ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศ แก่หุ้นกู้ชุดใหม่ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวที่ระดับ ‘A(tha)’ แก่หุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน ไม่ด้อยสิทธิ ชุดใหม่ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ครั้งที่ 2/2547 ครบกำหนดไถ่ถอน ปี พ.ศ.2551 มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท โดยแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่จะนำไปใช้ในการชำระคืนหนี้ หุ้นกู้ของ SCC และหุ้นกู้ของบริษัทย่อยคือ บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) หรือ SPP ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในไตรมาส 4 ปี 2547 จำนวนรวม 1.1 หมื่นล้านบาท อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นของ SCC รวมถึงความสามารถในการสร้างผลกำไรในธุรกิจหลักที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต การที่ SCC ให้ความสำคัญในการลดระดับหนี้สิน การพัฒนารายได้ที่มาจากธุรกิจหลัก และการขายสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก เป็นปัจจัยสนับสนุนให้สถานะทางการเงินของ SCC มีการฟื้นตัวดีขึ้น โดย SCC มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานหลังหักเงินลงทุน (net free cash flow) เป็นบวกในช่วงระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2547 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (Consolidated net debt to EBITDA ratio) ของ SCC ลดลงมาอยู่ที่ 2.9 เท่า จากระดับ 3.5 เท่า ณ สิ้นปี 2546 หากรวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมและบริษัทอื่นๆ consolidated net debt to EBITDA ratio ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2547 จะลดลงอยู่ที่ระดับ 2.6 เท่า โดยมีแนวโน้มที่ SCC จะสามารถรักษาระดับ consolidated net debt to EBITDA ratioให้ต่ำกว่าระดับ 3.0 เท่าได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2547 และลดอัตราส่วนดังกล่าวไปที่ 2.0 เท่า ภายในสิ้นปี 2548 หนี้สินรวมของ SCC ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2547 อยู่ที่ระดับ 110.9 พันล้านบาท (ลดลงจากระดับ 117.2 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2546) ซึ่งประกอบด้วยหนี้สินระยะสั้น 36% และหนี้สินระยะยาว 64% โดยหนี้สินส่วนใหญ่อยู่ในรูปของหุ้นกู้ในประเทศ จากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นในปัจจุบันและผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต ส่งผลให้ SCC อยู่ในสถานะที่สามารถตอบสนองความจำเป็นที่ต้องลงทุนขยายธุรกิจ และมีความต้านทานความผันผวนของผลการดำเนินงานในอนาคตได้มากขึ้น SCC คาดว่าจะใช้เงินลงทุนในปี 2547/48 ส่วนใหญ่ในการปรับปรุงและขยายกิจการในกลุ่มธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์ โดยในระหว่างปี 2547 SPP ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ฟินิกซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PPPC จากสัดส่วน 64% ณ สิ้นปี 2546 เป็น 77.8% ในปัจจุบันและยังได้ทำการเสนอซื้อหุ้นในส่วนที่เหลือของ PPPC ด้วย ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินทั้งสิ้นประมาณ 4 พันล้านบาท เนื่องจากในปัจจุบันกลุ่มธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์มีการเดินเครื่องจักรเต็มกำลังการผลิตแล้ว SPP มีแผนการลงทุนเพิ่มในธุรกิจกระดาษพิมพ์เขียนและกระดาษเพื่ออุตสาหกรรมในช่วงปี 2548/49 นอกจากนี้ แผนการลงทุนอื่นๆ ของ SPP ประกอบด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของบริษัท United Pulp and Paper ในประเทศฟิลิปปินส์ และของบริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) ในส่วนของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี SCC ได้ซื้อหุ้นจำนวน 13.5% ในบริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPC ในระหว่างปี 2547 ซึ่งทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ SCC ใน TPC เพิ่มเป็น 39.6% โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 2 พันล้านบาท ในขณะนี้ SCC ยังไม่มีแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในธุรกิจปูนซีเมนต์และธุรกิจปิโตรเคมี SCC ประกาศกำไรสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2547 เพิ่มขึ้น 66% จากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2546 เป็นผลมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วมที่สูงขึ้นโดยส่วนใหญ่มาจากธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจเหล็ก และการลดลงของดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงิน ในครึ่งปีแรกของปี 2547 SCC มี EBITDA ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากผลประกอบการที่สูงกว่าความคาดหมายของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจปูนซีเมนต์และธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ในขณะที่กลุ่มธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์มี EBITDA อยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัวอันเป็นผลจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น แนวโน้มที่ยังคงดีของภาคธุรกิจก่อสร้างและภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ (ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักส่งเสริมการเจริญเติบโตของกลุ่มธุรกิจปูนซีเมนต์ และ กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง) รวมถึงแนวโน้มราคาในช่วงวัฐจักรขาขึ้นของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี จะเป็นปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานของ SCC ในช่วงปี 2547 ถึงปี 2548 ติดต่อ: อรวรรณ การุณกรสกุล, CFA, กรรมการ, ภาคอุตสาหกรรม + 662 655 4766 วสันต์ ผลเจริญ, นักวิเคราะห์, ภาคอุตสาหกรรม + 662 655 4763 เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, ผู้ช่วยกรรมการ, ภาคอุตสาหกรรม + 662 655 4760 Vincent Milton, กรรมการผู้จัดการ + 662 655 4759 หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่า ‘AAA’ ในระดับการจัดอันดับเครดิตแบบสากล (International Ratings) อันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตแบบสากล เนื่องจากอันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย แนวโน้มอันดับเครดิตบ่งบอกถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในช่วงหนึ่งถึงสองปีข้างหน้า--จบ-- --อินโฟเควสท์ (นท)--

ข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์+เยื่อกระดาษสยามวันนี้

ฟิทช์ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิต บมจ. เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ เป็น 'CCC+(tha)' และเพิกถอนอันดับเครดิต

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ FNS เป็น 'CCC+(tha)' จาก 'CCC-(tha)' และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ 'C(tha)' พร้อมกันนี้ ฟิทช์ได้ประกาศยกเลิกอันดับเครดิตทั้งหมดของ FNS การปรับเพิ่มอันดับเครดิต สะท้อนถึงความเสี่ยงด้านการรีไฟแนนซ์ที่ลดลงของ FNS หลังจากบริษัทฯ สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในเดือนตุลาคม 2568 ได้สำเร็จ ทั้งนี้

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ บ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่ 'A(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ที่ 'A(tha)' แนว...

ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ สำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศของ บริษัทเอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง และคงอันดับเครดิตที่ 'A(tha)'

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น "แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ" จากเดิม "แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ" และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ...

SAWAD ปลื้ม! ขายหุ้นกู้ 3,150 ล้านบาททะลุเป้า นักลงทุนสถาบัน รายใหญ่ตอบรับล้นหลาม เสริมฐานเงินทุนแข็งแกร่ง สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพและธรรมาภิบาลองค์กร

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยชั้นนำของประเทศ ประกาศความสำเร็จในการออกและเสนอขาย...

ฟิทช์ประกาศให้อันดับเครดิตพันธบัตรสกุลเงินบาท ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยที่ 'AAA(tha)'

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิตแก่พันธบัตรประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือ EXIM ('AAA(tha)'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ที่ 'AAA(tha)...

ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันสกุลเงินบาท ของ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ที่ 'A-(tha)'

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่กำลังจะออกเสนอขายของ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด ...

ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ ปตท. และ ปตท.สผ. เป็นลบ; คงอันดับที่ 'BBB+'

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลระยะยาว (International Long-Term Issuer Default Rating: IDR) ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) เป็นลบ จากเดิมแนว...