ฟิทช์เพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของบริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด เป็น 'A(tha)'

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวและระยะสั้นของบริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด ("SPP") เป็น 'A(tha)' จาก 'A-(tha) และเป็น 'F1(tha)' จาก 'F2(tha)' ตามลำดับ แนวโน้มมีเสถียรภาพ การเพิ่มอันดับเครดิตในครั้งนี้สะท้อนถึงสัดส่วนการถือหุ้นของ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ("SCC") ที่ถือหุ้น 98% ใน SPP รวมถึง การเพิ่มอันดับเครดิตของ SCC โดยฟิทช์ ฟิทช์เห็นว่า SPP จะยังคงรักษาผลประกอบการและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรในอนาคตของเครือ SCC การปรับอันดับเครดิตใหม่นี้จะมีผลให้หุ้นกู้ของบริษัท เยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2544 มูลค่า 5 พันล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2547 และ ครั้งที่ 2/2544 มูลค่า 5 พันล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2549 ซึ่งค้ำประกันหนี้โดย บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับอันดับเครดิตที่ 'A(tha)' เช่นกัน โดยอันดับเครดิตของหุ้นกู้สะท้อนถึงการค้ำประกันหนี้โดยบริษัทแม่สถานะทางการเงินของ SPP จัดอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยในปีพ.ศ.2546 อัตราส่วนหนี้สินต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (Consolidated net debt to EBITDA ratio) อยู่ที่ 1.4 เท่า ในขณะที่อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย ต่อดอกเบี้ยจ่าย (EBITDA/Interest expense) อยู่ที่ 10.2 เท่า ถึงแม้ว่า SPP มีการใช้เงินลงทุนในการซื้อหุ้นเพิ่มในบริษัท United Pulp and Paper และ บริษัทไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) หนี้สินรวมของ SPP เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 1.1 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปีพ.ศ.2545 เป็น 1.4 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปีพ.ศ.2546 ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ค่อนข้างคงที่ของบริษัท ณ สิ้นปีพ.ศ.2546 สัดส่วนหนี้สินระยะสั้นของ SPP อยู่ที่ 55% (นับรวมหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปีนี้) ในขณะที่สัดส่วนหนี้สินระยะยาวอยู่ที่ 45% (นับรวมหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปีพ.ศ. 2549) เงินสดที่ใช้ในการไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปีนี้คาดว่าจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ในอนาคตหาก SPP มีความจำเป็นต้องกู้เงินเพิ่ม เงินกู้คาดว่าจะอยู่ในรูปของเงินกู้ยืมจากบริษัทแม่ ณ แผนการลงทุนปัจจุบัน SPP มีแผนที่จะปรับปรุงกำลังการผลิตในส่วนของกระดาษพิมพ์เขียนและกระดาษประเภทอุตสาหกรรม รวมถึงการเพิ่มโรงงานผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ภายในปีพ.ศ.2548 นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการลงทุนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตของบริษัท United Pulp and Paper และบริษัท ฟินิกซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด (มหาชน) ปีพ.ศ.2546 ยอดขายของ SPP เพิ่มขึ้น 15% ในขณะที่ EBITDA 9.7 พันล้านบาทอยู่ในระดับใกล้เคียงจากปีก่อน ส่วนต่างของ EBITDA (EBITDA margin) ลดลงจาก 32% ปีพ.ศ.2545 มาเป็น 29% ปีพ.ศ.2546 สืบเนื่องมาจากราคาวัตถุดิบของกระดาษประเภทอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นและการรวมบัญชีของบริษัท United Pulp and Paper เข้ามาใน SPP ความพยายามในการส่งเสริมการผลิตที่ครบวงจรรวมถึงแผนการลงทุนเพิ่ม ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะสนับสนุนการเติบโตของ SPP ในระยะ 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากในขณะนี้ บริษัทได้เดินเครื่องจักรที่เต็มกำลังการผลิต และส่วนต่างของผลกำไรของผลิตภัณฑ์ไม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงมากนัก ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในประเทศน่าจะช่วยให้ SPP สามารถเพิ่มสัดส่วนการขายในประเทศซึ่งโดยปกติมีส่วนต่างของผลกำไรที่ดีกว่า การแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทอาจส่งผลทางลบต่อยอดขายต่างประเทศของบริษัท อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของ SPP คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักในระยะ 2 ปีข้างหน้า ติดต่อ: อรวรรณ การุณกรสกุล, CFA, ผู้อำนวยการภาคอุตสาหกรรม +662 655 4766 วสันต์ ผลเจริญ, นักวิเคราะห์ ภาคอุตสาหกรรม +662 655 4763 Vincent Milton, กรรมการผู้จัดการ +662 655 4759--จบ-- -รก-

ข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์+เยื่อกระดาษสยามวันนี้

BAFS เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูดอกเบี้ย 4.75 - 5.10% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อแก่ "สถาบัน-รายใหญ่" วันที่ 9 - 14 พ.ค. นี้ รองรับการขยายตัวธุรกิจในอนาคต

BAFS เตรียมออกหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ [ 4.75 5.10 ] % ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือ "BBB (tha)" จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เตรียมเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายใหญ่ คาดจองซื้อระหว่างวันที่ 9 และ 13 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS ที่ 'AA(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ในเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative; RWN) ของอันดับเครดิต บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ท...