ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศ A(tha) แก่ บริษัท เอ็ม บี เค พร็อพเพอร์ตีส์ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--ฟิทซ์ เรทติ้งส์ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้อันดับเครดิต ภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่อันดับ 'A(tha)' และระยะสั้นที่อันดับ 'F1(tha)'แก่บริษัท เอ็ม บี เค พร็อพเพอร์ตีส์ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)("MBK-PD")แนวโน้มมีเสถียรภาพ MBK-PD ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2517 และได้พัฒนาเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย MBK-PD ประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท คือ ธุรกิจศูนย์การค้า ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจผลิตและจำหน่ายข้าวสาร บริษัทเงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน)("NFS") เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองของ MBK-PD และมีสัดส่วนการถือหุ้น 17.6% ในขณะที่บริษัท ปทุมไรซ์มิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน)("PRG") ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของ MBK-PD มีสัดส่วนการถือหุ้นใน MBK-PD เกือบ 25.0% อันดับเครดิตของ MBK-PD สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท รวมถึงความสามารถของผู้บริหารที่สามารถนำบริษัทผ่านพ้นช่วงวิกฤตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2545 MBK-PD มียอดหนี้สินรวม 2.2 พันล้านบาท และมีหนี้สินสุทธิ 1.9 พันล้านบาทแบ่งเป็นหนี้สินระยะสั้น 33% และหนี้สินระยะยาว 67% อัตราหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (Net Debt/EBITDA) ของบริษัทอยู่ที่ระดับ 1.9 เท่า ในขณะที่อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย(EBITDA/interest expense) สูงถึงระดับ 43.3 เท่า เนื่องจากหนี้สินระยะยาวส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในรูปเงินค่าสิทธิการเช่าระยะยาวของธุรกิจศูนย์การค้า ในขณะที่ ความจำเป็นในการลงทุนใหม่ของ MBK-PD ในระยะ 3 ปีข้างหน้า ยังอยู่ในระดับปานกลาง โดยการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจโรงแรม ซึ่งรวมถึงการเปิดดำเนินการกิจการใหม่ของโรงแรมเชอราตัน กระบี่ บีช รีสอร์ท ในช่วงต้นปี พ.ศ.2546 อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความเป็นผู้นำทางด้านส่วนแบ่งการตลาดของ MBK-PD ในธุรกิจหลักทั้ง 3 ประเภท ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอรื ซึ่งสร้างกระแสเงินสดหลักให้กลุ่ม มีข้อได้เปรียบในส่วนของทำเลที่ตั้งและชื่อเสียงที่ดี อันเป็นผลให้มีอัตราเช่าพื้นที่เต็ม 100% ของจำนวนพื้นที่เช่าทั้งหมด นอกจากนี้ ที่ตั้งของศูนย์การค้าซึ่งอยู่ติดกับโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ได้มีส่วนช่วยขยายฐานของลูกค้าศูนย์การค้าให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าต่างประเทศมากขึ้น โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส เป็นโรงแรมระดับสี่ดาว ปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักที่สูงจากลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวและมีการเพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อันมีส่วนช่วยในการเพิ่มขึ้นของรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายข้าวสาร ถึงแม้ว่าส่วนแบ่งการตลาดในประเทศของ PRG จะลดลงเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น PRG ยังคงเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทข้าวถุงอันดับหนึ่งในประเทศ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 30-35% การแข่งขันในธุรกิจศูนย์การค้าแม้จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ข้อได้เปรียบของ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ในเรื่องของสถานที่ตั้ง ชื่อเสียงที่ดี และการปรับปรุงพื้นที่เช่าอย่างต่อเนื่อง ยังคงสนับสนุนให้ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ มีความสามารถในการแข่งขันที่ดีต่อไป สัญญาเช่าของ MBK-PD บนพื้นที่ที่ใช้ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์และโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ให้สิทธิ MBK-PD ทำสัญญาก่อนบุคคลอื่นในเงื่อนไขเดียวกันหลังจากสัญญาหมดอายุลงในปี พ.ศ.2556 ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของความต่อเนื่องในการดำเนินงานของศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส ความเสี่ยงอื่นของ MBK-PD ในการประกอบธุรกิจได้แก่ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโรงแรมอันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของการเมืองระหว่างประเทศ ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายข้าวสารที่ยังค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ MBK-PD ยังลงทุนที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักเป็นจำนวนเงินที่มีนัยสำคัญ โดยรูปแบบของการลงทุนส่วนหนึ่งเป็นการซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จากสถาบันการเงินซึ่งนับถือปัจจุบันยังให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ สำหรับรายงานฉบับสมบูรณ์ของบริษัท เอ็ม บี เค พร็อพเพอร์ตี้ส์ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หาได้จาก www.fitchratings.com หรือติดต่อ: วสันต์ ผลเจริญ,นักวิเคราะห์ ภาคอุตสาหกรรม + 662 655 4763 อรวรรณ การุณกรสกุล,CFA,ผู้อำนวยการอุตสาหกรรม + 662 655 4760 Vincent Milton,กรรมการผู้จัดการ + 662 655 4759 หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุนหรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้--จบ-- -กจ/สส-

• ข่าวอสังหาริมทรัพย์
• ข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์
• ข่าวฟิทซ์ เรทติ้งส์
• ข่าวเงินทุนธนชาติ
• ข่าวฟิทช์ เรทติ้ง