ภาคเอกชนน้อมรับหากรัฐปรับขึ้นดีเซล 3 บาทต่อลิตร ขณะที่สอท.ไม่ส่งหนังสือขึ้นราคาสินค้า แต่ให้แต่ละรายส่งกันเอง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--สอท.

นายสันติ วิลาศศักดานนท์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( สอท. ) เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลจะปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอีก 3 บาทต่อลิตร ว่า ภาคเอกชนส่วนใหญ่ด้วยกับรัฐบาล เพราะคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของภาคอตุสาหกรรมและสินค้าที่ออกจากโรงงานมากนัก เพราะโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีการใช้พลังงานจากไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ หรือ น้ำมันเตา มากกว่าการใช้น้ำมันดีเซล ประกอบกับเป็นการปรับขึ้นเพียงครั้งเดียว และหลังจากนั้นรัฐบาลก็จะเว้นสักระยะ เพื่อดูราคาสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกว่าจะเป็นเช่นไร ซึ่งจะทำให้เกิดความชัดเจนในการปรับ ขณะที่ทางภาครัฐเองก็จะเข้ามาดูในเรื่องต้นทุนราคาสินค้า การลักลอบการปรับขึ้นราคาสินค้า รวมถึงยังเป็นการช่วยลดภาระของกองทุนน้ำมันที่ต้องเข้าไปชดเชยการตรึงราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาด้วย ทั้งนี้เห็นว่าหากรัฐบาลมีการทยอยปรับขึ้นครั้ง 1 บาทต่อลิตร นั้นจะต้องมีการปรับขึ้นอีกหลายครั้งอาจทำให้เกิดการกักตุนสินค้าเพื่อการเก็งกำไรได้ ประกอบกับประชาชนและผู้ประกอบการอาจเกิดความกังวลว่ารัฐจะปรับขึ้นอีกเมื่อใด เท่าไร แต่อย่างไรก็ตามสอท.ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแลเรื่องราคาค่าขนส่งสินค้า เพราะหากราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นค่าขนส่งต้องขยับตัวขึ้นตาม ซึ่งย่อมส่งผลต่อราคาสินค้าต้องมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งกระทรวงคมนามคมต้องดูแลไม่ให้ ผู้ประกอบการขนส่งสินค้ามีการปรับราคาขึ้นเกินจริง สำหรับการทำหนังสือไปยังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอปรับขึ้นราคาสินค้านั้น ทางสอท. ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการเอง แต่ได้ให้ทางผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกแต่ละรายเป็นผู้ส่งหนังสือขอปรับขึ้นไปยังกระทรวงพาณชย์เอง เนื่องจากเห็นว่ามีกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก และแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ตัวสินค้าก็มีต้นทุนที่แตกต่างกัน อาจจะมีต้นทุนขึ้นลงมากน้อยแตกต่างกันด้วย ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์เองก็มีสูตรราคาต้นทุนอยู่แล้ว จึงน่าจะมีความเหมาะสมในการพิจารณา นอกจากนี้นายสันติ ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะมีการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ว่า สอท.กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำแนวทางการปรับโครงสร้างภาคอุตสาหกรรม เพื่อเสนอถึงรัฐบาล ให้พิจารณากำหนดแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรม เนื่องจากหากภาคอุตสาหกรรมของไทยไม่มีการปรับตัวก็จะไม่สามารถขันแข่งได้ในเวทีการค้าโลกได้ในอนาคต สำหรับแนวทางการปรับโครงสร้างจะประกอบด้วยการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน การลดการใช้พลังงานภาคอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาบุคคลากรที่มีฝีมือ การรักษาสภาพแวดล้อมควบคู่กับการใช้พลังงานทดแทนให้เกิดประโยชน์ โดย สอท. จะเสนอให้มีการปรับโครงสร้างเป็นรายอุตสาหกรรมซึ่งจะเริ่มจากอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมายของรัฐบาล อาทิ อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุงห่ม--จบ--

ข่าวสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย+สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศวันนี้

ส.อ.ท. จับมือ ธปท. ผนึกกำลังเสริมเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย รับมือบาทแข็ง-ภาษีสหรัฐฯ-ปัญหาสภาพคล่องธุรกิจ

วันที่ 21 ตุลาคม 2568 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำโดย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. หารือความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นำโดย นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธปท. เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินและความมั่นคงของประเทศ ณ ห้อง Passion (802) ชั้น 8 ส.อ.ท. "ประเทศไทยเผชิญความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการรับมือผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ การส่งเสริมการเปิดตลาดใหม่ การกระตุ้นและพลิกฟื้นเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาหนี้และสภาพคล่องของภาคธุรกิจ การลดต้นทุนพลังงาน มาตรการ

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับศูนย์บร... ส.อ.ท. จับมือ CBS-กสิกร-บพค. ยกระดับ SMEs ไทยสู่ SMART SMEs ด้วย Digital & AI — สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับศูนย์บริการวิชาการและฝึกอบรม จุฬาลงกรณ์ม...

บริษัท เบเยอร์ จำกัด นำโดย ดร.วรวัฒน์ ชัย... เบเยอร์คว้ารางวัล Climate Action Award ตอกย้ำผู้นำสีรักษ์โลกอันดับหนึ่ง มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero — บริษัท เบเยอร์ จำกัด นำโดย ดร.วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธาน...