นักวิจัยเปิดเผยผลงานวิจัยอีก ๒๐ ปีคนแก่ล้นประเทศ

01 Jul 2005

กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ

เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๔๘ ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าวเรื่องประชากรของประเทศไทย พุทธศักราช ๒๕๔๘ ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ ปราโมทย์ ประสาทกุล อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยประชากรและสังคม เปิดเผยถึงผลงานวิจัยเรื่องสถานการณ์ประชากรไทยปี ๒๕๔๘ ว่า กลางปี ๒๕๔๘ ประเทศไทยมีประชากรไทยทั้งสิ้น ๖๒.๒ ล้านคนเกือบ ๕๐ % อายุมากกว่า ๓๐ ปี และมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในไทย ประมาณ ๒.๒ ล้านคน มีเด็กทารกเกิดปีละ ๘ แสนคน ตายปีละประมาณ ๔ แสนคน แต่ในช่วงระหว่างปี ๒๕๐๖ ถึง ๒๕๒๖ เป็นช่วงที่มีอัตราการเกิดมากกว่าปกติ โดยมีการเกิดมากกว่าปีละ ๑ ล้านคน เรียกว่าประชากรรุ่นเกิดเกินล้าน ปัจจุบันมีอายุระหว่าง ๒๒ ถึง ๔๒ ปี สิ่งที่น่าสนใจคืออีก ๒๐ ปี ข้างหน้ากลุ่มดังกล่าวเคลื่อนมาสู่วัยชรา จะทำให้เกิดวิกฤตคนแก่ที่มีช่วงจำนวน ผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก อีกทั้งช่วงอายุดังกล่าวมีการแต่งงานน้อย มีลูกน้อยจากเดิมเฉลี่ย ๔ ถึง ๕ คน เหลือเพียงเฉลี่ย ๑.๗ คนเท่านั้น ซึ่งคาดได้ว่าในอนาคตจะมีอัตราการฆ่าตัวตาย การทิ้งร้างในผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้นมาก

"ถ้าคนในรุ่นประชากรเกิดเกินล้าน ไม่มีการวางแผนการในอนาคต ไม่เตรียมพร้อมที่จะแก่ ไม่มีการออมเงินไว้ใช้ในยามแก่เฒ่าจะเกิดปัญหาอย่างวิกฤตด้วย เก็บออมในวันนี้เพื่อใช้ในอนาคต อย่าฟุ้งเฟ้อ อย่ามัวแต่ใช้เงินในอนาคต นอกจากนี้ควรดูแลสุขภาพของตนเองให้ดีและยังต้องหาหลักประกันให้กับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหรือการเข้าอยู่ระบบหลักประกันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบประกันสังคมหรืออื่นใดก็ตาม อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้มีลูกเป็นจำนวนมาก เพื่อหวังที่จะให้เลี้ยงดูยามแก่ เพราะต้องลงทุนด้านการศึกษา การกล่อมเกลาจิตใจ และก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เมื่อบุตรโตจะไม่ทอดทิ้งในยามที่แก่เฒ่า"

(ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๔๘)--จบ--