การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตมากขึ้น การสนับสนุนของโครงการ ITAP เพื่อให้ผู้ประกอบการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต มีการบริหารจัดการที่ดี และนำเครื่องจักรมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้ว่าผู้ประกอบการบางรายจะมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีอยู่แล้วก็ตาม แต่กลับไม่นำเครื่องจักรเหล่านั้นมาใช้หรือไม่มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ส่งผลให้กระบวนการผลิตไม่มีคุณภาพ ไม่สามารถแข่งขันการตลาดกับประเทศเพื่อนบ้านได้ ดังนั้นจึงได้นำเสนอทางออกให้กับผู้ประกอบการเหล่านั้น 3 ประการคือ 1.ชี้ทางออกให้ผู้ประกอบการเห็นว่า ควรจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ โดยการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรทันสมัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ภายใต้การวางแผนพัฒนาที่ดี 2.พัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมรับสถานการณ์เศรษฐกิจ และ 3.ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่มีจุดมุ่งหมายในการช่วยเหลือ SMEs อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขการสนับสนุนด้านการเงิน ITAP เพื่อต้องการกระตุ้น และผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมได้ใช้บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในรูปแบบของผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการเพื่อสนับสนุนบริษัทอุตสาหกรรม สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการใช้ ผู้เชี่ยวชาญได้ 2 กรณีคือ 1.การเข้าไปศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้น สวทช.ให้การสนับสนุนค่าตอบแทน ไม่เกิน 2 วันต่อกรณี ในอัตรา 3,000 บาท/วัน แก่ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงหลังจากได้รับรายงานการวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้น 2.การเข้าไปจัดทำโครงการแก้ไขปัญหา การปรับปรุงหรือพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต โดยสวทช.ให้การสนับสนุนไม่เกินร้อยละ 50 ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในโครงการหรือไม่เกินวงเงิน 500,000 บาท/โครงการ ทั้งนี้เพื่อจุดมุ่งหมายให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตของตนเองด้วย ซึ่งพิจารณาจากฐานะทางการเงินของบริษัท ความร่วมมือของบริษัทในการดำเนินโครงการร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ความสามารถในการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ โดยการให้มีผู้เชี่ยวชาญไทยเข้าร่วมในโครงการด้วย และความสำเร็จของโครงการ ภายใต้ระยะเวลาดำเนินการโครงการละ 1-12 เดือน "สำหรับเป้าหมายของโครงการ ITAP ในปีนี้ จะมุ่งให้การสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางมากกว่าอุตสาหกรรมขนาดเล็ก เนื่องจากการมองเห็นว่าพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังขาดนักอุตสาหกรรม มีเพียงผู้ประกอบการที่เป็นพ่อค้าอยู่จำนวนมาก การดำเนินธุรกิจจึงใช้วิธีการซื้อมาขายไป แต่การพัฒนาธุรกิจที่ดีผู้ประกอบการต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล พัฒนาผลิตภัณฑ์ได้คุณภาพและตรงตามเป้าหมาย สุดท้ายราคาเสนอขายเท่าเดิม นั่นหมายถึงการเป็นผู้ประกอบการที่ดีจะต้องเป็นนักอุตสาหกรรมที่ดีด้วย" รศ.ณรงค์ กล่าว การที่โครงการ ITAP เน้นให้การสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลาง เนื่องจากมองว่าอุตสาหกรรมในกลุ่มนี้มีศักยภาพมากกว่าอุตสาหกรรมขนาดเล็ก รวมทั้งเมื่อพิจารณาจากสถิติการขอการสนับสนุนของผู้ประกอบการในปีที่ผ่านมาจำนวนกว่า 200 ราย พบว่าเข้าข่ายให้การสนับสนุนเพียงประมาณ 100 รายเท่านั้น ซึ่งในจำนวนดังกล่าว 70-80% สามารถดำเนินการภายใต้การสนับสนุนได้อย่างดี ส่วนที่เหลือ 20% ยังมีสภาพคงเดิม--จบ-- -ตม-

ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี+ณรงค์ วรงค์เกรียงไกรวันนี้

CHANGAN และ Shanghai Electric Drive ผนึก สวทช. ขับเคลื่อนการพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยี Hardware-in-the-Loop ของไทย

CHANGAN Automobile หรือ ฉางอาน ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะคาร์บอนต่ำ ร่วมกับ Shanghai Electric Drive ผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าชั้นนำ เดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยี Hardware-in-the-Loop (HIL) ของประเทศไทยผ่านสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตามนโยบาย EV30@30 ของภาครัฐที่มุ่งให้ยานยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 30% ของยอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) โดยได้จัดสรรชุดควบคุมมอเตอร์ (eDrive/Motor Controller) สำหรับใช้

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและน... วว. ผนึกกำลัง Health 104 ยกระดับผลิตภัณฑ์สุขภาพ/ความงามของไทย สู่ตลาดออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ — กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถ...

วว. ประสบผลสำเร็จคว้ารางวัลการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ จากเวทีเกาหลี - ฮ่องกง

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย คณะนักวิจัย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ด้วยการสนับสนุนของ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ประสบผลสำ...

"โปรตีนจากถั่ว" เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ย... วว. พัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์เปปไทด์ที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพระดับกึ่งอุตสาหกรรม — "โปรตีนจากถั่ว" เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน อุดมด้วยโปรตีนคุณภาพ...