กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--อย.
สธ.นำทีมเฉพาะกิจตรวจค้นสถานที่เก็บยาสัตว์ผิดกฎหมาย 2 รายซ้อน ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบยาสัตว์น้ำและสัตว์บกประเภทยาปฏิชีวนะจำนวนมาก ซึ่งอยู่ในบัญชีรายชื่อยาต้องห้าม 16 รายการ จึงยึดของกลางไว้รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ น.พ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาสารพิษตกค้างในอาหารทั้งหมดตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นประเทศอาหารปลอดภัยภายในปีนี้ และได้ให้รองนายกรัฐมนตรีดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นผู้ติดตามกำกับ เพื่อให้มาตรฐานของอาหารทั้งภายในและภายนอกประเทศเป็นมาตรฐานเดียวกัน จากการประชุมได้มีการแบ่งงาน โดยกระทรวงสาธารณสุขจะทำการดูแล กำกับในเรื่องยาสัตว์ยาคนทั้งหมด ส่วนสินค้าส่งออกทั้งหมด เป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในวันที่ 7 มีนาคม 2546 ได้นำทีมเฉพาะกิจของ อย. เข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย 2 แห่ง คือ บริษัท ยูเนี่ยน แคสแทป จำกัดและบริษัท อินทิเกรท อะกริคัลเจอรัล จำกัด สถานประกอบการ เลขที่ 11/61 และ 11/11 หมู่ 20 ซ.อบต. ถ.นิมิตใหม่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นร้านผลิตอาหารสัตว์ จากการเข้าตรวจสอบพบมีการผลิตยาสัตว์เถื่อนจำนวนมาก โดยบริษัท ยูเนี่ยน แคสแทป จำกัด ผลิตทั้งยาปลอม ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ และยาที่ทะเบียนตำรับถูกยกเลิกแล้ว ส่วนบริษัท อินทิเกรท อะกริคัลเจอรัล จำกัด พบผลิตยาที่ไม่ได้รับอนุญาตและยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ ซึ่งยาทั้งหมดนี้เป็นยาปฏิชีวินะที่อยู่ในรายชื่อยาต้องห้ามที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศห้ามนำเข้า ยกเว้นได้รับหนังสือรับรองจาก อย.ก่อน
ในการนี้ ได้แจ้งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้ง 2 ราย โดยจะฟ้องทีละคดีเพื่อให้โทษหนักพอ เช่น ข้อหาผลิตและขายยาปลอม ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 1 หมื่นบาท ถึง 5 หมื่นบาท ข้อหาผลิตและขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการยึดของกลางทั้งหมดไว้เพื่อประกอบผลการดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิดทั้ง 2 รายต่อไปแล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในตอนท้ายว่า ในวันจันทร์นี้จะประสานกระทรวง เกษตรและสหกรณ์เพื่อปิดโรงงานอาหารสัตว์ที่ทำผิดกฎหมายดังกล่าว จึงขอเตือนไปยังโรงงานผลิตอาหารสัตว์อย่าลักลอบผลิตยาสัตว์โดยใช้อาหารสัตว์บังหน้า เพราะกระทรวงสาธารณสุขจะสอดส่องอย่างเข้มงวดเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค--จบ--
-รอ/นห-